ฉัตรแก้ว สุศิวะ เบื้องหลังความสำเร็จ ‘รักนะเป็ดโง่’
เมื่อตัวอักษรจากนิยายของสำนักพิมพ์แจ่มใสชุด Ugly Duckling กลายมาเป็นซีรี่ส์ รักนะเป็ดโง่ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตอน
โดย...นกขุนทอง-วิภาคย์ พูนพันธุ์ ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
เมื่อตัวอักษรจากนิยายของสำนักพิมพ์แจ่มใสชุด Ugly Duckling กลายมาเป็นซีรี่ส์ รักนะเป็ดโง่ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตอน คือ Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็กต์ Pretty (Pity) Girl ส่งรักทักทายหัวใจยัยขี้ลืม Don’t อย่ามองนะถ้าไม่อยากตกหลุมรัก และ Boy’s Paradise แผนรักชุลมุนจับคุณผู้ชายมาให้ฟิน ที่ตอนนี้กำลังเดินทางมาถึงตอนที่ 3 แล้ว ตอนแรกของซีรี่ส์นี้ทำให้ทุกคืนวันอาทิตย์กลายเป็นค่ำคืนของ “พี่เสือแห่งชาติ” เพราะความฮอตของนักแสดงนำชาย พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน ที่ทำสาวๆ ยิ่งฟินจิกหมอนกันทั่วบ้านทั่วเมือง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความฟินนี้คือ “ฉัตรแก้ว สุศิวะ” ผู้หญิงตัวเล็กแต่แกร่งและเก่งของน้องๆ ในทีมจีเอ็มเอ็ม ทีวี
ในวัย 34 ปี นับจากเรียนจบจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฉัตรแก้ว สุศิวะ คลุกคลีทำงานอยู่เบื้องหลังมาตลอด “เริ่มต้นทำงานจากละครเวที เป็นผู้ช่วยกำกับหลายเรื่องค่ะ เข้ามาทำงานที่แกรมมี่เพราะมาช่วยพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) พอตรงนั้นเสร็จ พี่ๆ ในจีเอ็มเอ็ม ทีวี ก็ติดต่อชวนให้มาทำ เริ่มต้นด้วยครีเอทีฟละครเวที มาสู่รายการทีวีค่ะ ทำรายการโอไอซี เป็นรายการสด เอาความสดมาล่อ คิดว่าน่าจะมีอารมณ์ใกล้ๆ กับละครเวทีเพราะเราชอบทางนั้น โอไอซีก็ทำมาสิบกว่าปีแล้ว ระหว่างนั้นก็ได้ทำรายการประกวดต่างๆ เริ่มมีลูกเยอะ เราก็เริ่มดูแล เป็นคนสอนพิธีกรทั้งหมดด้วย จะมีคอร์สให้เลยค่ะ สอนทุกอย่าง เอาศาสตร์ที่เรารู้มาสอน แม้แต่ตอบคำถามสื่อเราก็ต้องสอน ค่อยๆ ดูแลกันมาเรื่อยๆ เด็กในสังกัดเราเยอะ เลยได้ทำหน้าที่อาร์ติสต์ แมเนเจอร์ คือดูแลศิลปินของบริษัททั้งหมด เกือบ 50 คนได้”
ซีรี่ส์ชุดรักนะเป็ดโง่ ฉัตรแก้วนอกจากจะเป็นคนรับผิดชอบโปรเจกต์แล้ว ยังรับหน้าที่กำกับเองทั้ง 4 เรื่อง และเขียนบทเอง 2 เรื่อง คือ Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็กต์ กับ Don’t อย่ามองนะถ้าไม่อยากตกหลุมรัก
ในส่วนของการกำกับซีรี่ส์ทั้ง 4 เรื่อง ฉัตรแก้วยอมรับว่ากดดัน เพราะเรื่องแรกดังมาก แต่ก็คิดว่าจะสนุกที่สุดในแบบที่แต่ละเรื่องมันเป็น
“เรื่องพี่เสือไม่คิดว่าจะพีกขนาดนี้ ก็คิดๆ ไว้ว่าเรื่องต่อไปอาจจะไม่พีกขนาดเรื่องแรก เพราะเรื่องแรกเหนือความคาดหมายของเราจริงๆ โทนเรื่องทั้งหมดต่างกันด้วย เรื่องสองจะกุ๊กกิ๊กใสๆ เหมือนเราดูหนังเกาหลีมัธยม การ์ตูนญี่ปุ่น ความรักคลีนๆ เรื่องที่สามจะเข้มข้น มีดราม่าปนตลก ต่อยตีทั้งเรื่อง เพราะพระเอกเป็นแบดบอย เรื่องสุดท้ายจะกลับมาฟิน เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ทุกตัวมีคาแรกเตอร์ต่างกัน จะสนุกในเรื่องความรักที่เดาไม่ถูก”
มาถึงวันนี้ การถ่ายทำเดินทางมาถึงเรื่องสุดท้ายแล้ว ถามถึงความยากง่ายที่ต้องกำกับแนวทางของเรื่องที่แตกต่างกัน “การที่เรากำกับบทที่เราเขียนมันง่ายกว่า เพราะเราเข้าใจทุกอย่าง เราเขียนบทด้วยตัวเราเองว่าเราทำได้แค่ไหน โดยเรานึกภาพว่าเราทำได้หรือเปล่า เราตัดสินใจได้ด้วยตัวเราเองและพยายามทำให้ได้ ตอนนี้เราก็ต้องเอาตัวเองกลืนเข้าไปในบทคนอื่น เพื่อให้มันสนุกตามที่เราต้องการ เพราะบางทีเราไม่เข้าใจ เราก็ต้องหาวิธีการกลืนเข้าไปค่ะ เพราะจริงๆ มันยากกว่ามากค่ะที่จะต้องกำกับบทของคนอื่น ให้มาเป็นทางเราให้มากที่สุด”
ความสำเร็จจากเรื่องแรก ทำให้นักแสดงคือ พุฒ หนึ่งในลูกรักของฉัตรแก้วดังเป็นพลุแตก “เวลาทำงานเบื้องหลัง ไม่ได้ฝันว่าอยากให้คนรู้จัก ทุกวันนี้เราก็พอใจแล้วที่คนชอบในผลงานเรา ใจพองโตมากค่ะ พุฒขอบคุณเรา เราขอบคุณพุฒ มันพอแล้ว ไม่คิดว่าชื่อเราต้องมีที่รู้จัก เราสร้างคนเบื้องหน้าด้วยมือเรา อย่างพุฒเรารักเขามาก เขาดีที่สุดที่ข้างใน เขาเป็นพี่เสือจริงๆ เขาเป็นแบบนี้ค่ะ เราอยากให้คนอื่นเห็น เราเอาเขามาเป็นตัวเขาเอง ทำให้คนยิ่งรักตัวตนเขา แก้วเคยพูดกับพุฒว่า ไม่อยากให้คนชมเธอแค่ที่ว่าเธอหล่อ แล้วเราต้องปล่อยพื้นที่ให้เขาได้โชว์เสน่ห์ ที่ผ่านมาดูพุฒเล่นละครจะเห็นภาพลักษณ์ในแบบคุณชาย แต่แก้วอยากให้ผู้ชมเห็นเขาในรูปแบบที่เขาเป็นบ้าง ซึ่งก็ตรงกับคาแรกเตอร์ของพี่เสือในเรื่องเลยค่ะ เรื่องนี้ทำให้เขาเป็นที่รัก แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว โดยที่คนไม่ต้องรู้ว่าเราเป็นใครก็ได้”
ในอนาคตอันใกล้ฉัตรแก้วยังมีโปรเจกต์ใหม่ออกมาให้ได้ชมกันอีก แน่นอนว่ามีพุฒลูกรักของเธอร่วมแสดงแน่นอน


