‘น้ำแข็งเห็ด’ เพิ่มสุขภาพ ลดอ้วนสไตล์ญี่ปุ่น
ได้ยินคำว่า “น้ำแข็งเห็ด” หนแรกหนูดีแอบขำและนึกในใจว่า ใครนะจะทานน้ำแข็งเห็ด ฟังดูไม่เห็นน่ารับประทาน
โดย...หนูดี-วนิษา เรซ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
ได้ยินคำว่า “น้ำแข็งเห็ด” หนแรกหนูดีแอบขำและนึกในใจว่า ใครนะจะทานน้ำแข็งเห็ด ฟังดูไม่เห็นน่ารับประทานเลยสักนิด เพราะคำว่าน้ำแข็งเราจะนึกถึงของหวาน ส่วนคำว่าเห็ดทำให้เรานึกถึงของคาว นึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่านำของสองสิ่งนี้มารวมกันแล้วจะได้รสชาติประมาณไหน แต่ในที่สุดเมื่อลองศึกษาและทำตามกลับชอบมากๆ เลยค่ะ และทุกวันนี้ครัวโฮมเมดในบ้านของหนูดีมีน้ำแข็งเห็ดติดไว้ในตู้ฟรีซเสมอๆ และหยิบมาทานเป็นประจำเพราะทั้งอร่อยและได้สุขภาพตามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
เจ้าน้ำแข็งเห็ดนี้ทำง่าย เพราะมีเพียงสองส่วนผสมเท่านั้น คือ เห็ดเข็มทองปั่นละเอียดและน้ำเปล่า โดยกรรมวิธีมีเพียงสามขั้นตอน คือ เห็ด 300 กรัม น้ำเปล่า 400 กรัม ปั่นรวมกัน ตั้งไฟเคี่ยวหนึ่งชั่วโมง รอเย็นเทใส่ถาดน้ำแข็งและแช่ตู้ฟรีซเก็บไว้ประกอบอาหาร โดยทานวันละประมาณสามก้อน รวมแล้ว 90-100 กรัม
ก่อนจะมาชวนทำเมนูน้ำแข็งเห็ดมาดูประโยชน์กันก่อนดีกว่า โดยประโยชน์จากเห็ดนั้นมาจาก “ไคโตซานเห็ด” ซึ่งมีในเห็ดทุกชนิด แต่เห็ดเข็มทองนั้นอยู่ในลำดับต้นๆ ที่มีสูงสุด ไคโตซานเห็ดมีประโยชน์อะไร คำตอบคือ นอกจากช่วยเพิ่มระดับภูมิต้านทานแล้ว ยังช่วยดูแลฟอกเลือดให้สะอาด ป้องกันความดันโลหิตสูง และลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย และที่สำคัญการรับประทานเห็ดทั้งแบบสดหรือปั่นแช่ฟรีซเป็นน้ำแข็ง ทำให้ได้เส้นใยอย่างดี ช่วยในการขับถ่ายและลดความอ้วน
มีการเก็บข้อมูลและทำวิจัยในหลายเคสที่พบว่าการรับประทานน้ำแข็งเห็ดเข็มทองช่วยในการลดน้ำหนักและลดรอบพุงได้ผลอย่างน่าประทับใจ หลายเคสช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น แก้ปัญหาปลายมือปลายเท้าเย็น ลดกลิ่นตัวในกรณีคนท้องผูก และช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้นได้ด้วย เรียกได้ว่า มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นล่ำเป็นสันสไตล์ญี่ปุ่นที่อ่านกรณีตัวอย่างแล้วเพลิดเพลินเจริญใจจริงๆ ค่ะ กรณีที่เด็ดดวงก็คือ กรณีพุงยุบไปหลายราย อ่านแล้วอยากทำตามเสียจริงๆ
น้ำแข็งเห็ดที่โด่งดังและเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นนั้น หนึ่งในผู้คิดค้นคือ ดร.เอะงุชิ ฟุมิโอะ ศาสตราจารย์ด้านการเกษตรและอดีตประธานสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพเห็ดแห่งญี่ปุ่น โดย ดร.เอะงุชิ เริ่มสนใจเรื่องเห็ดในวัยเด็ก เพราะคุณพ่อถูกวินิจ ฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อผ่ามะเร็งออกแล้วคุณพ่อเริ่มรับประทานเห็ดพื้นบ้านในสมัยนั้นอย่างจริงจัง คือ เห็ดหลินจือและเห็ดฮิเมะมะสึตะเกะต้มทานคู่ไปกับการกินยาที่สกัดจากเห็ดเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ผลก็คือ คุณพ่ออยู่มาได้อีก 22 ปี ตัว ดร.เอะงุชิ จึงรู้สึกว่า น่าจะเป็นเพราะพลังเห็ดหรือเปล่านะ ที่คุณพ่อมีอายุยืนต่อมาได้อีกนานอย่าง
ไม่น่าจะเป็นไปได้
ที่น่าสนใจ คือ เวลาเราพูดถึงไคโตซานหลายคนอาจจะนึกถึงกระดองปูหรือเปลือกกุ้ง แต่ส่วนประกอบของไคโตซานในเห็ดนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะในเห็ดนั้นมีเบต้ากลูแคนประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก
(ตัวหนูดีเองก็รับประทานวิตามินเบต้ากลูแคนสม่ำเสมอค่ะสำหรับสุขภาพองค์รวม) เริ่มในปี ค.ศ. 1981 เป็นต้นมามีการวิจัยเพื่อสกัดสารจากเห็ดที่มีฤทธิ์ป้องกันเนื้องอกที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง จากการทดลองในหนูทดลองพบว่า โครงสร้างของเบต้ากลูแคนมีฤทธิ์ต้านมะเร็งและทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีขึ้น
โครงสร้างของผนังเซลล์ของเห็ดก็น่าสนใจมากเลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีไคโตซานเห็ด เบต้ากลูแคน ฟิวโคสอะราบิโนสแล้วยังมีแมนโนสอีกด้วย (ชื่อวิทยาศาสตร์มาก) ขอสรุปสั้นๆ เข้าใจง่ายว่า เจ้าหลายตัวนี้ทำงานประสานกันแล้วดีกับสุขภาพสิ่งมีชีวิตมากๆ ค่ะ หลักๆ เลยก็คือ แถ่นแทนแท้น มี “สรรพคุณในการช่วยยับยั้งการดูดซึมไขมัน” ตรงนี้ล่ะที่โดนใจทั้งวัยรุ่นที่อยากลดความอ้วน สาวๆ ที่อยากลดพุง และผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต้องการลดระดับไขมันและลดน้ำหนักเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อ จากงานวิจัยในหนูทดลองในปี ค.ศ. 2009 พบว่า หนูที่รับประทานอาหารไขมันสูงแต่เพิ่มไคโตซานเห็ด 5% จะทำให้มีมวลอุจจาระเพิ่มขึ้น ยับยั้งการดูดซึมไขมันและมีไขมันติดออกมากับอุจจาระเป็นจำนวนมาก
นักวิจัยให้ข้อสังเกตว่า เมื่อไขมันถูกขับ ออกมาเป็นจำนวนมาก ปริมาณไขมันในร่างกายก็จะเปลี่ยนไป อีกทั้งระดับความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลและระดับความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย ดร.เอะงุชิ กล่าวว่า นอกจากไขมันในร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ จนผอมเพรียวแล้วยังทำให้เลือดสะอาดขึ้น ร่างกายโดยรวมจึงแข็งแรงตามไปด้วย ได้ผลในหนูทดลองแล้วก็ได้ผลในมนุษย์เช่นกัน
กรณีศึกษาของคุณอุเอะโน ซะโตมิ วัย 48 ปี พนักงานบัญชี ที่ลดน้ำหนักได้ 10 กก. ในหนึ่งปี (เฉลี่ยเดือนละ 1 กก. ตามคำแนะนำของแพทย์ในญี่ปุ่น ว่าจะเป็นภาระให้กับร่างกายน้อยที่สุด) เธอทำงานบัญชีจึงไม่ได้ขยับไปไหนและได้ขนมเป็นของกำนัลเยอะมาก ซึ่งเธอหม่ำเรียบส่งผลให้น้ำหนักพรวดพราดกว่า 10 กก. ในที่สุดทดลองทานน้ำแข็งเห็ดสม่ำเสมอในเมนูต่างๆ อย่างเอร็ดอร่อย เธอใส่โลดทุกเมนู ทั้งมิโสะซุป ทั้งข้าว ทั้งผัด ทั้งใส่น้ำร้อนดื่มผสมขิงซอยและน้ำผึ้ง กินกับเห็ดจริงๆ ด้วย ทำแบบนี้จากเสื้อไซส์ 13 กลายเป็นไซส์ 9 คนทักตลอดว่าผอมลง เด็กขึ้น และเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายลดจากตอนแรก 30% มาประคองอยู่ที่ 22% ได้อย่างเสถียร เธอแฮปปี้และยินดีจะทำต่อเนื่อง
หนูดีเองลองทำแล้วพบว่าอร่อยหลากหลายเมนูค่ะ ชอบน้ำแข็งเห็ดมากกว่าเห็ดเข็มทองสดเพราะเคี้ยวง่าย ใส่น้ำซุปก็หวาน ผัดข้าวก็อร่อย เรียกว่าใส่เมนูอะไรไม่รบกวนรสดั้งเดิมของเขาเลยค่ะ การแช่แข็งจะทำให้ผนังเซลล์เห็ดแตกออกคล้ายโดนฉีกช่วยให้วิตามินออกมาได้ดีขึ้น ทั้งโปรตีนในเห็ดเข็มทองทนร้อนได้ไม่เสียคุณสมบัตินะคะ
ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมลองหาอ่านในหนังสือ “เห็ดเข็มทอง” ของ สนพ.นานมี โดย ดร.เอะงุชิ ฟุมิโอะ หรือค้นหาต่อเพิ่มเติมใน “อากู๋เกิล” ของเรา ข้อมูลมากมายเพื่อสุขภาพร่างกายที่สดใส เพราะสมองที่ดีจะอยู่ในร่างกายที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ


