แน่วแน่แด่ฝัน ซานซิโอ จิดาภา จีระพันธุ
เรื่องนี้ค่อนข้างยาวเพราะจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โอ้-จิดาภา จีระพันธุ เคยถูกเรียกว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ เพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิว
โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ ไชยกฤต แซ่ตั่น
เรื่องนี้ค่อนข้างยาวเพราะจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โอ้-จิดาภา จีระพันธุ เคยถูกเรียกว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ เพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิว เธอจึงสนใจเรื่องปัญหาผิวหน้ามาตั้งแต่มัธยมฯ ต้น จากนั้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยจึงเลือกเรียนด้านวิศวกรรมเคมี สายผลิตเครื่องสำอาง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม (The University of Nottingham) ประเทศอังกฤษ
โอ้ค้นพบสูตรครีมที่สามารถแก้ปัญหาสิวของเธอได้ตอนเรียนอยู่ปี 3 จากนั้นเมื่อจบการศึกษาและกลับมาเมืองไทย จึงนำสูตรนั้นมาทำผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเองในนาม ซานซิโอ (Sanzio) วางขายทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเพียง 5 เดือน ตอนนี้มีรายได้เดือนละหลายแสน และอีกไม่นานจะขยายไปในร้านค้าทั่วประเทศไทย
ไทม์ไลน์ของเธอและซานซิโอ กล่าวโดยสรุปว่า... รายละเอียดระหว่างทางไม่ง่าย เพราะเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ เกิดจากแล็บ และมีความรู้ด้านการตลาดเป็นศูนย์
แก้ให้ตรงจุด
คณะวิศวกรรมเคมีทำให้เธอเจอทางออก หลังจากต้องทนกับสิวบนใบหน้ามาตั้งแต่ชั้นมัธยมฯ ต้น เธอพึ่งหมอมาตลอด แต่ก็ไม่มียาตัวไหนแก้ปัญหาได้ กระทั่งเธอได้เรียนรู้เรื่องโครงสร้างผิวหนังจากมหาวิทยาลัย จึงรู้ต้นตอของปัญหาทั้งหมด
“ผิวของคนเรามี 5 ชั้น” เธอกล่าว “ดังนั้นถ้าอยากให้มีผิวหน้าดี ก็ต้องทำให้ทั้ง 5 ชั้น แข็งแรง” คำตอบมีเพียงเท่านี้ เธอจึงคิดสูตรครีมที่ตอบโจทย์
“แอดวานซ์ สกิน รีชาร์จเจอร์ (Advanced Skin Recharger ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของซานซิโอ) สามารถปรับโครงสร้างในชั้นผิวที่ลึกมากๆ” เธออธิบาย “ตัวการที่ทำลายผิวคือสารอนุมูลอิสระ มันเป็นประจุลบที่สามารถทำลายคอลลาเจน-อีลาสตินได้มหาศาล และจะทำลายต่อกันเป็นโดมิโน แต่สูตรที่คิดขึ้นมาเป็นประจุบวก มันจะเข้าไปสกัดไม่ให้ประจุลบวิ่งต่อ และช่วยเสริมโครงสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น”
เธอมองการบำรุงผิวแบบวิศวกรรมศาสตร์ คือมองจากโครงสร้าง แก้ปัญหาจากตรงนั้น และใช้สารสกัดต่างๆ เป็นต้นช่วย เมื่อเจอทางออกแล้ว เธอจึงนำสูตรนี้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ขายในไทย ด้วยงบเริ่มต้นจากคุณแม่ 5 แสนบาท ซึ่งแค่ต้นทุนการผลิตก็เกือบหมดแล้ว
คอนเนกชั่น
ก่อนที่แม่จะให้เงินทุน ทุกคนในครอบครัวเชียร์ให้เธอทำงานประจำ เพราะหลังจากจบการศึกษาก็มีบริษัทใหญ่หลายแห่งติดต่อให้เธอไปทำงานด้วยเงินเดือนกว่า 5 หมื่นบาท แต่เธอก็ปฏิเสธไป เพราะมีความแน่วแน่ในการทำครีมของตัวเอง
“โอ้ตั้งใจกลับมาทำให้คนไทยรู้จักวิศวกรรมเคมี จริงๆ แล้วสกินแคร์ทุกตัวกว่าจะออกมาใส่ขวด ต้องผ่านวิศวกรรมเคมีทั้งหมด ซึ่งคนทั่วไปไม่รู้จักว่าคืออะไร แต่วันนี้นักวิศวกรรมเคมีจะออกมาพูด มาช่วยแก้ปัญหา และโอ้มีความเชื่อมั่นว่าสูตรที่คิดขึ้นมา มันจะแก้ปัญหาผิวหน้าได้จริงๆ” โอ้ กล่าว
หลังจากนั้น เมื่อเธอทุ่มเงินไปในการผลิตสินค้า ขั้นตอนต่อไป คือจะขายมันอย่างไร ขั้นนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องการตลาดเป็นศูนย์ และไม่มีเงินพอที่จะไปจ้างนักการตลาด ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ คือ “เดินเข้าไปหาเอง”
ตัวช่วยแรกคือคนใกล้ตัว คุณป้าของเธอแนะนำให้ไปเจอผู้เชี่ยวชาญการสร้างแบรนด์ อย่าง ศิลป์ชัย ชัยสิทธิเวชช วันนั้นเธอไปด้วยความนอบน้อมแบบเด็กไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ เล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง รับความรู้จากท่านมา ฝากครีมให้ใช้ และลากลับบ้าน หลังจากวันนั้น 3 วัน ศิลป์ชัยก็โทรศัพท์กลับมา แต่ก่อนที่จะให้คำปรึกษา ท่านชมเชยว่า “ครีมใช้ได้ผลดี”
จากนั้น ศิลป์ชัยก็แนะนำต่อไปยังผู้บริหารในช่องสปริงนิวส์ เธอเข้าไปพบแล้วใช้วิธีเดียวกันเป๊ะ คือเข้าไปหาอย่างนอบน้อม ฝากสินค้า และหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เธอก็ได้รับโทรศัพท์พร้อมคำเชิญชวนให้เข้าไปทำรายการในฐานะผู้ให้ความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีเครื่องสำอาง
แต่ในขณะเดียวกัน ระหว่างที่เธอกำลังประชาสัมพันธ์แบรนด์ซานซิโออยู่นั้น การขายสินค้าก็ยังดำเนินต่อไปในโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
ขยายขายของ
5 เดือนที่ผ่านมา เธอขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้าว่า เธอไม่ใช่แม่ค้าขายครีมฉาบฉวย จึงตัดสินใจหาทำเลเปิดออฟฟิศสำหรับขายสินค้า และให้คนเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวได้โดยตรง แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอยังรู้สึกไม่พอ
“โอ้ฝันใหญ่อยากไปทั่วประเทศ” เธอจึงเดินเข้าไปคุยกับวัตสัน ใช้กลยุทธ์เดิม คือ เล่าเรื่องตัวเอง นำสินค้าไปให้ใช้ ขอโอกาสเข้าไปขาย จากนั้นถัดไป 2 สัปดาห์ วัตสัน ตอบ “ตกลง” ให้นำสินค้าไปวางขายได้ทั่วประเทศ ล่าสุดเธอเพิ่งเซ็นสัญญาและจะวางขายในเดือน ต.ค.นี้ และขั้นต่อไปเธอก็จะออกโรดโชว์ตามสาขาต่างๆ ให้คนรู้จักมากขึ้น
“ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้” ตอนนี้เธออายุ 25 ปี ขายสินค้าได้เดือนละประมาณ 3 แสนบาท จากเดือนแรกที่ขายได้เพียง 2 หมื่นบาท ในอนาคตเธอวางแผนจะขยายตลาดไปสู่ตลาดเออีซี และฝันจะจำหน่ายออกไปทั่วโลก นอกจากนี้เธอยังตั้งเป้าไว้ว่า เมื่อสินค้าขยายไปทั่วประเทศไทยแล้ว จะต้องได้รายได้อย่างน้อย 30 ล้านบาท ในปี 2559
วิธีเลือกซื้อครีม
ซานซิโอ เติบโตค่อนข้างเร็ว เพราะกลยุทธ์แบบปากต่อปาก ซึ่งเธอได้ฝากคำแนะนำแก่ผู้บริโภคที่ต้องการเลือกซื้อครีมไว้ 3 ข้อ คือ หนึ่ง ต้องรู้จักผิวตัวเอง “การซื้อครีมคือการลงทุนอย่างหนึ่งที่ต้องได้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทราบก่อนว่าผิวเราเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง”
สอง ศึกษาผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมที่ช่วยผิวอย่างไร สาม เลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ซึ่งการตัดสินใจซื้อต้องเลือกจากตัวเอง และเรื่องสำคัญคือ “ไม่มีสารอะไรที่ให้ผลดีแล้วราคาถูก เพราะส่วนผสมที่ดี กิโลกรัมละเป็นแสน ดังนั้นครีมกระปุกละ 300 บาท มันขายไม่ได้แน่ๆ” เธอฝากไปยังผู้บริโภค &O5532;
ติดตามซานซิโอได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/SanzioThailand อินสตาแกรม SANZIOTH โทร. 08-4529-5255, 02-862-5885 ไลน์ sanziothailand หรือไปพบช็อปซาน ซิโอ้ได้ที่ ตึกมาสเตอร์วิว เอ็กเซ็กคลูทีฟ เพลส ซอยเจริญนคร 34/1 กรุงเทพฯ


