ต่อยอด เรื่องของชาวเรา
บันทึกนี้มีตุ๊ดเป็นเจ้าของ เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อตอนน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ 2554 จุดประสงค์หลักที่เธอเขียนบันทึกนั้นไม่มีอะไรมาก
โดย...โจนาสเตเชีย ภาพ Facebook.com/Toodsdiary
บันทึกนี้มีตุ๊ดเป็นเจ้าของ เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อตอนน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ 2554 จุดประสงค์หลักที่เธอเขียนบันทึกนั้นไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากระบาย ระบาย แล้วก็ระบายถึงความกลัวและความกังวลใจอันเกี่ยวเนื่องมาจากน้ำท่วม
เขียนเสร็จเธอก็นำมาโพสต์ในเพจที่เธอสร้างไว้ “บันทึกของตุ๊ด” เขียนไปเขียนมาและลงเรื่องราวอย่างสม่ำเสมอ ปรากฏว่าก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวโซเชียลมีเดีย มีคนตามอ่านตามเชียร์จำนวนมาก วันแล้ววันเล่าจำนวนก็มากขึ้นเป็นลำดับ จนแซงหน้าทุกๆ เพจในประเทศนี้ชนะเลิศ!!!
ณ วันนี้ความดังของเธอและเพจไปไกลเกินจะกู่กลับ จากหน้าเพจธรรมดาๆ กลับกลายมียอดถูกใจถล่มทลาย และนำไปสู่การแปรงร่างมาเป็นหนังสือสุดแซ่บชื่อเดียวกัน
“ยินดีกับหนังสือบันทึกของตุ๊ด ดีใจกับน้องตุ๊ดคนนี้ ที่เดินทางไกล เเละมีผู้อ่านมากมายรัก เชื่อว่าบันทึกของตุ๊ดช่วยส่งเสริมให้คนไทยอ่านหนังสือมากขึ้น ยินดีด้วยนะคะกับความสำเร็จครั้งนี้” (ตุ๊ดสอนภาษา อาจารย์ลูกกอล์ฟ-คณาธิป)
“เสน่ห์ของหนังสือบันทึกของตุ๊ด คือมันเหมือนเพื่อนคนหนึ่งมาเล่าอะไรให้ฟังใช้ภาษาง่ายๆ มีอารมณ์ขัน เข้าใจง่ายเเต่ได้สาระเเละเเนวคิด โดยที่เราไม่รู้สึกว่าโดนยัดเยียด เเละที่สำคัญคือมันต้อง ‘มีชีวิต’ ผมเคยเห็น ไอ้ช่า มันเคยทำให้เพจ ‘บันทึกของตุ๊ด’ มีชีวิตมาเเล้วเเละผมก็มั่นใจว่ามันจะให้ชีวิตกับหนังสือเล่มนี้ได้เช่นกัน” (สมรักพรรคเพื่อเก้ง)
“ช่า บันทึกของตุ๊ด ผู้นี้ต่ายขอเเนะนำให้คุณรู้จักนางให้มากกว่านี้ ต่ายฝากคุณให้บอกเพื่อนตุ๊ดรุ่นน้องของต่ายคนนี้ว่าต่ายมีความสุขมากๆ ที่ได้รู้จักนางค่ะ” (Jay The Rabbit)
คำนิยมในหนังสือมาจากปากเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ กำลังใจหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาด ยอดกดถูกใจของแฟนเพจก็มีมาไม่หยุด พุ่งปรี๊ดๆ จนล้นทะลัก หลักหมื่นแป๊บเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นหลักแสน สองแสน สามแสน สี่แสน กระทั่งทะลุหลักครึ่งล้านในเวลาไม่นาน แม่เจ้า!!!
เรียกว่าชาวเราทั้งหลายที่ก็ได้สมใจอ่านเรื่องราวสมัยใหม่ใกล้ตัว ด้วยสำนวนตรงไปตรงมาและแง่มุมแปลกใหม่ ขณะที่ผลพลอยได้ของหนอนหนังสือทั่วไปนั่นคือการเปิดโลกทัศน์และอ่านความคิดของตุ๊ดคนหนึ่งในมุมมองต่างๆ
“วันหนึ่งช่วงปลายปีที่แล้ว ช่า กอล์ฟ และคิมไปงานบวชเพื่อน ณ จังหวัดหนึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก และตามธรรมเนียมการร่วมงานบวชของตุ๊ดไทย ตื่นเช้ามาพวกเราก็แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดไทย ‘หญิง’ แบบพร็อพเต็ม งานสไบต้องมา งานผ้าถุงต้องมี งานหน้าต้องหยาด งานผมต้องปัง ออกจากที่พักเกือบ 8 โมง มายืนรอรถสองแถวที่ท่ารถหน้าปากซอย มีชาวบ้านยืนรออยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ทุกคนมองเราและเริ่มยิ้มอย่างเอ็นดู ณ เวลานั้นบรรยากาศโดยรอบดูลงอย่างบอกไม่ถูก ผู้คนที่เป็นมิตรกับอากาศที่ดีงาม และแถมยังเป็นวันมงคลของเพื่อนสนิท เรายืนอยู่ตรงนั้นและมองหน้ากัน ทุกอย่างดูโลกสวยจนพวกเราตัดสินใจกันในนาทีนั้นว่า เราจะไม่พูดคำหยาบคายและเกรี้ยวกราดใส่ใครในวันที่แอลเลอแก๊นท์เช่นนี้” (บางส่วนจาก อุทาหรณ์สอนใจเก้ง ฉบับที่ 24)
แน่นอนหลังบันทึกของเธอถูกนำมาโพตส์บนหน้าเพจ หลากหลายคนเห็นก็เข้ามาแสดงความคิดและแชร์ต่อ ชอบก็ชม ไม่ชอบก็ถกเถียงกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด และไม่ใช่แค่ประเด็นนี้ ในทุกๆ ประเด็นต่างก็มีชาวเราเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น สนุกทั้งคนโพสต์คนอ่าน
คนยิ้มหน้าบานเป็นจานเปลและต้องกรีดเสียงร้องดังๆ ก็หนีไม่พ้นเจ้าของเพจ นามว่า “ช่า” จะเรียก “คุณช่า” “ไอ้ช่า” หรือ “อีช่า” ก็ตามสะดวก (ปาก) และความสนิทชิดเชื้อ แต่นามจริงของเธอนั้นนั่นคือ “ธีร์ธวิต เศรษฐไชย”
ช่าเคยให้สัมภาษณ์ว่าที่เพจบันทึกของตุ๊ดได้รับความนิยม เพราะภาษาและคอนเทนต์ ภาษาเข้าถึงง่าย อ่านแล้วมันลื่นไหล คอนเทนต์ไม่เน้นด่าหรือว่าใคร เป็นเพียงการนำสถานการณ์ที่เธอเจอมาเล่าในท่วงทำนองคล้ายอุทาหรณ์สอนใจ
ล่าสุด ความดังของช่าแรงดีไม่มีตก เธอกลายเป็นซุป’ตาร์หน้าสวยเดินสายออกงานอีเวนต์ไม่เว้นแต่ละวัน ปรากฏตัวต่อสื่อ ถือเป็นเพจไอดอลขาขึ้น ก็คนจะดังช้างก็รั้งไม่อยู่ ใช่ปะๆ ยิ่งเมื่อบันทึกของเธอที่ขยันบันทึกทุกวี่วัน ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว เรื่องใกล้ตัว เรื่องไกลตัว กระทั่งเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องไร้สาระในสายตาคนอื่น เรื่องเมาท์มอยในหมู่เพื่อนสาว ก็ดันไปคลิกและถูกจริตค่ายหนังอารมณ์ดี (จีทีเอช) ขอซื้อไอเดียของเธอไปดัดแปลงเป็นหนัง กำลังอยู่ในขั้นตอนการออดิชั่นนักแสดงที่จะมารับบทเด่น โดยเธอเป็นคนทำหน้าที่จิ้มเองกับมือ
เบื้องต้นภาพยนตร์ยังไม่สรุปว่าจะใช้ชื่อเดียวกันกับชื่อเพจและหนังสือหรือไม่ แต่งานนี้สาวกบันทึกของช่าตั้งตารอชม


