posttoday

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา

18 สิงหาคม 2558

พระเอกยุคนี้หล่ออย่างเดียวคงจะยังไม่ถึงใจ หากหล่อแล้วเป็นคนรักสุขภาพด้วยนี่ ยิ่งแซบคูณสอง

โดย...กองบรรณาธิการ ภาพ : ไอจีบอม-ธนิน/อัครัฐ/ เอ็กแซ็กท์/ต๊อบ-ชัยวัฒน์

พระเอกยุคนี้หล่ออย่างเดียวคงจะยังไม่ถึงใจ หากหล่อแล้วเป็นคนรักสุขภาพด้วยนี่ ยิ่งแซบคูณสอง ซึ่งหากมองหาอย่างจริงจังพระเอกในยุคนี้หลายคนเหลือเกินที่เลือกให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพอย่างเอาจริงเอาจัง แต่มีไม่กี่คนที่จะเลือกเล่นกีฬาที่ไม่อยู่ในกระแส ซึ่งพระเอกที่เราหยิบยกมาพูดคุยในวันนี้พวกเขาแตกต่าง แต่ล้วนมีสิ่งเดียวกัน นั่นคือความรักในกีฬาที่เลือก...

บอม-ธนิน เล่นกีฬาได้เพื่อน

หากใครติดตามอินสตาแกรมของพระเอกมาดเท่ บอม-ธนิน มนูญศิลป์ จะได้เห็นภาพหนุ่มบอมออกกำลังกายทั้งเทนนิส บาสเกตบอล ว่ายน้ำ และเข้ายิม ซึ่งเขาเป็นคนให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬามาก โดยเฉพาะเทนนิสและบาสเกตบอล

“ผมเริ่มเล่นเทนนิสมาตั้งแต่ ป.6” บอมเล่าให้ฟังตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กตัวอ้วนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย

“ช่วงนั้นภราดรดัง แม่เลยส่งพี่ชายและน้องชายไปเรียนเทนนิส เหลือผมคนเดียวในบ้านที่ยังไม่ได้เล่น สุดท้ายก็เลยลองไปเล่นดู ซึ่งแรกๆ ไม่ชอบ แต่ถ้าไม่เล่นเทนนิสก็จะไม่มีคนอยู่บ้านด้วย จึงต้องบังคับตัวเองให้ไป พอเล่นไปเล่นมาก็เล่นจนถึงตอนนี้”

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา บอม-ธนิน

 

การแข่งขันแมตช์ใหญ่ๆ ที่บอมพอจำได้ เขาย้อนไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ชื่อรายการว่า ไทยเทนนิสแมกกาซีน เซตแรกเขาแพ้ไปก่อน 1 ต่อ 4 แต่ระหว่างเข้าสู่เซตที่ 2 ในใจก็คิดว่าสู้ไม่ได้ เขาจึงนั่งสมาธิ

“ผมนั่งสมาธิก่อนเล่นเซตที่ 2 ปรากฏว่าชนะ 4 ต่อ 0” เขากล่าว แม้ว่าสุดท้ายบอมจะเป็นฝ่ายแพ้ไป แต่ผู้ชนะถึงกับต้องเดินมาถามเคล็ดลับเรื่องการนั่งสมาธิ (ซึ่งบอมได้สารภาพว่าจริงๆ แล้วเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นคิดอะไร)

ส่วนกีฬาบาสเกตบอลเริ่มเล่นมาตั้งแต่ ม.3 โดยเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์และปีก แต่กีฬาชนิดนี้เขาไม่ได้จริงจังว่าจะลงแข่งขัน แต่เล่นเพื่อออกกำลังกายและหาเพื่อน

“สิ่งสำคัญที่สุดของกีฬาคือมิตรภาพ” บอมกล่าว

“มันเป็นสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้มา แต่ผมได้มาเยอะจริงๆ ถ้าไม่เล่นกีฬาเพื่อนผมจะหายไป 85 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้นะครับ และก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะการเล่นกีฬา”

อีกด้านหนึ่งบอมยังคงเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง ซึ่งการเป็นดาราอาจทำให้เล่นกีฬาน้อยลงบ้าง แต่เขาไม่คิดจะหยุดเล่น

“ยังไงก็ต้องให้เวลากับกีฬา” เขาว่าอย่างนั้น ซึ่งช่วงนี้จะหันมาว่ายน้ำมากกว่าอย่างอื่น เพราะเป็นกีฬาที่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือไม่ก็เข้ายิมออกกำลังกาย

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา บอม-ธนิน

 

“บอมเป็นคนน้ำหนักขึ้นง่าย ถ้าสามารถเล่นกีฬาได้ทุกวัน ผมก็จะทำครับ” เขากล่าว

ตอนนี้บอมกำลังถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง และมีละครรอออกอากาศอยู่ชื่อเรื่อง พิรุณพร่ำรัก จับคู่กับนางเอกไอซ์-อามีนา กูล ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ในวงการบันเทิง

นอกจากนี้ บอมยังฝากไปถึงทุกคนให้ออกไปเล่นกีฬาด้วย

“คำว่ากีฬามันไม่เกี่ยวกับเพศ ไม่เกี่ยวกับอายุ แต่มันเป็นสิ่งที่เราสามารถเอนจอยร่วมกันได้ อย่างผมก็เคยเล่นกีฬากับคนอายุ 80 มาแล้ว” เขาพูดสมกับเป็นนักกีฬา ก่อนกล่าวต่อว่า

“คำว่ากีฬามันไม่มีคำว่าชัยชนะ แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องของมิตรภาพ แม้ว่าแข่งแล้วแพ้ แต่เราจะได้รู้จักคนเพิ่ม พูดง่ายๆ คือกีฬามันให้ทั้งสุขภาพและมิตรภาพครับ”

สิบกว่าปีที่ผ่านมากีฬากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพระเอกคนนี้ไปเสียแล้ว ซึ่งบอมได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าไม่มีใครยุ่งเกินกว่าจะหาเวลาออกกำลังกาย ขอแค่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้

อัค-อัครัฐ สำคัญที่สุดแข่งกับตัวเอง 

เห็นลีลาและท่าการจับปืนของ “อัค” อัครัฐ นิมิตรชัย คงไม่ต้องเดาละว่า “อัค สุดหล่อ” ชอบกีฬายิงปืน ปัง ปัง ปัง  

“ชอบครับ ตั้งแต่เด็กเลย แต่ผมว่าเป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายนะ ที่เห็นปืนแล้วอยากจับอยากลอง แต่ผมก็ไม่เคยลองสักครั้ง จนกระทั่งได้มาเล่นละคร ‘ตะวันตัดบูรพา’ แล้วทำให้ไม่รีรอที่จะไปเรียนยิงปืน” อัคเผยความชอบในกีฬายิงปืน

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา อัค-อัครัฐ

 

จุดเริ่มของเขามาจากมีครูฝึกยิงปืนมาเวิร์กช็อปการใช้อาวุธปืนให้กับบรรดานักแสดงเรื่อง “ตะวันตัดบูรพา” ที่ตึกแกรมมี่ และด้วยความชอบในกีฬายิงปืนอยู่แล้วจึงไปเรียนเองก่อนละครจะเปิดกล้องจนกระทั่งปัจจุบัน

“ทางผู้ใหญ่ต้องการให้นักแสดงเรียนรู้การใช้อาวุธปืนอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนและสมกับบทบาทที่ได้รับ อย่างผมในเรื่องเป็นตำรวจต้องเรียนรู้การใช้อาวุธปืนในแบบตำรวจด้วย ผมชอบอยู่แล้วจึงไปคุยกับพี่ๆ ครูฝึกซึ่งเป็นตำรวจและทหาร จากนั้นก็ไปเรียนเลยก่อนละครเปิดกล้อง 1 เดือน ตอนนี้เปิดกล้องมาได้ 7-8 เดือนแล้วก็ยังฝึกอยู่เรื่อยๆ เผื่อได้ไปแข่งขันจริง”

ตลอดหลายเดือนที่เรียนยิงปืน เขาได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน เช่น การรู้จักปืนแต่ละประเภท ทักษะการยิง กฎกติกาการยิง รวมถึงเกี่ยวกับการแข่งขันยิงปืน การสอบปืนพก และอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเชื่อเสมอ คือคนยิงปืนแม่นที่สุดไม่ใช่คนที่เจ๋งที่สุด แต่เป็นคนใช้ปืนได้ปลอดภัยที่สุดต่างหากที่เจ๋งกว่า

“จริงๆ เราไปเรียนยิงปืนเพื่อต้องการใช้มันอย่างถูกต้องถูกวิธี และใช้มันให้ปลอดภัยมากกว่า เพราะปืนเป็นดาบสองคมอันตราย ครูฝึกจึงสอนเสมอว่าเวลาหันกระบอกปืนชี้ไปที่สนาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามหันแนวปืนเข้าใส่คนหรือในแนวที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงเวลาเปลี่ยนแม็กหรือปืนค้างลำกล้องก็ต้องชี้ออกข้างนอก อย่าหันใส่คนหรือแนวที่ไม่ปลอดภัยเช่นกัน ผมจึงมองว่าคนยิงปืนแม่นไม่ได้เก่งที่สุด แต่คนที่ใช้ปืนได้ปลอดภัยต่างหากที่เก่งที่สุด”

สำหรับปืนที่ใช้ฝึกประจำพระเอกหนุ่มบอกว่า ส่วนใหญ่จะใช้ปืนก๊อก 17, 19, 34 แต่โชคดีที่ครูฝึกเป็นตำรวจทหารทำให้มีโอกาสได้ลองปืนหลากหลาย และทุกครั้งที่ลองรู้สึกเอนจอยมาก โดยเฉพาะปืนที่ชาวบ้านและคนทั่วไปไม่สามารถมีได้ แต่ถ้าถามปืนที่ชอบ เขายกให้ CZ SP-01 Shadow ตัวปืนเป็นเหล็ก น้ำหนักค่อนข้างหนัก เวลายิงจะนิ่งและแม่นเป้า

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา อัค-อัครัฐ

 

“แต่เวลายิงปืนต้องแข่งกับตัวเองล้วนๆ” อัคเน้นเสียงและอธิบายให้ฟังว่า เวลายิงปืนสำคัญที่สุดคือต้องมีสมาธิในทุกขั้นตอนการยิง ทั้งก่อนและขณะจะยิง ตั้งแต่การขึ้นปืน การเล็ง การเดินไก เหนี่ยวไก

“โอเค การยิงปืนเข้าเป้าเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน แต่สุดท้ายเราไม่ได้แข่งกับใคร เราแข่งกับตัวเองล้วนๆ ทั้งการขึ้นปืน การเล็ง การเดินไก เหนี่ยวไก ต้องอาศัยสมาธิที่สูง ถ้าเปรียบก็คล้ายๆ การตีกอล์ฟ ซึ่งเมื่อแข่งกับตัวเองแล้วยังต้องแข่งกับเวลา เพราะเวลายิงตั้งแต่ชักปืนออกจากซองแล้วยิงต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะจะมีตัวโปรไทเมอร์คอยจับเวลา”

ขณะที่ฝีมือการยิงปืนของเขา พระเอกหนุ่มบอกว่า ณ เวลานี้เขาพร้อมแล้วกับการลงประลองในสนามแข่งขันจริง แต่ยังไม่ได้โอกาสลงแข่งสักที เพราะติดถ่ายละครที่ตอนนี้มี 2 เรื่อง คือ “ตะวันตัดบูรพา” และ “รักซ่อนแค้น”

“จริงๆ แล้วผมอยากลงแข่งเหมือนกัน มีอยู่สองสมาคมที่จัดแข่งประจำ คือ IDPA กับ IPSC ที่ให้บุคคลทั่วไปไปลงแข่งได้ กฎกติกาการแข่งขันก็ต่างกันนิดหน่อย ก็ดูๆ อยู่ คิดว่าวันหนึ่งคงได้ลงแข่งครับ แต่ตอนนี้ดูละครที่ผมแสดงไปก่อน 2 เรื่อง ‘มือปราบกุ๊กกุ๊กกู๋’ และ ‘ตะวันตัดบูรพา’ ที่ผมรับบทหมู่เสือ ทางช่อง ONE”

ต๊อบ-ชัยวัฒน์ สิ่งสำคัญคือทัศนคติที่ดี

ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง นักแสดงหุ่นล่ำวัย 26 ปี ที่เราต่างรู้จักกันดีในบทพระเอกภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อน...กูรักมึงว่ะ” เมื่อหลายปีก่อน

ล่าสุดเจ้าตัวกำลังมีผลงานที่น่าติดตามอย่างภาพยนตร์ “แม่เบี้ย” ที่กำลังจะเข้าฉายในเร็ววันนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจในตัวผู้ชายคนนี้เหนือบทบาทการแสดง คือความเอาจริงเอาจังกับการออกกำลังกาย จนสามารถติดธงชาติไทยไปสร้างชื่อเสียงยังต่างแดนในกีฬาเพาะกาย ซึ่งเจ้าตัวเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการมุ่งมั่นออกกำลังกายของตัวเองด้วยรอยยิ้มว่า มันมาจากจุดเล็กๆ บนหน้าปกซีดีของวงซิลลี่ ฟูลส์ อัลบั้มคิงไซส์ ซึ่งก็แทบไม่น่าเชื่อว่าจะส่งให้หนุ่มล่ำคนนี้มาไกลถึงการมีหุ่นดีติดหนึ่งในสี่ระดับโลกในรุ่นเมนโมเดล

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา ต๊อบ-ชัยวัฒน์

 

“เรามาสนใจเพาะกายจริงจังเลย คือช่วงประมาณมัธยมปลาย ตอนนั้นเราเห็นปกคิงไซส์ ของวงซิลลี่ ฟูลส์ พอเราเห็นโห้ย! เท่มาก เราอยากมีกล้ามแบบนั้นเหมือนวงดนตรีที่เราชอบ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของเราเลย จากนั้นก็ออกกำลังกายอย่างจริงจังเลย แล้วก็มีโอกาสมาเข้าวงการ มันมีช่วงหนึ่งหลังจากที่หนังเรื่อง ‘เพื่อน...กูรักมึงว่ะ’ ออกไป เราก็อยากเพาะกายแข่งขัน อยากมีประสบการณ์สักครั้งในชีวิต ก็เลยไปขอคำแนะนำจากพี่ๆ ในวงการเทรนให้ แล้วพอปี 2551 ก็มีโอกาสเข้าแข่งขันเพาะกายรุ่นเยาวชนก็ได้แชมป์เลย แต่หลังจากนั้นเราก็ต้องทำตัวให้เล็กลงเพื่อทำงานในวงการ ก็หายไปช่วงหนึ่งเลยจากการแข่งขัน”

หลังจากกลับมาทำงานในวงการได้ 3 ปี ในประเทศไทยได้มีการเปิดแข่งขันเพาะกายในรุ่นเมนโมเดล ซึ่งไม่ได้เน้นความใหญ่โตของกล้ามเนื้อ แต่จะดูจากบุคลิกและกล้ามเนื้อที่สวยงามสมส่วน ทำให้ต๊อบกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งและก็ได้แชมป์ในปี 2556-2557 ทำให้เจ้าตัวติดทีมชาติเข้าแข่งขันที่ต่างประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ต๊อบภูมิใจสุดๆ ที่ได้ทำเพื่อชาติ โดยปัจจุบันนอกจากงานแสดง นายแบบ พิธีกร เจ้าตัวก็ยังเป็นเทรนเนอร์อีกด้วย แม้จะทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่ก็เรียกได้ว่าชีวิตไม่เคยหายจากการออกกำลังกายเลย หากไม่มีวินัยจริงๆ เขาเองคงไม่ได้เป็นถึงแชมป์ ซึ่งเจ้าตัวได้พูดถึงสิ่งนี้ด้วยน้ำเสียงเป็นสุขว่า

“ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่ว่าเราจะจัดสรรเวลายังไง อย่างผมก็จะฝึกจนชินแล้วว่าต้องออกกำลังกาย จะมีงานถ่ายเช้า ถ่ายดึก ก็ต้องหาเวลาเล่น มีเวลาน้อยนิดก็ต้องออกกำลังกาย แค่ 45 นาทีก็เอา มันมีวิธีการเทคนิคออกกำลังกายที่ทำให้เราได้สุขภาพดีในเวลาเท่านั้น อย่างต๊อบเองก็อยากไปให้ถึงความสำเร็จมากกว่านี้คือแชมป์โลก ซึ่งมันทำให้เราต้องมีวินัยมากทั้งเรื่องการกิน การซ้อม เราไม่เคยอ้างเรื่องเวลากับตัวเองเลย

พระเอกหนุ่ม นักกีฬา ต๊อบ-ชัยวัฒน์

 

“อย่างบางคนบอกอยากลดความอ้วน แต่ขี้เกียจเหลือเกิน มันก็ได้แค่นั้น แต่ถ้าเราลงมือทำมันก็ได้กับตัวเราเอง เราได้สุขภาพที่ดีขึ้น ผมเลยอยากบอกกับคนที่บอกไม่มีเวลา ขี้เกียจ ดูผมเป็นตัวอย่าง ลองมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนิดหนึ่ง ถ้าอยากอยู่กับคนที่คุณรักนานๆ คือการออกกำลังกายมันไม่ได้กับใคร เราเล่นเราก็ได้เอง มันเหมือนกับการที่เราออมเงิน เรามีกระปุกใครกระปุกมัน เรายิ่งออมมันทุกวันกล้ามเนื้อของเรามันก็เริ่มใหญ่ขึ้นๆ แล้วยิ่งทำมันมากขึ้น ออมมันมากขึ้น หาวิธีเทคนิคออมที่เร็วขึ้น เราก็จะยิ่งได้กล้ามเนื้อที่ชัด ผมอยากให้คิดว่าเป็นการออมสุขภาพให้ตัวเองมากกว่า”

ถึงตรงนี้เจ้าของหุ่นล่ำดีกรีแชมป์ยังฝากบอกถึงคนที่สนใจอยากเข้ายิมออกกำลังกายให้ฟังอีกว่า

“การออกกำลังกายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทัศนคติต่อตัวเองที่ดีก่อน เวลาเราจะเริ่มเข้ายิม เราต้องมีทัศนคติต่อตัวเราก่อนว่าเราต้องการอะไร ถ้าหากเราอยากลดน้ำหนัก เล่นเอาสุขภาพเราก็ศึกษาดู อย่าเขินอย่าอาย ถามคนที่เล่นก่อนเราได้เลย พวกที่เล่นกล้ามตัวใหญ่ๆ จริงๆ ไม่ได้น่ากลัว (หัวเราะ) แล้วทุกคนอยากช่วยบอกช่วยสอนหมด ถามแล้วก็เอาความรู้นั้นเข้ามาช่วยในการออกกำลังกายของเรา แล้วก็พยายามหาวิธีการเล่นของตัวเองให้เจอ”

ถึงตรงนี้หากใครอยากติดตามชีวิตรักสุขภาพของพระเอกหุ่นบาดใจสาวคนนี้ก็ตามกันได้ที่อินสตาแกรม TOB_CHAIWAT

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68