posttoday

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

06 กรกฎาคม 2558

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่คนทั่วไปเรียกสั้นๆ ติดปากว่า "บ้านสมเด็จย่า"

โดย...แมงโก้หวาน

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่คนทั่วไปเรียกสั้นๆ ติดปากว่า "บ้านสมเด็จย่า" อันตั้งอยู่ภายในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขตคลองสาน ฝั่งธนบุรี ด้านหลังวัดอนงคาราม จัดว่าเป็นสถานที่ที่คนชอบไปชื่นชมธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย หาความรู้ที่หลากหลายและได้ระลึกถึงสมเด็จย่า เพราะสถานที่บริเวณนี้เคยเป็นนิวาสสถานเดิม (ที่อยู่เดิม) ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ครั้งทรงพระเยาว์

แค่รู้ว่าเคยเป็นที่อยู่เดิมของสมเด็จย่า ใครๆ ก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง และเมื่อได้ไปแล้วก็เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

ก่อนจะมาเป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี 2536 พระองค์ทรงให้บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นคณะสำรวจสถานที่ที่สมเด็จย่าเคยประทับเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งอยู่บริเวณหลังวัดอนงคาราม เขตคลองสาน รวมทั้งสำรวจชุมชนบริเวณนั้นที่ค่อนข้างต่างจากชุมชนอื่น เพราะประกอบด้วยชาวไทย จีน มุสลิม และลาว เคยอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ทว่าปัจจุบัน กิจกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชุมชน รวมทั้งอาคารบ้านเรือนในชุมชนเปลี่ยนแปรไปมาก สมควรจะได้ศึกษาเพื่อจะได้ฟื้นฟูให้คงอยู่สืบไป 

ตอนกลางของพื้นที่เป็นที่ตั้งบ้านของเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค) อธิบดีกรมพระคลังสินค้า ในรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารตึกแถวปนไม้ขนาดใหญ่ 2 ชั้น จำนวน 2 หลังตั้งขนานกัน ลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ล้อมรอบตึกแถวบริเวณเรือนบริวารชั้นเดียวทางด้านขวาและด้านหลังของตึกใหญ่ ส่วนด้านซ้ายเป็นตึก 2 ชั้น ลักษณะที่ล้อมรอบนี้ประยุกต์จากสถาปัตยกรรมแบบจีน อาจเก่าแก่ถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) บิดาเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ฯ (แพ) เป็นผู้ปกครองชุมชนย่านนี้

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

 

ด้วยเหตุดังกล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อนุรักษ์ พัฒนาและสร้างสถานที่บริเวณดังกล่าวให้เป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในจัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ บริเวณสวนพักผ่อนทั่วไป ตั้งอยู่ทางด้านหน้า จัดเป็นสวนสาธารณะระดับชุมชนสำหรับประชาชนทุกเพศทุกวัยได้มาพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งบริเวณนี้แวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้หลากชนิด โดยเฉพาะพันธุ์ไม้หอม อาทิ ชำมะนาด พุด จีบ ปีบ ลั่นทม เป็นต้น รวมถึงต้นไม้ใหญ่ทั้ง 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง มีทางเดินเล่น ลู่วิ่งออกกำลังกาย มีที่นั่งพักผ่อนรอบอ่างน้ำพุกลมภายใต้ร่มเงาของต้นไทรใหญ่อายุเกือบร้อยปี

ขณะทางด้านตะวันออกของสวนเป็นที่ประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จย่าหล่อด้วยโลหะ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ลักษณะพระบรมรูปขนาดเท่าพระองค์จริง ประทับนั่งในพระอิริยาบถสบายๆ ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือดินใต้ฐานพระราชานุสาวรีย์นั้นนำมาจากสถานที่ต่างๆ ที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชกรณียกิจ

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

 

ส่วนที่สองเป็นบริเวณอนุรักษ์ ประกอบไปด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์ 2 หลัง หลังแรกจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จย่า ประมวลเหตุการณ์ในการพระราชพิธีพระบรมศพ พระตำหนัก วัง ตลอดจนที่ประทับครั้งทรงพระเยาว์ และประวัติชุมชนย่านวัดอนงคาราม หลังที่สองจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจพระราชจริยวัตรและงานฝีพระหัตถ์ของพระองค์ จัดเป็นตู้บอร์ดภาพสลับกับภาพโปร่งแสง และตู้แสดงฝีมืองานพระหัตถ์ของใช้ส่วนพระองค์ มีคำอธิบายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

อีกที่หนึ่งถือเป็นไฮไลต์ คือ "บ้านจำลอง" ของสมเด็จย่าเมื่อครั้งประทับที่ชุมชนแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างไปทางวัดอนงคารามไม่เกิน 200 เมตร เป็นเรือนแถวที่จำลองมาเพียง 1 ห้อง ด้านในบ้านจำลองตกแต่งภายในตามหนังสือ "แม่เล่าให้ฟัง" พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

 

ลักษณะบ้านจำลองตัวอาคารก่ออิฐถือปูน มีชาน ระเบียงด้านหน้าบ้าน และด้านข้างปูด้วยไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผา ชั้นลดหลังคาด้านหน้ามุงจาก ผนังด้านข้างกรุด้วยกระจกใส เพื่อให้ผู้เข้าชมมองเห็นภายในได้ ด้านข้างอาคารมีการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ของเดิมไว้ หลังคาจึงเว้นสำหรับต้นไม้ทำลุขึ้นไป มีทางเข้าบ้าน ประตูด้านหน้าทางเดียว เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วจะเห็นทางเดินถึงหลังบ้าน ด้านขวามียกพื้นไม้และใช้ไม้ปิดแบ่งห้องเป็น 3 ตอน มีห้องพระและห้องทำทองซึ่งเป็นที่ประกอบอาชีพของพระชนกชู ถัดไปเป็นห้องนอน ด้านหลังเป็นห้องครัวตลอดกำแพงหลังบ้าน ภายในได้จัดหาสิ่งของเครื่องใช้มาจัดแสดงแต่ละห้องตามสภาพความเป็นอยู่ในช่วงปลายรัชกาลที่ 5-6

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) เป็นอาคารโบราณที่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่จากอาคารซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และได้ตั้งชื่ออาคารตามชื่อของท่านเจ้าของเดิม คือ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค) เพื่อจัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียนทั้งในตัวอาคารและพื้นที่กลางแจ้ง รวมถึงจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางศิลปะอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดกว้างสำหรับศิลปินทั่วไปในการใช้สถานที่แห่งนี้แสดงออกถึงผลงานทางศิลปะ

บ้านสมเด็จย่า ร่มรื่นสดชื่นทุกลมหายใจ

 

อีกเนรมิตกรรมที่โดดเด่นตระการตามาก คือ แผ่นหินแกะสลักขนาดใหญ่แสดงพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า ภาพสลักแผ่นหินทรายทางด้านใต้แสดงพระราชกรณียกิจของพระองค์ในท้องถิ่นทุรกันดาร ด้านเหนือแสดงกระบวนแห่ไหว้สาแม่ฟ้าหลวงของชาวล้านนา

ที่อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น มุมหนังสือ เรือนสรรปัญญา (ชั้น 1 ด้านหลังอาคารศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์) เป็นส่วนหนึ่งของอาคารศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) เดิมเป็นเรือนครัวของบ้านเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค) ปัจจุบันปรับปรุงเป็นมุมหนังสือสำหรับให้บริการผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมอุทยานฯ และประชาชนทั่วไปได้เข้ามานั่งอ่านหนังสือ เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันพุธ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันพฤหัสบดีและวันศุกร์

ขอเชิญร่วมงานวันคล้ายวันสวรรคต "สมเด็จย่า" ณ อุทยานฯ ในวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 2558 เวลา 09.30-12.00 น. มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ นิทรรศการ 20 ปีที่จากไกล...ทรงสถิตในใจไทยทั้งผอง กิจกรรมพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จย่าต่อปวงประชา ตชด. รายละเอียด โทร. 02-437-7799

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ