posttoday

อัคคิชาลมุขเปรต

11 กรกฎาคม 2553

ทุกอิริยาบถของเปรตตระกูลนี้จะมีเปลวไฟลุกไหม้ภายในช่องปากและบริเวณริมฝีปากตลอดเวลาตลอดกลางวันและกลางคืน!!

ทุกอิริยาบถของเปรตตระกูลนี้จะมีเปลวไฟลุกไหม้ภายในช่องปากและบริเวณริมฝีปากตลอดเวลาตลอดกลางวันและกลางคืน!!

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

เปรตจำพวกนี้มีลักษณะพิเศษอยู่ที่จะมีเปลวไฟแดงๆ พุ่งออกมาจากปาก หรือมีปากลุกโพลงด้วยเปลวไฟแดงๆ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า อัคคิชาลมุขเปรต

ทุกอิริยาบถของเปรตตระกูลนี้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ก็จะมีเปลวไฟลุกไหม้ภายในช่องปากและบริเวณริมฝีปากตลอดเวลา
ไม่มีดับตลอดกลางวันและกลางคืน!!

ทุกขณะวินาทีของพวกเขามีแต่ความทรมาน ความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัส และความปวดร้อนปวดแสบ เพราะถูกไฟไหม้ปากโดยที่ไม่มีวันดับมอด

หากพูดอย่างชาวบ้านก็ต้องบอกว่าช่างน่าเวทนาเสียเหลือเกิน

การที่ไฟลุกไหม้ปากของเปรตตลอดเวลานั้น ทำให้พวกเขาไม่อาจดำรงอยู่กับที่ได้ แต่ละตนก็จักแสดงอาการทุรนทุรายด้วยความทรมานปวดแสบปวดร้อนทั้งตัว

และร้องไห้วิ่งไปวิ่งมาเป็นร้อยโยชน์พันโยชน์!!

ซึ่งการที่ต้องวิ่งเป็นร้อยโยชน์พันโยชน์ยิ่งกว่านักกีฬานั้น ก็เพราะเปรตไม่สามารถทนความเจ็บปวดอันสาหัสจากการถูกไฟลวกไหม้ได้นั่นเอง

ทั้งนี้ ก็คงเหมือนกับคนเรานั่นแหละ ที่เวลาเดินไปเหยียบถ่านไฟแดงๆ เข้า โดยธรรมดาก็จะไม่มีใครยืนแช่บนถ่านไฟให้ไฟลวกไหม้อยู่แล้ว

คือเมื่อเดินไปเหยียบถ่านไฟร้อนเข้าก็เป็นต้องกระโดดโหยงเหยง หรือยกขาขึ้นโดยเร็ว บางคนเมื่อยกขาขึ้นแล้วก็รีบหายาแก้น้ำร้อนลวกไฟไหม้มาทาที่ฝ่าเท้าเพื่อป้องกันและรักษา

หรือบางคนก็จะรีบเอาเท้าไปแช่น้ำเพื่อบรรเทาความปวดร้อนจากการถูกถ่านไฟลวกไหม้ เปรตเองก็เช่นกัน เมื่อปากถูกไฟลวกไหม้เช่นนั้นก็ไม่อาจยืนนิ่งอยู่กับที่ได้ จำต้องวิ่งไปมาเพื่อหาทางดับไฟที่ไหม้ปากของตน

โดยคิดว่าอย่างน้อยการที่วิ่งไปมานั้นยังดีกว่านั่งเฉยๆ ยืนเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย หรือคิดว่าการที่วิ่งไปข้างหน้านั้นอย่างน้อยน่าจะมีหนองน้ำหรือสระน้ำให้อาศัยเพื่อดับไฟในปากบ้าง

แต่ว่าสำหรับอัคคิชาลมุขเปรตแล้วก็ต้องผิดหวังเศร้าสร้อยไปตามๆ กัน เนื่องจากหนองน้ำหรือสระน้ำที่หวังจะได้มาดับไฟในปากของตัวเองนั้นไม่มีเลย

และถึงแม้จะมีหนองน้ำหรือสระน้ำที่ว่าก็ไม่สามารถจะดับไฟในปากของพวกเขาได้ ทั้งนี้เพราะไฟที่ลุกโพลงในปากนั้นเป็นไฟที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากอกุศลกรรมที่พวกเปรตเคยทำไว้จึงไม่อาจดับได้

แล้วกรรมอะไรเล่าที่นำให้มาเกิดเป็นอัคคิชาลมุขเปรตที่มีเปลวไฟพ่นออกจากปากตลอดเวลา

ท่านว่ากรรมที่นำสัตว์ให้มาเกิดเป็นอัคคิชาลมุขเปรตก็คือ แต่ก่อนที่เป็นมนุษย์นั้นเปรตพวกนี้เป็นคนมีอัธยาศัยใคร่จะหัวเราะเล่นต่อสมณพราหมณ์ผู้มีศีล จะพูดว่าอยากแกล้ง ผู้มีศีลเล่นก็คงจะไม่ผิด

จึงได้นำเอาอาหารที่ปรุงแล้ว ทั้งร้อนนักบ้าง เผ็ดนักบ้าง ขมนักบ้าง เปรี้ยวนักบ้าง มาถวายสมณพราหมณ์ผู้มีศีลและอาจารวัตรได้บริโภค

พอท่านผู้มีศีลบริโภคแล้วสำแดงอาการอันผิดปกติอันเกิดจากการบริโภคนั้นออกมาให้เห็นต่างๆ นานา คนพวกนี้ก็พากันหัวเราะเยาะเย้ยเล่นตามที่ตนเจตนาเอาไว้

อาศัยกรรมอันลามกนี้จึงไปบังเกิดป็นอัคคิชาลมุขเปรต

ไม่แต่เท่านี้บุคคลที่ไปด่าว่าตัดพ้อสมณพราหมณ์ผู้มีศีล รวมถึงบิดามารดาของตนก็ด้วยล้วนเป็นเหตุนำให้ไปเกิดเป็นอัคคิชาลมุขเปรตเหมือนกัน

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'