นศ.กลุ่มประชาธิปไตยใหม่
เฟซบุ๊ก Bunnaroth Buaklee
เฟซบุ๊ก Bunnaroth Buaklee
นศ.กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ กับ ขบวนการกปปส. เป็นคนละเรื่องคนละทาง แต่สำหรับผมมันเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ เป้าหมายยุทธศาสตร์/ยุทธวิธี เน้นไปที่การต่อต้านและโค่นล้มเป็นหลัก ส่วนอะไรเท่ๆ เช่นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาประชาธิปไตย บลาๆ เหล่านั้นเป็นรองลงไป หรือไม่ก็เป็นข้ออ้างบังหน้า
เขียนแบบนี้รอก้อนอิฐจากสองฝั่งได้เลย
ตอนที่กปปส.ขึ้นสูงสุด แต่ยังไม่พูดถึงการปฏิรูป ผมและหลายคนนึกถึงโอกาสปฏิรูป... ตอนที่กปปส.เริ่มใช้วาทกรรมปฏิรูป ผมถามหารายละเอียด(เพราะคาดหวังอย่างเปี่ยมล้นว่าการปฏิรูปใหญ่น้องๆ ปฏิวัติยกระดับระบบนั้นต้องอาศัยพลังแบบนี้แหละ) แต่ก็ถูกยันกลับว่า มากระตุกขากันทำไมตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน บ้างก็ว่าต้องล้มล้างทักษิณให้สิ้นก่อนจึงจะปฏิรูปได้ บ้างก็เถียงว่านี่ไงปฏิรูปแล้วไง
ทำเอาคนที่อยากเห็นการปฏิรูปจริงๆ แบบผมค่อยๆ ก้มหน้าเงียบเสียงลง แม้จะพยักหน้ายิ้มเป็นกำลังใจให้คนที่ออกไปสู้ เพราะไม่พอใจรัฐบาลลักหลับ แต่ผมก็ไม่คาดหวังผลลัพธ์ปลายทางเสียแล้ว ผมจึงประกาศขอลงจากขบวนรถ ไม่ขอไปถึงปลายทางแบบที่แกนนำเขาลากพาสถานการณ์ไป
ยุทธศาสตร์การต่อสู้ของกปปส. คือโค่นล้ม! เหตุการณ์มันยืนยันด้วยตัวของมันเอง
มองย้อนกลับไป...การต่อสู้ของนักศึกษา หรือพลังบริสุทธ์ในอดีตที่ผ่านมา ใกล่้เคียงที่สุดกับคำว่า มีแต่หัวใจไม่มีประสบการณ์ แกนนำ 14 ตุลาที่ไปเจรจากับรัฐบาลทางหนึ่ง อีกทางก็ปล่อยขบวนอยู่กับอาจารย์เสกฯ อย่างท่านผู้ว่าแบงก์ชาติท่านก็ยอมรับว่า ขบวนการนักศึกษาตอนนั้นไม่เดียงสา
16 ตุลา...เอ๊ย 6 ตุลา ที่นักศึกษารุ่นนี้ประกาศสืบทอดเจตนารมย์อะไรนั่น คืออะไร? สถานการณ์โลกและภูมิภาครอบด้านบังคับให้เหลือทางเลือกแค่ 2 ทาง พูดกันตรงๆ คือขวาสุด กับซ้ายสุด ไม่มีหรอก! ประชาธิปไตยอะไร มีแต่ความรู้สึกถึงความชอบธรรม ความถูกต้อง หรือแค่รู้สึกว่า มันไม่ใช่!!! เท่านั้นเอง ซึ่งมองจากปีพ.ศ.นี้มันเลอะเทอะสิ้นดี ไม่รู้สินะ แต่ถ้าเป็นเราเองที่อยู่ในบริบทแวดล้อมจริงๆ อาจต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง
ไม่ว่าเหตุการณ์ใดในอดีต รวมถึง 2535 มันมีกลุ่มบริสุทธ์ใจ เจตนาดี และต่อจากนั้นก็มีกลุ่มฉวยโอกาสจากสถานการณ์ มันเป็นเช่นนี้ นี่คือการเมืองจริงๆ ในโลกใบจริง แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะไทยเท่านั้น มันเป็นการเมืองของมนุษยชาติขี้เหม็นแท้ๆ
จำภาษิตจีนไม่ได้ อะไรนะ... นกกระจิบ จับแมลง นกตะกรุมปากมัน สะกดตามหลังอีกทอด (หรือเปล่า!)
ผมประกาศมาแล้วหน มารอบนี้ก็เช่นเดิม คือปล่อยๆ มันเหอะ เด็กๆ คนรุ่นนี้มีหัวใจห้าวหาญ สศจ.ก็บอกเองว่าคนมีน้อย เด็กๆ ก็เท่าที่เห็น ส่วนคนแก่ที่อยู่ข้างหลังน่ะก็มีหลายแบบ แบบที่ยุเขาตัวเองชิ่งก็มี แบบที่ซาดิสม์อยากเห็นประท้วงใหญ่ลามแบบปีเสื้อแดงก็มี คือมีหลายแบบ แม้กระทั่งเด็กๆ เองมันก็มาจากสองทาง พวกดาวดินอีสานนี่เขามาจากฐานคิดเรื่องสิทธิชุมชน เรื่องทรัพยากร คือมาจากหมู่บ้าน แล้วเราต้องยอมรับนะว่าไม่ว่ารัฐบาลใด แม่ง ไอ้ระบบราชการรวมศูนย์เฮงซวยไม่เห็นหัวคนมันก็อีหรอบนี้แหละ นาดูนน่ะใช่เลย รัฐบาลนี้ใช้ทหารนำเครื่องมือนายทุนเข้าพื้นที่ก็เห็นๆ อยู่ แล้วเสื้อแดงก็ไม่ต้องตีปีกไป รัฐบาลประชาธิปไตยยิ่งลักษณ์ก็ไม่ดีกว่ากันหรอก ใช้คำว่าเลวก็ได้ ปฏิบัติกับชาวบ้านแบบเดียวกันทั้งนั้น
คือถ้ามองให้ลึกนักศึกษากลุ่มนี้ก็คล้ายๆ คณะราษฎรนะ (ฮา) ก็คือมารวมกันด้วยจุดหมายต้นจุดหมายเดียว แต่พอนานไปความต่างก็แยกชัดเจน เพราะนักศึกษาในเมืองกลุ่มแดงซ้าย ที่หนุกหนานกับการต่อต้านอะไรเท่ๆ ประมาณว่าพูดเรื่องลึกลับที่ชาวบ้านไม่รู้ ลับๆ แบบที่พวกกูเท่านั้นน่ะรู้ ... หูยยย มันก็คือความหลงตนของซ้ายไร้เดียงสาทั้งหลายที่เคยเป็นมาในอดีต ตั้งแต่โน่น 2518 2520 อย่างไร มันก็ยังเป็นเช่นนี้ ...
ถามจริงๆ เหอะ นักศึกษาเคลื่อนไหวรอบนี้เป้าหมายเพื่ออะไร? ก็คงตอบว่าเพื่อความชอบธรรม ระบอบ/ระบบมันไม่ชอบก็มีสิทธิ์ต้าน บลาๆ ก็โอเคครับ มันก็มีคำตอบอยู่พอประมาณ แต่ก็เป็นแบบเดียวกับกปปส.นั่นล่ะ ก็แค่ โค่นล้ม/ต่อต้าน/กูไม่เอามึง
แล้วไงต่อล่ะ!!!?
นักศึกษาไม่ต้องตอบหรอกครับ เพราะน้องสู้ด้วยหัวใจ ผมเคารพอารมณ์แบบนั้นเพราะผมเคยเป็นมา (ผมน่ะไร้เดียงสามาก่อน แต่ต่อมาก็เก่งนะ ฮาๆ) แต่ที่อยากถามคือ อยากถาม พวกผู้ใหญ่ที่หนุนหลังทั้งหลาย
เอาไงต่อ!!!
เลือกตั้งกลับสู่วิถีเดิมๆ ใน 3 วัน 8 วันใช่ไหม?
หรือยังไง?
มนุษย์น่ะ มีดีอย่างตรงที่มีบทเรียน มีความคิด สรุปบทเรียน หลีกเลี่ยงผิดพลาดจากในอดีต
สำหรับคนรุ่นผม เห็นหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว 14 ตุลาตั้งแต่เล็กๆ ยังจำติดตา เข้าใจเหตุการณ์ 16 เอ๊ย 6 ตุลา ตอนนั้นยังไม่ทันเป็นนักศึกษา แต่ก็รู้ความแล้ว ขนาดที่เคยยิงปืนพกอัดลมของนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เขาพกป้องกันตัวจากกระทิงแดงก็แล้วกัน ผ่านพฤษภา35 ผ่านโน่นนี่ในยุคทักษิณผงาดสุดๆ รุมใช้อำนาจประดามีประเคนใส่ก็ผ่านมาแล้ว
ถ้าให้ผมเลือกที่จะทำ ผมเลือกที่จะทำอย่างไรก็ตามไม่ให้ประเทศไทยกลับสู่วังวนแบบเดิมๆ ทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นจากกับดักอุบาทว์ที่กำลังเกิดให้ได้ ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของผมและคนรุ่นๆ เรา ไม่ควรย้อนกลับไปเหมือนที่เราเป็นเด็ก
คือสักแต่ต่อต้าน เอาความเป็นธรรมเฉพาะหน้า ...แล้วไงต่อ ค่อยว่ากันอีกที!
เคยวิจารณ์สมศักดิ์ เจียมฯ ว่าไม่ค่อยเสนออะไรที่เป็นทางออก เมื่อวานวานซืนเห็นแว้บๆ ใครแชร์มา สศจ.ก็เสนอทางออกที่น่าสน ไปตามความคิดแกแนวทางหนึ่ง โอเค นั่นคือ เป้าหมายในทางยุทธศาสตร์
คือว่าคนรุ่นนี้น่ะ สามารถทำอะไร เสนออะไรที่ดีกว่าเด็กๆ เขา แต่ละคนแต่ละรุ่นก็ทำหน้าที่ต่ามบทบาทของตนให้สมกับรุ่นกับวัยไป
คนในสังคมน่ะไม่เหมือนกัน คนเสื้อแดงรักทักษิณก็เชียร์รัฐบาลยิ่งลักษณ์เชียร์ชายชุดดำปราบปรามนกหวีด แจ๊ดมันระห่ำตื้บคนไอ้พวกนี้ก็เชียร์ มันต่างกันตรงไหนกับ กลุ่มคนรักรัฐบาลบิ๊กตู่เชียร์ให้เอาให้เจ็บๆ จับมันๆ เอานักศึกษาเข้าคุก
ถ้าเอาไมโครโฟนไปจ่อ ผมเชื่อนะ ทั้งสองกลุ่มเองก็ตอบไม่ได้ว่าจะแก้ปัญหาการเมืองแบบที่เป็นอยู่อย่างไร นอกเสียแต่ กวาดล้างอีกฝ่ายออกไป แล้วเอาฝ่ายที่ตัวเองชอบขึ้นมามีอำนาจ หุหุ
ซึ่งที่สุดแล้ว ยุทธศาสตร์/ยุทธวิธี กวาดล้างโค่นล้มอีกฝ่าย เอาฝ่ายตัวเองมีอำนาจ แบบนั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับ
อีกสัก 15 ปี พอพวกดาวดินแก่ๆ ลง ก็อาจจะมีนักศึกษาไม่กลัวน้ำร้อน ไฟแรงแบบนี้ขึ้นมาอีก มาไล่รัฐบาลจากรัฐประหาร ที่ไล่รัฐบาลโอ๊ค พานทองแท้ ซึ่งมี จตุพร พรหมพันธุ์เป็นรองนายกฯ ลงไป ล่อให้จับ กูไม่กลัวมึงอยู่แบบนี้ตามเดิม
คนที่แก่กว่านักศึกษา ต้องไม่คิดแบบเด็ก ๆ นักศึกษาครับ คนรุ่นนี้ปล่อยๆ ให้ได้แสดงออกตามหัวใจไปตามประสา คืออย่าถึงล้ำออกมาจนผิดมากมาย ถ้าแค่ประท้วงก็ไม่ต้องไปจับหรอก ..
เด็กแสดงบทบาทเด็ก ผู้ใหญ่ที่ต้องแบกบ้านเมืองต้องแสดงบทบาทผู้ใหญ่ กองเชียร์ก็อย่าหน้ามืดเอาเฉพาะฮีโร่ของฉัน ... บ้านเมืองมันจะไปได้
รัฐบาลลุงตู่เองก็อย่าไปติดหล่มโคลนกับเรื่องแบบนี้เลย เร่งคิดเร่งทำเร่งลง บอกกับทุกคนแวดล้อมว่า ให้เสียสละๆๆๆ ถ้ายอมแบบนี้ได้สักฝ่ายไม่คิดต่ออำนาจ ไม่วางปูทางอะไรเอาไว้แบบที่สปช.บางกลุ่มคิดวาง (ตามแบบวิธีคิดของราชการจ๋า) รัฐธรรมนูญใหม่น่ะ ต้องสลัดหลุด คำว่าอำมาตยาธิปไตยให้ได้ แปลว่า พวกท่านต้องยอมกลืนเลือดๆๆ นะ
แล้วประวัติศาสตร์จะบันทึกท่านเอง
ที่มา https://www.facebook.com/bunnaroth.buaklee/posts/962235747154501?fref=nf&pnref=story


