อ้วน-รีเทิร์น จากกัดก้อนเกลือมาเป็นนักธุรกิจพันล้าน
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์
อนันต์ เสมาทอง เจ้าของสมญา อ้วน รีเทิร์น พิธีกรรายการแฉแต่เช้า On TV และนักแสดงละครจาก Club Friday ที่โด่งดัง เขายังเป็นพิธีกรหลักในมีเดีย ชาแนลและบันเทิงทูเดย์ GMM เป็นผู้สร้างและล่าสุดเตรียมจะก้าวสู่การเป็นผู้จัดละคร
งานปัจจุบันไม่เพียงด้านบันเทิง แต่ในด้านธุรกิจก็เป็นที่ยอมรับ ปัจจุบันเขาทำธุรกิจด้านเครื่องสำอางและอาหารเสริม ประกอบด้วย เครื่องสำอางแบรนด์รีเทิร์น แบรนด์ซูซี่ รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) รับจ้างผลิตและสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้กับเหล่าดารา นายแบบนางแบบทั่วฟ้าเมืองไทย
อ้วนเล่าว่า จบการศึกษาแค่ มศ.3 พื้นเพเป็นคนเพชรบูรณ์ มีพี่น้อง 4 คน เด็กๆ ยากจน ไม่มีบ้านจะอยู่ พ่อเป็นช่างตีเหล็ก แม่ขายก๋วยเตี๋ยวในห้องแถว เมื่อพ่อแม่แยกทางกันก็แบ่งลูกกันคนละ 2 คน อ้วนอยู่กับพ่อ ส่วนแม่และน้องแยกไปอยู่กำแพงเพชร เห็นความลำบากตั้งแต่เด็ก อยากมีบ้านให้พ่อกับแม่ อยากแบ่งเบาภาระ จึงอดทนทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า
วัยเด็กช่วยเหลืองานครอบครัวทุกอย่าง ช่วยพ่อปีนหลังคา ทำรางน้ำ ตีเหล็ก ช่วงวัยรุ่นต้องพลัดพรากจากพ่อเพราะพ่อถูกยิง ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 2 ปี อ้วนต้องอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ว้าเหว่และเหงา รู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่ว่า “ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด”
อ้วน บอกว่า อยู่คนเดียวหาเงินเลี้ยงตัวเอง ทำงานไม่เกี่ยงงาน ตั้งแต่เก็บผักหักข้าวโพด หาปลาตามแม่น้ำ มัธยัสถ์หยอดกระปุกออมสินวันละบาทสองบาทสะสมเงินได้ 2,000 บาท พ่อจึงรักษาหาย กลับมามีเงินทุนให้พ่อเริ่มอาชีพ ตัวเองไปทำงานรับจ้างที่ร้านเสริมสวย เก็บเงินต่อมาไม่ย่อท้อ เอาเงินซ่อนไว้ในนาฬิกาเก่าๆ จนสะสมได้ครบ 5,000 บาท เพื่อเป็นทุนเรียนเสริมสวยตามที่ใฝ่ฝัน
ไม่ยอมให้ชีวิตหยุดนิ่ง เพราะอยากมีเงิน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนเสริมสวยที่เกศสยามยุคอาจารย์ปาน บุนนาค เรียนไปด้วยรับจ้างซักผ้าไปด้วย เรียนจบหลักสูตรได้งานที่ร้านเสริมสวย เงินเดือนเดือนแรก 300 บาท ยังจำถึงวันนี้ ด้วยความมีนิสัยช่างค้าขาย เก็บเงินไปเลือกซื้อเสื้อผ้าย่านประตูน้ำมาแขวนขายหารายได้ เก็บเงินส่งให้พ่อให้แม่เลี้ยงดูหลานๆ จนจบปริญญาตรีทุกคน ช่วงหนึ่งเปิดร้านเสริมสวยของตัวเองที่ปราจีนบุรี พร้อมๆ กับรับกะหรี่ปั๊บมาขาย
ต่อมายื่นเรื่องขอวีซ่าไปญี่ปุ่น เพื่อศึกษาต่อเรื่องเสริมสวย เพราะได้ยินมาว่าญี่ปุ่นคือแดนสวรรค์ เป็นแหล่งขุดทอง ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยโดยอาศัยอยู่กับคนไทยที่เปิดร้านอาหารที่นั่น กลางคืนช่วยเสิร์ฟอาหาร กลับเมืองไทยพร้อมเงินหลายแสน ซื้อรถมอเตอไซค์คันแรกในชีวิต พร้อมกับไถ่ถอนบ้านติดจำนองให้แม่ได้
ชีวิตไปตามครรลอง จากนั้นได้รับโอกาสในวงการบันเทิง เริ่มจากสถาบันเสริมความงามชิฟูเร่ติดต่อมาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่งหน้าดูแลผิวพรรณลูกค้า ต่อไปยังสถาบันความงามอีกหลายแห่ง ได้เปิดร้านเสริมสวยของตัวเองย่านลาดพร้าว รัชดาภิเษก และเพชรบุรีตัดใหม่ และเป็นช่างแต่งหน้าให้กับค่ายเพลงค่ายละครในช่วงนี้
ถึงจุดหนึ่งอ้วนก็ขยับขึ้นเป็นผู้บริหาร ได้รับเมตตาจากผู้ใหญ่ในวงการที่โอกาสในการผลิตละครสั้น ช่วยบริหารค่ายเพลง ดูแลศิลปินนักร้องมากมาย คงจำกันได้ถึงอดีตหนังละครดัง “นางฟ้า” ก็อ้วนนี่เองที่เป็นผู้จัด ด้านธุรกิจได้ร่วมกับดาราค้างฟ้า ปิยะมาศ โมนยกะกุล ทำเครื่องสำอางแบรนด์รีเทิร์น ประสบความสำเร็จด้านการตลาดท่วมท้น แม้ต่อมาจะต้องหันหลังให้กันก็ตาม
ในฐานะคนมัธยัสถ์ที่รู้จักอดออมและแสวงหาโอกาส ถ้าจะเป็นแรงบันดาลใจไอดอลแก่ใครได้ก็ดีใจที่สุด รางวัลชีวิตในวันนี้คือการมีธุรกิจเครื่องสำอางที่ประสบความสำเร็จ สร้างบ้านให้บุพการีราคาร่วม 10 ล้านบาท มีรถยนต์ส่วนตัว เป็นรถในฝันยี่ห้อเบนซ์ เพื่อเป็นรางวัลชีวิต มีคอนโดมิเนียม 3 ตึกให้เช่า
สุดท้ายฝากแง่คิดให้กับกลุ่มเพศทางเลือก อ้วนให้กำลังใจว่า อย่าได้คิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของสังคม ขึ้นชื่อว่า “คน” ไม่ว่าเพศใหนก็มีศักดิ์ศรี มีความเป็นคนเท่ากัน ขอแค่ให้เป็นคนดี สังคมไทยปัจจุบันถือว่าให้การยอมรับเหล่าเพศทางเลือก มีที่เหยียบที่ยืน มากกว่าในอีกหลายประเทศ
“ไม่ว่ากะเทย ไม่ว่าเกย์ ไม่ว่าชายจริงหญิงแท้ ต่างก็มีสองมือสองเท้า มีโอกาสสู่ความสำเร็จและความล้มเหลวได้เท่าๆ กัน ขอเพียงแค่ให้มีความมุ่งมั่น ทำอะไรให้ทำจริงจัง ไม่ย่อท้อ ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ให้เร็ว แล้วสู้ต่อไป โอกาสและความสำเร็จจะต้องมาสักวันอย่างแน่นอน”


