‘จิม-อั๋น’ เพื่อนรักนักการเงิน
ความเป็นเพื่อน ไม่ว่าอยู่ในสถานะใด หรือห่างกันแค่ไหน ยังไงก็ตัดไม่ขาด เช่นเดียวกับคู่หูนายแบงก์รุ่นใหม่
โดย...ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์
ความเป็นเพื่อน ไม่ว่าอยู่ในสถานะใด หรือห่างกันแค่ไหน ยังไงก็ตัดไม่ขาด เช่นเดียวกับคู่หูนายแบงก์รุ่นใหม่“อั๋น” ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย และ “จิม” ธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ที่รู้จักกันมานาน 20 ปี แม้ตอนนี้จะทำงานกันคนละที่ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทำให้ไม่ขาดการติดต่อสื่อสาร
จิมและอั๋น รู้จักกันครั้งแรกที่ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เมื่อประมาณปี 2538 ในฐานะนักค้าเงิน ซึ่งตอนนั้นจิมทำงานมาก่อนแล้วประมาณ 2 ปี ก่อนที่อั๋นจะเข้ามาทำงานก่อนจะไปพบกันอีกครั้งที่ธนาคารกสิกรไทย
‘อั๋นเป็นที่รักของพนักงาน’
“จิม” ธิติ ตันติกุลานันท์ เล่าว่า แรกเห็นก็รู้สึกถึงความกระตือรือร้นและความตั้งใจทำงาน มีความฉลาด สู้งาน ในฐานะรุ่นพี่ก็สอนงานเป็นปกติในด้านการเทรดเงิน ซึ่งอั๋นอยู่เทรดดิ้งได้พักนึงก็ย้ายไปอยู่ฝ่ายขาย (เซลส์) ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ซิตี้แบงก์ สิงคโปร์
จุดที่ทำให้ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง คือ ปี 2549 ซึ่งอั๋นย้ายมาทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยแล้วระยะหนึ่ง แล้วมีการตั้งสายงานธุรกิจตลาดทุน (CMB)
“งานแบ่งเป็นเซลส์กับเทรดดิ้ง อั๋นได้ชวนผมเข้ามาดูแลในส่วนของค้าเงิน ส่วนเขาดูเซลส์ ซึ่งอั๋นอยู่ตรงนี้2 ปี ก็เลือกที่จะย้ายไปดูแลงานด้านธุรกรรมการเงิน (ทรานแซคชั่นแบงก์กิ้ง) ของกสิกรไทย”
จิมยังพูดถึงความเป็นตัวตนของอั๋นว่า เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ เข้ากับลูกค้าได้ดี เป็นที่รักของพนักงานมีความเป็นกันเองกับทุกคนไม่ถือเนื้อถือตัว ซึ่งอั๋นได้แนะนำเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของสถาบันการเงินไทย (Local Bank) ให้ตัวเองด้วย
“ก่อนย้ายมาที่กสิกรไทย เราไม่เคยทำงานในสถาบันการเงินไทยมาก่อน อั๋นเขาก็ช่วยแนะนำความแตกต่างระหว่างธนาคารต่างชาติกับธนาคารไทยอย่างไร เพราะเขามาอยู่กสิกรไทยก่อนเราประมาณ 5 ปี เขาจึงรู้ว่าวัฒนธรรมการทำงานในแบงก์ไทยเป็นอย่างไร และแนะนำเราเพื่อไม่ให้มี Culture Shock”
ความเป็นเพื่อนที่ยาวนานมาได้ถึง 20 ปี เพราะทั้งคู่มีมุมมองหลายด้านที่คล้ายคลึงกันที่ตรงกัน ซึ่งจิมยอมรับว่าในการทำงานความคิดเห็นหรือมุมมองการแก้ปัญหาของคนจะไม่เหมือนกัน แต่กับเพื่อนคนนี้ เขามักจะมีมุมมองของปัญหาและวิธีแก้ปัญหาที่คิดคล้ายกับเรา
“เขาเป็นนายธนาคารที่มีความรู้ความสามารถ อนาคตยังไปได้อีกไกล”
การพบกันนอกเหนือเวลางาน หัวข้อพูดคุยก็ยังเป็นเรื่องธุรกิจแบงก์ ดูว่าในตลาดเป็นอย่างไร จะแชร์กันเรื่องข้อมูลเหล่านี้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันทั้งคู่จะทำงานกันคนละธนาคารแต่ก็แยกแยะได้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด ซึ่งทั้งคู่สบายใจที่จะคุยเพราะเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
‘คู่หูคู่เฮง คู่หูคู่ฮา’
จิม-อั๋น เวลาจับคู่กันมักจะดวงดีใช่เล่น แม้ว่าจะพยายามแกล้งตัวเองก็ตาม ซึ่งมีเหตุการณ์ขำๆ เกิดขึ้นเวลาไปทำงานด้วยกัน
“มีครั้งหนึ่งมีการจัดสัมมนาให้ลูกค้า พอเลิกก็ตั้งวงคุยกัน เล่นไพ่กันสนุกๆ ผมกับอั๋นเราเป็นเจ้ามือคู่กัน พอเล่นไปเรากำไรอยู่เยอะ อยากจะคืนกำไรลูกค้า ถึงไพ่จะดีแต่ไม่อยากได้ก็จั่วใบที่ 3 ขึ้นมาใหม่ ปรากฏว่ายังชนะอยู่ ลูกค้าก็งงว่าไพ่ดีจะจั่วทำไม พอรอบต่อไปก็ทำแบบนี้อีกครั้ง แต่ก็ยังชนะ”
กิจกรรมที่ทำร่วมกัน ส่วนใหญ่จะไปกินข้าวพูดคุยกันมากกว่า และที่ชอบเหมือนกันคือเรื่องไอที จะฟุ่มเฟือยกับเรื่องพวกนี้ เห็นอะไรก็อดซื้อไม่ได้ อย่างสมัยก่อนทำงานเครียดๆ ต้องไปเดินฟอร์จูนกัน ไปดูว่ามีอุปกรณ์ใหม่อะไรในตลาด ไปเช็กตลาดเสียหน่อย
“เคยไปดูหนังด้วยกันทีหนึ่งหลังเลิกงาน จำได้ว่าเป็นเรื่องThe Pursuit of Happyness เดินมาแล้วมองซ้ายมองขวา รู้สึกทำไมมันแปลกๆ อย่างนี้ ถ้าคนอื่นมาเห็นเราสองคนไปดูหนังด้วยกันจะคิดยังไง” จิม เล่าไปขำไปถึงการดูหนังคู่กันครั้งแรกและครั้งเดียว
ความห่วงใยเดียวที่จิมมีถึงเพื่อนอั๋น คือ (“เมื่อไหร่จะแต่งงาน”)
‘จิมเป็นคนตรงๆ ไม่มีเลศนัย’
“อั๋น” ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เพื่อนรุ่นน้องที่อายุห่างกัน 3 ปี เล่าถึงจิมว่าเป็นคนที่มีระเบียบวินัย ซึ่งความที่จิมโตมาจากต่างประเทศ ทำให้วิธีการมองชีวิตและวิถีชีวิตอาจจะแตกต่างกันบ้าง แต่ด้วยความที่จิมเป็นคนตรงไปตรงมา พูดในสิ่งที่คิด ทำให้เราสบายใจที่จะคุยด้วย เพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีเลศนัยซ่อนอยู่
ในฐานะรุ่นพี่ที่ซิตี้แบงก์ จิมไม่เคยถือตัวว่าเป็นรุ่นพี่เลย การสอนงานก็แนะนำสไตล์ฝรั่ง คุยกันเข้าใจก็จบ ไม่เรื่องยาวไม่เรื่องเยอะ นี่ก็คือสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากจิม ไม่เอาคำพูดของคนอื่นมาคิดให้ตัวเองไม่สบายใจ ไม่มีอะไรซ่อนที่เราต้องระวัง ทำให้เราเห็นว่าการเป็นคนแบบนี้ทำให้คนที่เราทำงานด้วยสบายใจ
ความเป็นเพื่อนร่วมงาน จนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้เมื่อถอดหมวกนายแบงก์ เพราะทั้งสองคนมีอุปนิสัยที่เหมือนกัน 3 อย่าง คือ ใส่ใจความรู้สึกคนอื่น ไม่เอาเปรียบคนอื่น และเป็นคนมีเหตุมีผล ซึ่งจริงๆ แล้วจิมเป็นคนแบบนั้นคือ เป็นคนตรงๆ และแคร์คนรอบตัว แต่ด้วยภาษาที่พูดและวิธีพูดของเขาอาจไม่สวยงามมากนัก แต่เขาเป็นคนจิตใจดีคนหนึ่ง
ทั้งคู่ผ่านประสบการณ์ตลาดเงินที่เปลี่ยนแปลงไปช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้มีการคุยกันแลกเปลี่ยนไอเดียกันบ่อยครั้งแม้จะมีช่วงแยกย้ายกันไปทำงานต่างที่กันนานหลายปี แต่เมื่อกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ก็ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการจูนความคิด
และด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมาของจิม ทำให้การทำงานในฐานะผู้บริหารร่วมในสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยซึ่งปกติแล้วการมีผู้บริหาร 2 คน อาจจะมีปัญหาในเรื่องใครตัดสินใจ แต่เราไม่เคยเจอปัญหานั้น เพราะเราไว้ใจกันได้ งานก็เป็นไปด้วยความราบรื่น
“ต่างคนก็ต่างดูแลงานกันคนละด้าน ของเราดูแลเซลส์ ติดต่อลูกค้า จัดการภายใน ขณะที่จิมดูแลเรื่องตลาดแต่ความคิดเราซิงก์กันและคุยกันตลอด ทั้งสองคนไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกันเลย ตัวงานก็ไปได้เร็ว มีการตัดสินใจรวดเร็ว และวางใจได้ในการทำงานด้วยกัน”
‘Liar Poker คำแนะนำที่ไม่มีเสียงจากเพื่อนถึงเพื่อน’
หนังสือ Liar Poker เป็นหนังสือเล่มแรกที่จิมแนะนำให้หามาอ่าน เป็นหนังสือที่ดีเหมาะกับนักค้าเงินมือใหม่ เป็นไกด์ไลน์สะท้อนชีวิตจริงของคนในห้องค้าเงิน คนทั่วไปเห็นภายนอกดูดีดูเท่ แต่อีกด้านหนึ่งของชีวิตคือความกดดันอย่างหนักในการตัดสินใจ และสติที่ต้องครองไว้ตลอดเวลาทำงาน
อีกความเหมือนกันอย่างหนึ่งของทั้งคู่ในฐานะนักค้าเงิน คือ ทำงานกับตัวเอง ทำให้ช่วงแรกทั้งคู่จะคุยไม่เก่ง คุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง แต่ถึงจุดหนึ่งก็ถามตัวเองว่าอยากเป็นอาชีพนี้ไปนานแค่ไหน ก็เกิดพัฒนาการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น จิมเองต้องขยับมาเป็นผู้ดูแลห้องค้า ดูแลทีมเซลส์ ดูแลลูกค้าเขาต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในสิ่งที่พูด
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากจิม และนำมาปรับใช้กับตัวเอง คือ การคิดที่เป็นระบบ และการกระตือรือร้น เพราะจิมเป็นคนที่ขยัน มีการขวนขวายอยู่ตลอด
พอออกนอกเรื่องการทำงาน ถามว่ามีแรงบันดาลใจอยากหล่อเหมือนเพื่อนไหม “ต่างคนต่างมีสไตล์ของตัวเอง เพราะเราหล่อแบบเขาคงไม่ได้ เราต้องยอมรับความจริง บางอย่างสไตล์เขาสไตล์เรา” อั๋น พูดด้วยความมั่นใจ พร้อมกับเล่าให้ฟังถึงนิสัยส่วนตัวเพื่อนว่า ชอบกินจังก์ฟู้ดมาก โดยเฉพาะทาร์โก้ น้ำอัดลม แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าโตมาจากเมืองนอก
“กินจังก์ฟู้ดมากๆ ห่วงไหม ไม่ห่วงหรอก คนเราต้องดูแลตัวเอง” อั๋นทิ้งท้ายพร้อมกับจิบน้ำเปล่าเบาๆ


