posttoday

ผู้ประกาศข่าวมาดเนี้ยบ อัครพล ทองธราดล

08 กันยายน 2558

ผู้ประกาศข่าวหนุ่มโสด อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล แห่งช่อง 8 ข่าวเด่นช่วงเที่ยงวันและข่าวเย็น

โดย...ณัฐดนัย คุณกมุท และวราภรณ์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ผู้ประกาศข่าวหนุ่มโสด อ๊อฟ-อัครพล ทองธราดล แห่งช่อง 8 ข่าวเด่นช่วงเที่ยงวันและข่าวเย็น การันตีความหล่อด้วยตำแหน่งรองหนุ่มแพรว และอดีตนักแสดงช่อง 7 ที่ผันตัวเองมาอ่านข่าวอยู่เบื้องหน้า เห็นเป็นหนุ่มหล่อเนี้ยบแบบนี้ แต่อัครพลบอกว่าเขาเป็นหนุ่มขี้อาย

การเป็นทั้งผู้ประกาศข่าวและนักแสดงจึงต้องใส่ความกล้า แต่เมื่อผู้ชมชื่นชอบในงานที่เขาทำถือเป็นกำลังใจที่ผลักดันให้เขาสร้างสรรค์งานเบื้องหน้าไม่หยุดนิ่ง จากอาชีพนักแสดงแต่ผันตัวมาเป็นผู้ประกาศข่าวที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบและลีลาการอ่านให้เป็นสไตล์ของตัวเอง หนุ่มหล่อคนนี้มีคำตอบ

“ประสบการณ์การเป็นผู้ประกาศข่าวของผมเริ่มเมื่อ 7 ปีที่แล้วที่ช่องไทยพีบีเอส แต่จุดที่สำคัญที่พลิกชีวิตให้ผมก้าวขึ้นสู่ผู้ประกาศข่าว เริ่มตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมเป็นนักแสดงอยู่ช่อง 7 มีพี่คนหนึ่งตัดกระดาษที่รับสมัครผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่มาให้ผม ผมคิดว่าน่าสนใจจึงลองไปเทสต์ดูแล้วก็ได้ผ่านเข้ารอบอบรมสุดท้าย ได้ฝึกทักษะการอ่านข่าวต่างๆ ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้ เพราะนักข่าวก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ความรู้เชิงลึก ความรู้พื้นฐานของข่าวทั่วๆ ไปที่คนควรจะต้องรู้ ข่าวสารบ้านเมือง ความเป็นไปของบ้านเมือง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะชอบความบันเทิงมากกว่า มันก็เป็นการยกระดับตัวเราเองอีกทางหนึ่งทำให้ผมโตขึ้น ผมอาจจะได้เปรียบ เพราะผมก็สนใจข่าว แล้วก็มีส่วนของการออกเสียงที่ถูกฝึกมาตั้งแต่ตอนเป็นนักแสดงด้วย แต่ช่วงนั้นผู้ใหญ่เห็นว่าผมยังเหมาะกับนักแสดงมากกว่า ผมจึงลุยงานแสดงพร้อมกับค่อยๆ ฝึกออกเสียงไปเรื่อยๆ”

ผู้ประกาศข่าวมาดเนี้ยบ อัครพล ทองธราดล

 

การทำงานนักแสดงควบคู่กับการเป็นอาจารย์สอนด้านบุคลิกภาพที่จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ไปด้วย ดังนั้นเรื่องการวางตัวและบุคลิกภาพของเขาจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงหล่อเนี้ยบ

พอได้มาเป็นผู้ประกาศเต็มตัว อัครพลบอกว่า เขาค้นพบความยากและท้าทายตรงที่เขาต้องปรับตัว ต้องมีวินัยสูง เพราะข่าวมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา เขาจึงต้องอัพเดทข่าวใส่สมองตลอดทุกวินาทีเพื่อให้ทันเหตุการณ์ผ่านโลกโซเชียล เช่น ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กเฉพาะบุคคลของแหล่งข่าว หรือมีการสัมภาษณ์แหล่งข่าวเชิงลึก เพื่อให้คนดูได้ข้อมูลมากที่สุดและได้ไปคิดต่อเมื่อถึงเวลาต้องนำเสนอข่าว

“ผมต้องปรับการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมงเลยครับ เพราะคิดว่าเราต้องทำงานข่าวให้ดี ไม่ใช่ทำแค่สนุกๆ ผมต้องเสพทุกๆ สื่อเพื่อเติมอาหารสมองเข้ามาเรื่อยๆ อันไหนเข้าใจไม่เข้าใจก็ต้องมานั่งเขียนนั่งสรุปนั่งไล่เรียงเรื่อง หรือมานั่งดูผู้ประกาศรุ่นพี่ที่เขาเก่งๆ ว่าเขามีมุมมองหรือวิเคราะห์เรื่องต่างๆ เป็นแบบไหน ซึ่งนักข่าวรุ่นพี่ที่ผมชอบดูเขาเป็นตัวอย่าง เช่น พี่บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ เขาเป็นทั้งพิธีกรและผู้ประกาศข่าวที่เก่ง ทำงานได้ไหลลื่นครับ ซึ่งเรามีพื้นฐานที่ใกล้ๆ กัน จากนักแสดงมาเป็นผู้ประกาศข่าวและผันตัวมาเป็นอาจารย์ ลักษณะงานใกล้เคียงกับแนวทางที่เราจะดำเนินรอยตามได้ ส่วนพี่กนกก็จะมีแนวทางเน้นฮาๆ วิเคราะห์ข่าวได้เชิงลึกแบบสบายๆ หน่อย ซึ่งผมก็ชอบ หรือพี่ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ พี่ดนัยเก่งด้านวิเคราะห์เชิงลึก วิเคราะห์การเมือง สัมภาษณ์รัฐมนตรี สัมภาษณ์แหล่งข่าวใหญ่ๆ เราก็จะได้ข้อมูลที่ค่อนข้างดีครับ”

การพัฒนาตัวเองให้เก่งหรือรู้รอบด้านด้านข่าวสาร อัครพลมีเทคนิคเฉพาะตัว ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของผู้ประกาศข่าวควรมีคือ การเสพข่าวสารทุกช่องทาง ซึ่งยุคใหม่หน่อยก็เสพข่าวผ่านแอพพลิเคชั่นสำนักข่าวที่ทำให้สะดวกขึ้น ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ต้องอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า

ผู้ประกาศข่าวมาดเนี้ยบ อัครพล ทองธราดล

 

“ตอนนี้ไลฟ์สไตล์ของผมทุกๆ วัน คือตื่นเช้าตรู่ 6 โมงเช้าทุกวัน ต้องซื้อหนังสือพิมพ์อย่างน้อยๆ 4 หัว มาดูมาอ่านข้อมูลทุกเช้าและเป็นในด้านที่ครอบคลุมงานของเรา เช่น ด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมืองคละกันไป บางฉบับก็เน้นข่าวชุมชน เพราะช่อง 8 เน้นข่าวชุมชน ทั้งนี้ผมก็ต้องรู้ทุกด้าน แต่เน้นข่าวชุมชน เพราะเป็นข่าวที่ใกล้ตัวกับคนดูมากกว่า ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ อย่างเดียว มันคือทุกๆ ภาคมีความสำคัญทั้งหมด แล้วก็จะมีเชิงความเชื่อ อาชญากรรม ปัญหาในชุมชน ซึ่งข่าว 2 ช่วงที่ผมทำคือ ข่าวเด่นจะเป็นการอัพเดทข่าวครึ่งวันเช้า แล้วก็เป็นความคืบหน้าต่างๆ ส่วนข่าวเย็นก็อาจจะมีเจาะเฉพาะประเด็นเชิงลึกบ้างที่ทีมข่าวสนใจ เช่น ช่อง 8 จะชอบเล่นเรื่องความเชื่อ อย่างตอนที่มีไฟปริศนาในบ้านก็ไปเฝ้าตามเหตุการณ์อยู่ เราก็จะมาผสมด้านวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้าไปจากอาจารย์ เหมือนเราให้ความรู้ใหม่ๆ กับคนดูด้วยครับ”

ตลอดระยะเวลา 7 ปีของการทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าว อัครพลค้นพบเสน่ห์ของอาชีพนี้คือ หากรู้เรื่องในข้อมูลข่าวสารที่จะรายงาน เขามีความเข้าใจก็จะเล่าอธิบายด้วยความเข้าใจ อีกทั้งยังมีความท้าทาย เพราะด้วยโลกของทีวีดิจิทัลที่มีหลายช่องให้ผู้ดูได้เลือกเสพ การแข่งขันจึงขยับสูงตามไปด้วย

“ถ้าย้อนไปตอนที่ผมทำช่องฟรีทีวี ไทยพีบีเอสก็มีระเบียบเรื่องของกฎข้อบังคับ จริยธรรมค่อนข้างเยอะในการจัดรายการ แต่มันก็เป็นข้อดี ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานในการทำงาน ซึ่งผมสามารถเอาหลักจริยธรรมการทำงานนั้นมาใช้ยกระดับทีวีดิจิทัลได้ กล่าวคือ สิ่งไหนควรพูด สิ่งไหนไม่ควรพูด ควรมีการนำเสนอให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย การวิเคราะห์หรือเสนอประเด็นหรือข้อมูลใหม่ๆ ต้องระมัดระวัง การทำงานกับช่อง 8 เป็นการทำงานกับหลายๆ ภาคส่วนเข้ามา แต่ส่วนตัวผมเองต้องนำเสนอให้ดีและต้องมีความน่าเชื่อถือและก็เข้าถึงในตัวเนื้อข่าว ความเข้าใจในข่าว ที่สุดมันจะทำให้คนดูเป็นแฟนช่อง 8 ได้และติดตามต่อเนื่อง เพราะแฟนคลับส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการให้ความไว้ใจเหมือนคนที่จะมาเล่าเรื่องหนึ่งให้คนเชื่อได้ ผมอยากให้คนดูข่าวช่อง 8 แล้วได้รับทั้งความรู้และความสนุก ความเข้าใจง่ายๆ กลับไป ผมว่างานข่าวมันต้องใช้เวลาบ่มเพาะประสบการณ์ แม้ปัจจุบันผู้ประกาศข่าวรุ่นน้องๆ จะเกิดใหม่เสมอ แต่ผู้ประกาศข่าวรุ่นพี่ๆ ก็จะได้เปรียบรุ่นน้องตรงที่เรามีทุนในสมองที่มากกว่า เราก็ไม่ประมาท เพราะว่าถ้าเราหยุดการพัฒนาตัวเองทุกอย่างก็จบครับ”

ผู้ประกาศข่าวมาดเนี้ยบ อัครพล ทองธราดล

 

สำคัญมากๆ กับการเป็นผู้ประกาศข่าวหรือทุกอาชีพก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อให้คนจดจำได้ง่าย อัครพลก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงความเป็นตัวของตัวเอง การเล่านำเสนอข่าวเชิงสนุก ต้องมีพลังในการเล่ามากขึ้น ให้คนเข้าใจง่ายขึ้น นี่คือคาแรกเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นให้กับการอ่านข่าวในปัจจุบัน เวลาอ่านข่าวต้องมีลีลาชั้นเชิง เกิดความสนุกในการติดตามข่าว

“สมัยนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนดูก็ต้องการความสนุกในข่าวเหมือนกันกับข่าวนั้นๆ ต้องใส่อรรถรสลงไปเล็กน้อย ด้วยน้ำเสียง พลัง ใส่ลงไปในข่าวครับ”

สำหรับความฝันหรือจุดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพนี้ของอัครพลคือ การทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุดทุกช่วงจังหวะของชีวิต

“จริงๆ ทำงานให้ดีที่สุด คนดูเยอะๆ ชอบเรามากๆ นั่นก็คือความสุขที่สุด ความฝันด้านการเป็นผู้ประกาศข่าวของผมด้านตำแหน่งสูงๆ ผมไม่ได้ยึดติด คือพื้นฐานการเป็นผู้ประกาศก็ต้องรับผิดชอบในทุกส่วนงาน ทีมงานก็ต้องไปด้วยกัน ผมมองอย่างนั้นมากกว่าครับ ถึงจะอยู่หน้าจอแต่ก็ต้องช่วยกันหลังจอเป็นการแนะนำหรือว่าปรึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กันและกันครับ ถ้าอนาคตก็คงอยากมีรายได้ในระดับหนึ่งแล้วก็ดูแลครอบครัวเราสบายๆ บริหารการเงินให้มันลงตัวและให้เงินมันทำงานของมัน เช่น อาจจะเป็นการลงทุนในเชิงหุ้นหรืออาจจะเป็นกองทุน ซึ่งถ้ามันมีมากพอแล้วก็จะต้องบริหารจัดการเงินให้มันลงตัว แล้วก็ในทุกๆ เดือนเราทำงานไปเราก็มีเงินมาเลี้ยงครอบครัวด้วยครับ”

ด้านการทำงานก็ต้องรู้จักการวางแผนชีวิต ดูแลด้านการเก็บออมเพื่ออนาคตที่มั่นคง แต่ก็อย่าละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย หนุ่มอ๊อฟเน้นหนักเรื่องจัดชีวิตให้สมดุล เพราะเขาเคยเป็นหนุ่มที่มีรูปร่างผอมมาก่อน แต่เมื่อเข้าวงการจึงต้องฟิตหุ่นให้มีกล้ามเนื้อ อาศัยการเข้าฟิตเนส เตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ บ้าง เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้ความสนุกด้วย

ผู้ประกาศข่าวมาดเนี้ยบ อัครพล ทองธราดล

“เป็นผู้ประกาศข่าว จริงๆ แล้วก็ต้องดูแลรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่งหน้าเยอะบางทีก็สิวขึ้น อาจจะต้องพึ่งนวัตกรรมด้านความงาม เช่น ยิงเลเซอร์ให้หน้าใสบ้าง (ยิ้ม) เพราะอายุก็เลข 3 แล้วก็ยิ่งต้องบำรุงผิวพรรณ ผสมผสานกับการกินอาหารเน้นโปรตีนและวิตามินเพิ่มขึ้นมา ผมให้ความสำคัญกับการดูแลรูปร่างค่อนข้างมากครับ ต้องไปเตะฟุตบอลอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วัน ให้เหงื่อออก ได้เอาของเสียออก แต่ผมคิดว่าไม่พอบางครั้งก็อาจจะมีวิธีอื่น เช่น หลีกเลี่ยงการขึ้นลิฟต์ไปเดินขึ้นบันไดหนีไฟที่คอนโดแทน หรือเล่นฟิตเนสที่ห้อง ยกดัมเบล วิดพื้น หรือทำอย่างอื่นที่ออกกำลัง ยังไงก็ต้องหาเวลาออกกำลังกายบ้าง

“ส่วนอาหารผมเลือกกินอาหารที่ไม่ใส่ผงชูรส ซึ่งติดนิสัยมาจากที่บ้านและผมติดรสมือของคุณแม่มาก ทำให้ผมไม่ชอบไปกินข้าวนอกบ้าน บางสัปดาห์คุณแม่ก็จะทำอาหารใส่ปิ่นโตมาให้กินที่คอนโด เพราะผงชูรสส่งผลเสียโดยตรงต่อการอ่านข่าวพอสมควร ทำให้คอแห้ง เวลาอ่านข่าวแล้วคอแห้งก็จะมีปัญหาพอสมควร อ่านไปเรื่อยๆ คอก็จะแห้งก็ต้องดื่มน้ำเยอะๆ ก่อนอ่านข่าวผมจะมียาฉีดก่อนอ่านข่าวให้ลำคอเคลียร์ จะได้ไม่ไอขณะอ่านข่าว และก็ดื่มน้ำเยอะๆ ตลอดวัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างอ่านข่าวครับ ซึ่งอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทำงานได้เสมอ ก็ต้องนัดแนะกับเพื่อนร่วมงานให้ดี ถ้าเราไอก็ต้องส่งสัญญาณให้เพื่อนช่วยอ่านแทน ถ้าเพื่อนติดขัดเราก็ต้องช่วยเพื่อน เรียกว่าต้องใช้ไหวพริบ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนกัน เพราะมันไม่สามารถเทกได้ จึงพยายามหลีกเลี่ยงความผิดพลาดครับ”

หนุ่มหล่อขนาดนี้ไม่ถามเรื่องสเปกสาวคงไม่ได้ หนุ่มอ๊อฟกล่าวถึงมุมมองในการเลือกคู่ครองว่า เมื่อพออายุมากขึ้นการตกผลึกความคิดก็มากขึ้น แน่นอนผู้หญิงบุคลิกภายนอกก็ต้องดูดี มีความมั่นใจ สวย ฉลาด และหุ่นดี

“เมื่อก่อนอาจจะชอบคนเซ็กซี่ แต่ตอนนี้เน้นดูดี ฉลาด เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนมากกว่า อาจจะมีความหวานหน่อยๆ ถ้าเป็นแม่บ้านแม่เรือนก็จะดีครับ แต่ถ้าจะคบกันยาวๆ ก็ต้องดูให้ลึกถึงพื้นฐานครอบครัวกันด้วย ซึ่งพื้นฐานการสอนจากครอบครัว ผมมองว่าพื้นฐานการถูกสั่งสอนมาเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเขาจะมีทัศนคติในเรื่องนั้นๆ เวลาเกิดปัญหาอะไรเขาจะคิดไปในทางบวกหรือลบ ส่งผลต่อทักษะการแก้ปัญหาชีวิตอะไรต่อไป เพราะว่าถ้าเป็นผู้หญิงคิดบวกก็อาจจะทำให้ชีวิตเราบวกและมีความสุขมากขึ้น ไม่ดึงเราลงในแง่ลบ เวลาเรามีปัญหาเขาอาจจะมีทักษะการแก้ปัญหาระหว่างกันได้ดี รวยจนอาจจะไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ ถ้าคุณคิดดีและขยันมันก็มีขึ้นมาได้ครับ”

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68