posttoday

กัญจิรา ส่งไพศาล ส่งเส้นใยธรรมชาติท้าวงการแฟชั่น

20 กรกฎาคม 2558

ในห้องเล็กๆ ของบ้านหลังใหญ่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นห้องทำงานของบริษัท ธิ้งค์อะเดย์ ผู้ผลิตเส้นใยธรรมชาติแบรนด์ทักทาย (Taktai) โต๊ะทำงานทรงสูงสีขาว

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ วีระวงศ์ วงศ์ปรีดี

ในห้องเล็กๆ ของบ้านหลังใหญ่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นห้องทำงานของบริษัท ธิ้งค์อะเดย์ ผู้ผลิตเส้นใยธรรมชาติแบรนด์ทักทาย (Taktai) โต๊ะทำงานทรงสูงสีขาว รายล้อมไปด้วยม้วนเส้นด้ายธรรมชาติ นอกนั้นเราแทบไม่เห็นเอกสารเหมือนกับออฟฟิศอื่นๆ มีเพียงเครื่องแมคบุ๊ก กล้องดิจิทัล และเครื่องแฟกซ์เล็กๆ หนึ่งเครื่อง กับหญิงสาวเพียงหนึ่งคนที่ทำหน้าที่ตั้งแต่ประธานบริษัทไปจนถึงพนักงานจัดส่งสินค้า (เมื่อจำเป็น) เธอคนนี้ชื่อ กัญจิรา ส่งไพศาล ผู้ปั้นแบรนด์ทักทาย เส้นใยธรรมชาติให้โลกได้รู้จัก

กัญจิรา เรียนจบด้านไอทีจากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังเรียนจบเธอทำงานในตำแหน่งผู้ตรวจสอบโปรแกรม (Automate QA tester) ที่ บริษัท ทอมสัน รอยเตอร์ส และทำงานที่สุดท้ายในตำแหน่งเดียวกันที่บริษัท อะมาดิอุส เอเชีย และผันตัวมาเปิดบริษัทผลิตและจำหน่าย ผ้า และเส้นใยจากธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ ทักทาย ที่กำลังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

กัญจิรา ส่งไพศาล ส่งเส้นใยธรรมชาติท้าวงการแฟชั่น

เริ่มต้นด้วยใจรักษ์

 “การเริ่มต้นธุรกิจของเรานี้ ก็เหมือนความฝันของทุกคนที่อยากจะมีธุรกิจของตัวเอง เลยเริ่มลองมองหาธุรกิจออนไลน์ในระหว่างที่เราทำงานใหม่ๆ แรกๆ คือจะลองทำเว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์ ก็ศึกษาดูข้อมูลว่าเราจะขายอะไรดี จนไปเจอเรื่องเส้นใยธรรมชาติ ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงสนใจเอามาทำเป็นธุรกิจ เพราะในประเทศยังไม่มีคนทำ เลยติดต่อสถาบันค้นคว้าและพัฒนาฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ‘สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ’ เพื่อขอความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีอาจารย์ประจักษ์ แอกทอง เป็นที่ปรึกษา

หลังจากวันนั้นก็ใช้เวลาศึกษานานอยู่พอสมควร เพราะเราเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่รู้จักเลยว่ากระบวนการสร้างเส้นใยเป็นอย่างไร ศึกษาลองผิดลองถูกจนรู้หมดทุกอย่าง จึงเริ่มต้นลองทำในชื่อแบรนด์แรกเลยคือ ท็อป เนเจอร์ เท็กซ์ไทล์ ทำผ้าออกมาหลายแบบ ทั้งผ้าที่ทำจากเส้นใยสับปะรด เส้นใยไผ่ เส้นใยผักตบชวา เส้นใยข่า ทำออกมาหลายแบบ มีทั้งตัวที่เป็นเส้นใยเอาไปทอสำหรับโรงงานและผืนผ้าออกมาให้เลือก”

กัญจิรา ส่งไพศาล ส่งเส้นใยธรรมชาติท้าวงการแฟชั่น

สินค้าที่ต่างชาติชื่นชอบ

กัญจิรา เล่าต่อว่า งานแรกที่ได้เชิญไปออก ก็คืองานแสดงสินค้าผ้าไหมไทย กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ช่วงปลายปี 2557 หลังจากเปิดตัวสินค้าได้ประมาณ 4 เดือน เรามีสินค้าเป็นผ้าใยไผ่ผสมเส้นไหม และผ้าเส้นใยผักตบชวาผสมเส้นไหม ก็เลยได้ไปออกงานที่นั่นในฐานะผ้าเส้นใยแบบใหม่

“ถึงจะไม่ได้ทันตั้งตัว เราก็ไป อยากรู้ว่าชาวต่างชาติคิดอย่างไรก้บสินค้าของเรา ปรากฏว่าฝรั่งเขาชอบเส้นใยของเรามาก โดยเฉพาะผ้าเส้นใยไผ่ผสมเส้นไหม จะมีลายผ้าที่สวยมีความนุ่มลื่นของไหม คนจากแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ขอให้เราส่งตัวอย่างผ้าที่เรามีไปให้เขาเลือก

ตอนนี้ล่าสุดเขาส่งข่าวกลับมาว่า เส้นใยผ้าผักตบชวาได้รับคัดเลือกให้อยู่ในแค็ตตาล็อกผ้าเล่มใหม่ของเขาแล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีดีไซเนอร์คนไหนเลือกหยิบไปใช้ ถ้าได้ใช้ก็จะเป็นอีกก้าวของเราที่ส่งผ้าเส้นใยธรรมชาติเข้าสู่วงการแฟชั่นได้สำเร็จ

หลังกลับจากฝรั่งเศส ก็คิดว่า เราน่าจะมีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง เลยเปลี่ยนเป็นแบรนด์ทักทาย เพราะเราอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับเส้นใยธรรมชาติแบบใหม่ของโลก และออกแบบเสื้อผ้าและสินค้าอื่นๆ ที่ใช้วัตถุดิบที่มีในการผลิตด้วยแฮนด์เมดทั้งหมด เพราะเราต้องการช่วยเหลือกลุ่มชาวบ้านที่ต้องการมีรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย”

กัญจิรา ส่งไพศาล ส่งเส้นใยธรรมชาติท้าวงการแฟชั่น

รูปแบบธุรกิจของคนรุ่นใหม่

การดำเนินการธุรกิจของ กัญจิรา เป็นแบบดำเนินการคนเดียวตั้งแต่เริ่มแรก เพราะเธอเองไม่อยากจะมีปัญหาเรื่องบุคลากรภายใต้ความดูแล ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สุดในทุกองค์กร เธอจึงเลือกที่จะจ้างเอาต์ซอร์สที่มีความสามารถเฉพาะทางเป็นคนจัดการ โดยเธอเองเป็นคนบริหารติดต่อให้ทำงานตามเป้าที่ตั้งไว้ดีกว่า การออกแบบเสื้อผ้าก็จ้างนักศึกษารุ่นใหม่เป็นคนออกแบบโดยเอาเนื้อผ้าที่มีอยู่เป็นโจทย์ในการออกแบบ ด้านการผลิตเน้นไปที่กลุ่มชาวบ้านที่สนใจรับจ้างผลิตให้

ด้านการสื่อสารการตลาดเธอใช้ความสามาถด้านไอทีที่ถนัด ออกแบบเว็บไซต์ สร้างสื่อโซเชียลมีเดียในทุกช่องทางด้วยแมคบุ๊กและกล้องของเธอเอง

กัญจิรา ส่งไพศาล ส่งเส้นใยธรรมชาติท้าวงการแฟชั่น

โลกฝันกับความจริงคนละเรื่อง

กัญจิรา ยอมรับว่า ภาพธุรกิจในฝันกับที่ทำจริงเป็นคนละเรื่อง โลกจริงคือคอร์สการเรียนธุรกิจที่ไม่สามารถหาเรียนได้จากที่ไหน ทุกก้าวมีอุปสรรคปัญหาแทบทุกจุด ตั้งแต่การคิดค้น การควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐาน การติดต่อประสานงาน แผนธุรกิจที่เราวางเอาไว้ คาดว่าต้องใช้เวลาปรับอีกสักปี ทั้งการหาแหล่งวัตถุดิบ การพัฒนาฝีมือผู้ผลิต และระบบการจัดการอื่นๆ ให้ลงตัวกว่านี้

โดยเฉพาะเรื่องการผลิตกับวัตถุดิบเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับธุรกิจนี้ เพราะวัตถุดิบเกือบทุกอย่างเป็นสินค้าจากผลผลิตทางการเกษตร ถ้าเจอภัยแล้งหรือสิ่งที่ทำให้ผลผลิตไม่ไปเป็นไปตามคาดก็จะทำให้การผลิตเส้นใยมีปัญหาได้

แต่ทั้งหมดเราเชื่อว่าต้องฝ่าฟันได้ทุกปัญหาแน่นอน เพราะลองย้อนกลับไปตอนที่ลาออกจากงานประจำมาทำเต็มตัว คุณพ่อคุณแม่ก็คัดค้านเหมือนกันว่าไม่ควร แต่ตอนนี้เราสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยตัวเอง ท่านก็เริ่มยอมรับและภูมิใจ และก้าวต่อไปหลังจากนี้อีก 1-2 ปี เราจะเริ่มทำเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มตัวมากขึ้น ซึ่งก็อยู่ในแผนการทำธุรกิจที่วางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

รู้จัก “ทักทาย” เส้นใยธรรมชาติเพิ่มเติมได้ที่  Facebook.com/ecotaktai และ taktai.co

ข่าวล่าสุด

‘ม.สงขลาฯ’ ร่วมกรมการแพทย์ รับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาด้วย CAR-T Cell