มหัศจรรย์แห่งรัก...
คนธรรมดาทุกคนมีความปรารถนาต้องการสุข ไม่มีทุกข์ แต่หลายครั้งในความเป็นจริง เมื่อเราเกลียดความทุกข์และต้องการพบเจอแต่ความสุขกลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทง เมื่อมีบางเหตุการณ์เกิดขึ้นในชีวิตแล้วใจถูกกระทบเพราะไม่มีภูมิคุ้มกันความทุกข์หรือเข้าใจโลกทั้งสองด้าน ตามความเป็นจริงว่า แท้แต่ความทุกข์ ความผิดพลาด ความยากลำบากที่คนเราหลีกหนี ก็มีข้อดีมากมายทำให้เราได้เรียนรู้
คนธรรมดาทุกคนมีความปรารถนาต้องการสุข ไม่มีทุกข์ แต่หลายครั้งในความเป็นจริง เมื่อเราเกลียดความทุกข์และต้องการพบเจอแต่ความสุขกลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทง เมื่อมีบางเหตุการณ์เกิดขึ้นในชีวิตแล้วใจถูกกระทบเพราะไม่มีภูมิคุ้มกันความทุกข์หรือเข้าใจโลกทั้งสองด้าน ตามความเป็นจริงว่า แท้แต่ความทุกข์ ความผิดพลาด ความยากลำบากที่คนเราหลีกหนี ก็มีข้อดีมากมายทำให้เราได้เรียนรู้
เมื่อคนเราสามารถมองความผิดหวังไม่ได้ดังใจเป็นเพียงละครบทหนึ่งบนทเวทีชีวิตทำตัวเป็นผู้ดูหรือผู้สังเกตการณ์ที่สัมผัสได้ถึงความรักมากมายที่ชีวิตต้องการมอบให้มนุษยชาติผ่านประสบการณ์ตรงที่ต่างคนต่างสัมผัสได้ ที่น่าสนใจที่สุดความไม่ได้ดังใจมักดึงความสนใจให้คนมีความเข้าใจชีวิต มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความสุขและกลับมาเสถียรกับชีวิตได้ง่ายมากขึ้นเมื่อเจอขั้วตรงกันข้ามของความสุข
ความไม่น่าพิสมัยของความผิดพลาดและไม่ได้ดั่งใจ สำหรับใครบางคนกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของคนบางคน เช่น การเข้าถึงธรรมชาติของเหรียญล้วนมีสองด้าน หากไม่มีจุดที่ยากลำบากนี้เกิดขึ้นในชีวิต หลายครั้งการถูกขัดเกลาเจียระไนให้ตกผลึกชัดเจนก็กระท่อนกระแท่น ฉาบฉวย ไม่ลึกซึ้ง ชัดเจน
ผู้นำและผู้มีทัศนคติต่อชีวิตที่ดีทั่วโลกล้วนมีความคิดก้าวหน้า ถูกต้อง และลึกล้ำในการนำจุดอ่อนและจุดแข็งมาเป็นจุดเด่นที่ปรับใช้ให้ชีวิตเขาและผู้ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาได้สัมผัสการเดินทางภายใน ในการทำความเข้าใจตนเอง จึงเข้าใจผู้อื่น
การหยุดสำรวจโดยผ่านความทุกข์ ท้อผิดพลาดในชีวิตจึงเป็นกลไกตามธรรมชาติที่ทำให้คนเราหยุดเพื่อหันมาทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร และอะไรที่จริงแท้ และอะไรที่วิเศษมากๆ ความรักและความบริสุทธิ์ใจ ในเส้นการเดินทางแห่งขบวนสายชีวิต ที่พร้อมกระโจนทะยานท่องเที่ยวไปพร้อมกับยานชีวิตลำนี้ที่กำลังพาเราท่องเที่ยวไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เราได้พบเพื่อนร่วมโลกมากมาย แท้จริงแล้วไม่มีใครต้องโดดเดี่ยวหรือพบเจอความทุกข์ สุขโดยลำพังเลย เพียงแต่ตอนเขามีทุกข์ ล้ม เหงา เราไม่เห็นหรือเขาไม่ได้มาเล่าให้ฟัง เราไม่ได้รับรู้เห็นเป็นประจักษ์พยานในความทุกข์ของมนุษย์อย่างมีประกายในสายตาว่าเราเข้าถึงหัวใจเขา และเรื่องของเขาวันนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับชีวิตเราในวันข้างหน้าเลยทีเดียว
ผู้ที่มีความคิดก้าวหน้าและเข้าใจชีวิตในมุมเปิดกว้างมักบอกเราไว้เสมอว่าอะไรที่เรายิ่งเกลียดเรายิ่งเจอ อะไรที่เราหนีหลายทีมันก็วิ่งตามเรา เมื่อไหร่ที่เราพบสุขก็ให้เตรียมเสบียงใจไว้ไม่ประมาทกับชีวิต เพราะเมื่อสุขวันนี้ ทุกข์อาจจะมาจุดประกายมาอีกไม่ไกล นักปราชญ์ทั่วโลกสอนไว้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นหนึ่งเดียวกับตนเองให้ได้มากที่สุดที่มนุษย์สามารถทำเองได้ไม่ว่าชีวิตต้องผ่านพบ และเผชิญกับเรื่องราวเลวร้าย รื่นรมย์ หรืองดงามเพียงใด ขอเพียงดึงแกนใจ แล้วใช้ทางออก คือ การยอมรับกับทุกสถานการณ์
“ยอมรับ” คือ ความอ่อนโยนของจิตใจที่มีให้ชีวิต เห็นว่าทุกข์มากพอแล้วจะซ้ำเติมตัวเองให้ถดถอย อ่อนแออีกทำไม ให้ความรักกับตนเอง ทำให้จิตใจตนเองเปรียบเสมือนสถานที่โอบกอดทุกข์ ไม่หลงระเริงในความสุข เหมือนนักเรียนน้อยที่ท่องไว้ในใจว่าไม่ว่าความทุกข์จะใหญ่แค่ไหน รักในหัวใจของเรานั้นยิ่งใหญ่กว่า
ชีวิตในวันนั้นของคนคนหนึ่ง อาจจะผ่านอะไรที่สุดต่างๆ มามากมาย เคยมีความทุกข์ เคยแม้กระทั่งบางคนอาจเคยคิดทำร้ายตัวเองว่าทำไมเราเองนั้นไม่มีค่า ทว่าชีวิตที่ผ่านมาแล้วคงดำรงต่อๆ ไปแท้จริงยิ่งนับว่าไม่ว่าเราจะพบเจอสิ่งที่ได้ดังใจหรือไม่ และพบบททดสอบเพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ในระดับใดๆ เพียงเรายังกตัญญูถึงคุณค่าของการมีลมหายใจ นับเป็นความมหัศจรรย์ที่มากค่าและยิ่งใหญ่แห่งชีวิตอยู่ดี
เพราะในความทุกข์ สุข กลัว โกรธ รัก ใดๆ ก็ตาม พอถึงจุดๆ หนึ่ง เราจะพบว่าปัญหาทุกอย่างมาพร้อมทางออก เพียงเรามองมัดตัวเองจมจ่ออยู่ตรงไหน ก็เห็นสิ่งนั้นได้ชัดเจนได้เพียงฝ่ายเดียว
Focus ทุกข์ เห็น ทุกข์
Focus สุข เห็น สุข
ยอมรับทั้งสองด่าน คือ ประตูทางผ่านชีวิตรื่นรมย์ชีวิตงดงามคือชีวิตที่มีสุขและทุกข์อยู่ในเหรียญเดียวกัน เพียงแต่อยู่คนละด้านให้หมั่นหาประโยชน์จากมุมมองในครรลองสนามชีวิต
นอกจากการยอมรับที่เป็นประตูทางออก อีกหนึ่งกุญแจคือการให้ “อภัย” เพราะอภัยตนเองจึงอภัยผู้อื่น ลดความหนักหน่วง หยุดตัวถ่วงชีวิตให้ไหลลื่นได้ โดยกระบวนการจัดการความรู้สึกผิดที่ง่ายดาย อภัยตนเอง และผู้อื่นได้ในทุกๆ นาที ในความเป็นจริงทุกอย่างในโลกล้วนมีข้อดีให้คนเราได้เรียนรู้ แม้ความรู้สึกผิดก็มีข้อดี ที่ทำให้เราแก้ไขตัวเองได้เป็น เช่นตัวอย่างดังนี้
จากการทำผิดพลาด มาสู่ความรู้สึกผิด กลายมาเป็นสิ่งที่งดงามคือความสำนึกผิดหยุดหมกมุ่นอยู่กับความผิดพลาดของตนเองมากไปโดยเฉพาะ นั่นคือการทำร้ายตนเองที่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตที่เป็นอยู่ก้าวหน้าขึ้นได้ หากสิ่งนั้นคืออดีตหนึ่งทางสว่าง ที่เป็นทั้งกุญแจ และประตูชีวิตในการดำรงชีวิต คือ ความรู้สึกถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งรักและความจริงใจ ผู้ที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำสิ่งนี้ได้ ไม่ใช่คนขี้แพ้ ขี้กลัว ที่มีจิตใจอ่อนแอ
“มหัศจรรย์แห่งรัก” มีประโยชน์ทางจิตใจมหาศาล ทำให้คนที่ผ่านชีวิตมามากมายหลายคนทั่วโลกเชื่อมั่นว่าการมีรักอยู่เต็มหัวใจ คือ การปฏิบัติดีต่อชีวิตตนเองและชีวิตผู้อื่นในทางที่ดีงามได้อย่างต่อเนื่อง ที่ในบั้นปลายเป็นทางออกที่หลากหลายชีวิตที่พบทางตันกลับนำเขาเหล่านั้นมาสู่แสงสว่าง แห่งสัจจะและความเป็นจริง
ความรักทำให้ทางตัน หรือทุกข์ กลับเป็นเครื่องมือที่ดี ในการนำชีวิตสู่ความรักในตนเอง และรู้จักผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง กลุ่มก้อนของความรักทำให้จิตสงบเย็นที่สุด อิสระต่อความรู้สึกด้านลบที่มนุษย์ผู้ที่ชอบสะสมความหงุดหงิด ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ไว้ในชีวิตตนเองให้ตระหนักรู้ว่า ที่เรายังจ้องโทษ มีอีโก้มากมาย ง่ายต่อการโกรธเคืองใครๆ แสดงถึงหัวใจของเราเองที่ “เรายังรักไม่พอ”
ครูบาอาจารย์ของผู้เขียนที่มีความเมตตาและอยู่ในเส้นทางแห่งการภาวนา ท่านมักสอนว่าในเวลาที่เรามีความไม่ได้ดังใจให้หายใจเอาความรักและความเมตตาสูดลมหายใจลึกๆ เข้าไปในหัวใจเราเอง ให้เชื่อมั่นว่าความรักในใจเราโอบกอดทุกข์นั้นได้ ทำให้บ่อยจึงกลายเป็นความรักผ่านทุกลมหายใจ ถ้ายังมีความทุกข์เกิดในใจ แสดงว่ายังรักมากไม่พอ
รักและเมตตาตนเอง คือ ยอมรับ เรียนรู้เข้าใจด้านมืดด้านสว่าง ว่าเป็นสองขั้วที่อยู่บนเส้นทางการดำรงชีวิต รู้ถึงความรัก และเห็นคุณค่าในตนเอง จึงรักผู้อื่นได้อย่างเข้าใจในทัศนคติ และมุมมองชีวิตในแง่มุมที่สดใสที่ความรักและความกล้าหาญในความบริสุทธิ์ใจไหลมาทุกทิศทางในอณูอากาศได้อย่างท่วมล้นไปในอณูอากาศแห่งการดำรงชีวิต
เมื่อเรามีจุดตั้งค่าที่งดงาม แม้ประสบการณ์ตรงหน้าคือปัญหา และความท้าทายในชีวิต แต่พลังแห่งความรักที่เป็นแก่นกลาง คือความมั่นใจ ที่จะทำให้เรารู้สึกถึงความเปิดกว้างของชีวิตออกไป คือการมีความรักที่อบอุ่นอ่อนโยนแผ่ซ่านไหลซึมซาบไปว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นล้วนนำมาเพื่อความเข้าใจตนเองและผู้อื่น ยอมรับสิ่งที่เหมือน และวาระ มุมมองความคิดที่แตกต่างได้อย่างไหลลื่น สำเร็จ เข้าใจชีวิตในทางที่กว้างขยายมากกว่าเดิมเสมอ
พลังแห่งความรัก ความเบิกบานใจอันมหัศจรรย์ จะเป็นแสงสว่างที่ยิ่งถูกบรรจุให้เกิดขึ้นกลางหัวใจคนมากเท่าไหร่ แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ฟังดูแล้วสามารถใช้กับยุคแห่งการแข่งขัน เสียดสี ลึกร้ายในสายตาใครๆ ทว่านักลงทุนชีวิตที่รื่นรมย์ผู้มีทัศนคติที่เข้มแข็ง และชีวิตที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ เขาเหล่านั้นล้วนมีความรักขับเคลื่อนอยู่ภายใน หากใครยังทุกข์ใจ แสดงว่าภายในเขายังรักอย่างบริสุทธิ์ใจกับสิ่งที่เลือกทำ คนที่เลือกให้นั้นได้ไม่มากเพียงพอยอมรับ อภัย รัก คือทัศนคติแห่งชีวิตที่รื่นรมย์สดใส และพลังมหาศาลที่ขับเคลื่อนชีวิตและโลกอันกว้างใหญ่ให้ไปในหนทางที่สว่าง ขยายกว้าง และงดงาม


