posttoday

‘ส่งอิ่มแลกยิ้ม’ สิ่งดีๆ ที่เรียกว่าการให้

12 กันยายน 2558

เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมามีการส่งต่อรูปและข้อความผ่านโลกโซเชียลถึงเรื่องราวหนึ่ง

โดย... พงศ์ พริบไหว ภาพ... รวิน ณ ถลาง

เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมามีการส่งต่อรูปและข้อความผ่านโลกโซเชียลถึงเรื่องราวหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้อ่านก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ กับความน่ารักเอามากๆ ของครอบครัวใจบุญครอบครัวนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยการพาครอบครัวไปทำบุญกับภารกิจ “ส่งอิ่มแลกยิ้ม” ด้วยการทำกับข้าวกล่องอร่อยๆ จากนั้นก็นำข้าวขึ้นบนจักรยานเพื่อปั่นแจกตามตรอกนำไปมอบให้กับคนยากไร้บริเวณสนามหลวงและพื้นที่ใกล้เคียงได้อิ่มท้อง

หลังจากได้ทำตามที่ตั้งใจ ผู้นำครอบครัวอย่าง รวิน ณ ถลาง ก็ได้เขียนข้อความทำนองว่า อาทิตย์ก่อนเราปั่นจักรยานจากบ้านไปสนามหลวง ภาพที่เราเจอคือมีคนมากมายนอนตามสนามหญ้าตามสวน เรายอมรับความจริงว่าเราเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่เราทำให้มันน่าอยู่ได้ บอกคนที่บ้านว่าสิ้นเดือนทำข้าวกล่องแล้วปั่นจักรยานแจกกันดีกว่า เราไม่ได้มีมากมาย เราคิดว่าเราแบ่งปันได้ เราชอบรอยยิ้มเขาเวลาเขาได้ข้าวจากเรา ลูกเราก็ได้มีส่วนร่วมและมีรอยยิ้มที่เป็นสุข สุดท้ายเพียงอยากจะบอกว่าเราทำนิด คุณทำนิด รอยยิ้มคงเพิ่มขึ้น

นั่นเองเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นการให้ในอีกรูปแบบ การให้ที่คนในครอบครัวตั้งใจทำขึ้นเพื่อแบ่งปันให้ผู้ที่ขาดพร่อง แม้เป็นเพียงการกระทำเล็กๆ แต่กลับทำให้เห็นความตั้งใจจริงของการแบ่งปันที่ต่างออกไป ซึ่งหลังจากข้อความนี้ถูกส่งต่อก็มีผู้คนไม่น้อยสนใจในกิจกรรมนี้และก็มีเข้ามาสอบถาม แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องค่านิยมเขาเองจึงรอเวลาที่จะสานต่อกิจกรรมนี้กับคนหมู่มาก ซึ่งก็น่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มกันในอีกไม่นานนี้

‘ส่งอิ่มแลกยิ้ม’ สิ่งดีๆ ที่เรียกว่าการให้

 

รวินได้กล่าวถึงสิ่งที่พวกเขาตั้งใจทำต่อว่า แม้สิ่งที่ทำอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมาย แต่ด้วยความที่เขาเองเข้าใจความหิวมาก่อน และรู้ค่าว่าสำหรับมนุษย์บางคน ข้าวถุงเล็กๆ นี้แหละที่จะสามารถทำให้อิ่มท้องและมีแรงต่อสู้บนโลกที่โหดร้ายไปได้อีกหนึ่งวัน ก่อนเจ้าตัวจะเล่าต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า

“คือเราเองเป็นคนชอบทำบุญ ปกติก็จะทำบุญอยู่แล้วตามวัดหรือทำอาหารไปเลี้ยงคน ซื้อข้าวไปให้หมาอะไรแบบนั้น ก็ทำเดือนละ 2 ครั้ง อยู่เป็นประจำ แล้ววันหนึ่งเราเองมีโอกาสออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานจากบ้านที่คลอง 3 ไปสนามหลวง ซึ่งพอเราได้ปั่นไปทีนี้ตาเราได้เห็นสิ่งต่างๆ มากมายกว่าตอนที่ขับรถ แล้ววันนั้นเราเห็นมีคนนอนอยู่ตามสนามหญ้าเยอะมาก เราก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นว่า ทำไมเดี๋ยวนี้โลกมันโหดร้ายจัง เราน่าจะทำอะไรได้บ้างให้พวกเขา พอกลับบ้านมาเราก็บอกแฟนกับลูกเลยว่า อยากชวนทำอาหารไปแจกคนที่สนามหลวง”

หลังจากนั้นรวินก็โพสต์แจ้งข่าวเพื่อนๆ ถึงความตั้งใจเพราะอยากชวนคนที่อยากทำบุญมาร่วมกัน โดยครั้งแรกที่ไปเจ้าตัวพาครอบครัวปั่นไปแจกข้าว ก็ทำกันแบบเล็กๆ ก่อนเน้นง่ายเพื่อความสะดวก ส่วนเพื่อนที่อยากร่วมทำบุญด้วยก็ปันกันมาในลักษณะของขนมก่อน โดยในครั้งต่อไปก็จะมีการนัดแนะกับคนที่อยากร่วมกิจกรรมไว้ปลายเดือนที่จะถึงนี้ดังความตั้งใจ ซึ่งเจ้าตัวจะจัดข้าวเป็นชุดๆ ไว้เพื่อง่ายในการแจก ซึ่งอาหารที่นำไปก็ตื่นมาปรุงกันแต่เช้าตรู่ พอเสร็จก็หอบหิ้วกันไปด้วยจักรยาน 3 คัน

‘ส่งอิ่มแลกยิ้ม’ สิ่งดีๆ ที่เรียกว่าการให้

 

“เราทำข้าวไปแจกก็ทำแบบที่เรากินเลยนะ ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กับข้าวก็ทำแบบอร่อยๆ อย่างที่เราชอบ ในนั้นก็จะครบเลย ก็มานั่งจัดใส่กล่องกันอย่างดีเลย แล้วก็เอาไปแจกซึ่งมันก็มีคนถามว่าทำไมเราต้องปั่นจักรยานไปแจกให้มันยาก คือจักรยานมันดีตรงที่มันสามารถทะลุไปตามตรอกตามซอยได้จริงๆ คืออย่างคนไร้บ้านบางคนอยู่ในซอยลึกมาก คือบางทีเขาก็ป่วยก็ไม่กล้าออกมาเจอผู้คนหรือออกมาเอาของแจกเองหรอก เราเองก็สามารถเข้าไปถึงตัวได้ง่าย เราก็เอาข้าวขนมกับนมไปได้ 30 กว่ากล่อง แล้วก็ปั่นไปเรื่อยๆ เพื่อแจก ซึ่งพอเราได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ได้กินข้าวของเรา มันมีความสุขนะ

“คือเรารู้สึกดีมากที่ได้ทำแบบนี้ ครอบครัวเราก็ด้วย เราเริ่มทำกันแค่เล็กๆ แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขเยอะมาก อย่างมีเรื่องหนึ่งที่เราประทับใจ คือเราเห็นคนไร้บ้านคนหนึ่งนอนอยู่ ก็ตะโกนถามเขาว่าทานข้าวหรือยังเอาข้าวไหม เขาก็ยิ้มแล้วแฟนผมกับลูกก็เอาข้าวไปให้ ปรากฏว่าคนนั้นเขาไปไหนมาไหนไม่ได้เป็นโรคท้าวแสนปม พอเขาได้ข้าวก็รีบกินเลยเขาคงหิว หน้าตาเขาดีใจมากเลยนะ แล้วเราก็รู้สึกว่าเขากินข้าวเราอร่อยมาก เหมือนเราไม่ได้ให้อะไรมากแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้อิ่ม คือมันเป็นข้าวแค่กล่องเดียวนะ แต่เรารู้สึกได้เลยว่าคนที่ได้รับเขาดีใจมาก เราก็ได้ความสุขตรงนั้นเป็นสิ่งตอบแทน คือเรารู้สึกแหละว่าสิ่งที่ทำมันคุ้มค่า อาจไม่ได้ทำบ่อยเพราะเรื่องของเวลา แต่เราก็ใช้หนึ่งวันตั้งแต่เช้าถึงมืดอย่างคุ้มจริงๆ ซึ่งต่อจากนี้เราก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำแบบนี้ทุกวันเสาร์สิ้นเดือน ส่วนใครอยากทำแบบผมก็ไม่หวง มานัดกันไปทำบุญก็ได้ จะได้รู้ว่าผมมีความสุขยังไง”

เจ้าของเรื่องราวพูดถึงสิ่งที่เขาและครอบครัวทำด้วยน้ำเสียงที่เป็นสุข และเชื่อแน่ว่าคนไร้บ้านที่ได้ทานกับข้าวฝีมือของครอบครัว ณ ถลาง ก็คงมีความสุขไม่ต่างกัน สุดท้ายเจ้าของความคิดบอกกล่าวไว้ว่า อยากให้ผู้คนมาทำแบบนี้กันเยอะๆ ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยอย่างน้อยๆ คนไร้บ้านก็จะได้อิ่มกว่าเก่า และเราคนทำก็จะอิ่มเอมในหัวใจเช่นกัน งานนี้หากใครอยากร่วมกิจกรรม “ส่งอิ่มแลกยิ้ม” สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงกับรวินได้ที่โทร. 08-7919-5191

‘ส่งอิ่มแลกยิ้ม’ สิ่งดีๆ ที่เรียกว่าการให้

 

ข่าวล่าสุด

ไทยเจ้าภาพประชุมโลก ผนึกกำลัง 60 ชาติปราบสแกมเมอร์ข้ามชาติ