ว่าด้วยเรื่องของหนัง 18+
ธุรกิจหนังเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับเทคโนโลยี การเกิดขึ้นของชนชั้นกลางและการทำงานแบบตารางเวลาทำงาน
โดย...เอกศาสตร์ สรรพช่าง
ธุรกิจหนังเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับเทคโนโลยี การเกิดขึ้นของชนชั้นกลางและการทำงานแบบตารางเวลาทำงาน นั่นหมายถึงหนังเข้ามาเติมเวลาว่างของชนชั้นกลางนั่นเอง
การเติบโตของธุรกิจที่หากินกับเวลาว่างของเราได้พัฒนาจากการเป็นมหรสพอย่างหนึ่ง มาเป็นสื่อกลางที่สะท้อนความคิดเห็นของผู้กำกับ หรือเป็นเครื่องมือสะท้อนสังคมวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ และหลังจากสองร้อยปีของวิวัฒนาการด้านภาพยนตร์มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวันหยุดของเราอย่างเต็มรูปแบบ และเลยมาถึงกลายเป็นเครื่องมือในการสอนสั่งชีวิตของเราได้ด้วย ที่พูดถึงเรื่องหนังขึ้นมา เพราะในเดือนหน้า Elle Men ของเรากำลังจะจัดเทศกาลหนังที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเทศกาลหนังที่จำเพาะเจาะจงอย่างมาก เพราะแค่ชื่อว่า 18+ ก็น่าจะทำให้ใครบางคนคิดถึงเทศกาลหนังนี้ไปไกลไปถึงไหนต่อไหน
แล้วอะไรคือหนังแบบ 18+ ของเทศกาลหนังคราวนี้ ขอย้อนกลับไปเล่าเรื่องของการแบ่งอายุหรือการเซ็นเซอร์ของอุตสาหกรรมหนังในอดีตเสียหน่อยนะครับว่ามันเริ่มมาจากอะไร
หากนับเอาว่าอเมริกาเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมหนังของโลกใบนี้ การเซ็นเซอร์หรือการออกกฎ “ห้ามฉาย” หนังบางประเภทให้กับคนดูบางกลุ่มนั้นก็เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับอุตสาหกรรมหนังตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 น่าแปลกว่าในยุคแรก การห้ามฉายหนังบางประเภทนั้นไม่ได้ทำกันอย่างจริงเท่ายุคนี้ด้วยซ้ำ ส่วนมากแล้วเป็นการทำกันเองในหมู่สตูดิโอผู้ผลิตหนัง ซึ่งเรียกว่า MPPC (Motion Picture Production Code) ซึ่งก็ยังใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน
ทว่าต่อมาก็มีการกำหนดมาตรฐานของการห้ามฉายหนังบางประเภทให้กับบางกลุ่มอายุของคนดูเพื่อจำกัดการรับรู้และความเหมาะสมของหนัง ปัจจุบันการจัดเรตติ้งจะเป็นไปตามกฎหมายของรัฐนั้นๆ อีกทอดหนึ่ง (แต่แทบไม่มีการเซ็นเซอร์หนังแล้ว) ส่วนประเทศอื่นๆ การจำกัดอายุคนดู ดูเหมือนจะมีอยู่ในเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วเสียส่วนมาก แต่การ “ห้าม” ดู หรือฉายหนังยังมีอยู่ทั่วไปตามแต่ภาวะสังคม วัฒนธรรม ทัศนคติทางการเมืองและศาสนาของแต่ละประเทศ เข้มงวดบ้างไม่เข้มงวดบ้างก็ว่ากันไป
สิ่งที่ท้าทายของผู้ห้ามปัจจุบันคือ หนังกลายเป็นทั้งศิลปะและเป็นมหรสพแห่งมวลชนอย่างแท้จริงที่ใครก็สามารถหาความสุขจากมันได้ ไม่ว่าจะที่บ้าน ในโรงภาพยนตร์ หรือแม้แต่ในแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เราก็ยังสามารถหาหนังดูได้ การ “ห้าม” ดูหนังอย่างในอดีตจึงกำลังถูกท้าทายด้วยอิสรภาพของการเข้าถึงข้อมูลของผู้ชมด้วยอินเทอร์เน็ต เราก็กล้าพูดว่าการจำกัดคนด้วยเนื้อหากำลังจะเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น การมองหานิยามและคำอธิบายใหม่ๆ ในโลกของการเผยแพร่หนังจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายก่อนทำเทศกาลหนัง พวกเราหยิบเรื่องนี้มาคุยกันหลายต่อหลายครั้ง เพราะเชื่อว่าหนังดีๆ สักเรื่องสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้มากมาย ทั้งตัวตนและทัศนคติของเราผ่านหนังที่พวกเราเลือก
การเริ่มต้นทำเทศกาลหนังครั้งแรกนี้ จึงเริ่มด้วยการตั้งคำถามที่ว่าความสำคัญของหนังในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งคืออะไรกันแน่ แล้วเราก็ได้ข้อสรุปว่า หนังนอกเหนือจะให้ความบันเทิงกับเราแล้ว มันยังเป็นคู่มือชั้นดีในการศึกษาชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ และความคิดของคนจากทั่วโลก ซึ่งเราอาจไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหรือได้เดินทางไปดูด้วยตาตัวเอง หนังจึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่หล่อหลอมทำให้ผู้ชายคนหนึ่งกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวขึ้นมา
หนัง 18+ ของเราจึงไม่ได้หมายถึงการเป็นหนังต้องห้ามของใคร แต่เรากำลังหมายถึงว่าหนังพวกนี้จะทำให้เราเติบโตและได้อะไรกลับไปหลังจากที่คุณได้ดูหนังเหล่านี้ ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะอายุ 18 ปี หรือ 38 ปี เราเชื่อว่าหนังเหล่านี้จะทำให้คุณเติบโตขึ้นเช่นกัน คราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังต่อว่าหนัง 18+ ในทรรศนะของผู้กำกับและนักวิจารณ์นั้นเขาคิดเห็นกันอย่างไร


