พิช-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล ให้คนเห็นจากผลงาน
ไม่บ่อยนักที่จะได้ชมได้ฟังผลงานใหม่ของ “พิช-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล” หรือรู้จักกันอีกในนาม “พิช ออกัส” เพราะนอกจากเป็นนักแสดงแล้ว
โดย...นกขุนทอง
ไม่บ่อยนักที่จะได้ชมได้ฟังผลงานใหม่ของ “พิช-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล” หรือรู้จักกันอีกในนาม “พิช ออกัส” เพราะนอกจากเป็นนักแสดงแล้ว พิชยังเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักเพียงในเมืองไทยเท่านั้น แต่ชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนถึงประเทศจีนมาหลายปีแล้ว และความนิยมไม่มีซา
ถ้าไม่มีผลงานอยู่ในช่วงโปรโมท น้อยนักที่จะได้เห็นเขาออกสื่อ “ก็มีงานจ้างเข้ามาบ้าง แต่ไม่ค่อยชอบไป ดูเป็นงานๆ ไป ไม่เอางานอีเวนต์เป็นหลัก ส่วนใหญ่อยู่แต่ข้างใน ทำงาน ไม่ออกไปงาน ชอบให้คนเห็นเราจากงานตรงนั้นมากกว่า ให้งานมันสร้างความประทับใจ ถ้าจะเห็นก็ช่วงโปรโมทงานตัวนั้น ส่วนหนึ่งพิชทำงานเบื้องหลัง พอจบงานเบื้องหน้าก็กลับมาทำงานเบื้องหลัง มันสลับกันเป็นช่วงเวลา ออกมา ก็ปล่อยให้ชิ้นงานทำงานของมัน เรากลับมาขลุกทำงานต่อ”
แม้จะมีความสามารถหลากหลาย ครั้นพอถึงเวลาทำงาน พิชเลือกทำทีละอย่างให้เวลากับงานนั้นๆ เต็มที่ อย่างผลงานที่ได้ชมกันตอนนี้ คือ ละครเวทีเรื่อง “รักเธอเท่าฟ้า (บินมาหานะเทอว์)” ซึ่งดัดแปลงจาก Boeing Boeing คอมเมดี้ชื่อดังของฝรั่งเศส แสดง ณ ทองหล่อ อาร์ตสเปซ ถึงวันที่ 18 มิ.ย. (พิชแสดงถึงรอบวันที่ 2 มิ.ย.)
“มาเล่นละครเวทีไม่มีทำอย่างอื่นเลย ก็ดันอันนี้ขึ้นมา สำคัญที่สุด ช่วงเวลาซ้อม 1 เดือน เอาไปเลย พิชโฟกัสงานทีละอย่างๆ ไป ทำงานหลายๆ อย่างเยอะๆ จะเครียด เพราะอยากให้มันดีที่สุดในแต่ละชิ้นงานคือข้อดี ข้อเสียก็มีแฟนๆ บ่นหายไปไหน ไม่ยอมออกมาเจอบ้าง เพราะเขาไม่มีโอกาสตามเราได้จากไหน เจอเราจากในทีวี ในหนังเท่านั้น งานก็รับน้อย ที่ผ่านมาแทบไม่ได้เล่นละครทีวีเลย เราไม่ได้ตั้งใจไม่เล่นนะ เหมือนพอเราเริ่มจากหนังก็ต่อมาด้วยหนัง หนังปีหนึ่งก็ไม่ได้สร้างเยอะ ปีหนึ่งเรื่องหนึ่ง ขณะเดียวกันไปทำงานเพลงที่จีน ก็เลยไม่ถูกโผล่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างงานนี้ รับเพราะเป็นงานละครเวที ยังเป็นช่วงชิมลางละครเวที ชิมมา 3 ปี ประมาณปีละเรื่อง เราสนใจ เราชอบ มันมีเสน่ห์บางอย่าง เริ่มจากการเป็นคนดู พอเขาเล่นเสร็จมีพูดคุยกัน เราไปนั่งฟัง ไปแสดงความคิดเห็น เขาเห็นอะไรในตัวเรา เลยชวนมาเล่นก็ยาวเลย ส่วนใหญ่ไม่เซย์โนเท่าไหร่ อยากเจออะไรหลายๆ แบบ ละครเวทีเปลี่ยนเรื่องก็ได้เจอเป็นโปรดักชั่นใหม่ๆ มีเสน่ห์บางอย่างที่เราไม่เคยเจอในการถ่ายทำหนัง-ละคร เรายังเจอไม่ครบทุกด้าน มันน่าค้นหา อย่างเรื่องนี้เป็นคอมเมดี้ คนจะคุ้นกับพิชในการเล่นดราม่า จะไม่ค่อยเห็นเล่นแบบนี้ ซึ่งมันก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเราจะทำได้ไหม ทำการบ้านมาเยอะมาก มีความกังวลหลายๆ อย่าง ไม่เคยเล่น เรากังวล เราจะตายบนเวทีหรือเปล่า คือจมหายไปหรือเปล่า ละครเวทีมันมีจังหวะและเวลา คือมุขนี้จะฮาต้องเล่นเวลานี้เท่านั้นนะ”
เมื่อผลงานสร้างคน มีบทยื่นมาให้พิชอยู่เรื่อยๆ แต่อย่างว่า เน้นทำงานคุณภาพไม่รับเยอะจนทำไม่ไหว “ที่เลือกรับ หนึ่ง ดูว่าช่วงนั้นเรามีแพลนทำอะไรหรือเปล่า แพลนกันไว้เป็นปี เช่น ไปจีนกี่ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาพิชไปจีนบ่อยกว่าไปเซ็นทรัลชิดลม ไปสั้นๆ 3-4 วัน กลับมาพัก 4 วันไปอีกก็มี หรือไปนานเป็นหลายเดือน หรือถ้าเรากำลังทำงานอยู่ในกระบวนการสร้างงานอยู่ก็จะไม่รับงานอีกเพราะมันกวนกัน ทำให้ทุกอย่างเคลื่อน สอง ดูความน่าสนใจของงาน มันเปิดโอกาสให้เราได้ทำอะไรใหม่ๆ ไหม ได้ทำอะไรที่เราไม่เคยหรือเปล่า อย่างบางทีมีละครเข้ามา มีบทที่แนวซ้ำกัน ตัวละครลักษณะเดียวกัน แต่เราดูว่าโอกาสให้เราได้แสดงลงไปมีมากมีน้อย เราเลือกที่เราได้ทำอะไรท้าทาย”
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมมีภาพจำถึงพิชในบทบาทการแสดงชายรักชาย แม้จะเล่นมาแค่ไม่กี่เรื่อง หากแต่ละเรื่องนั้นประสบความสำเร็จมาก
“คือเมื่อก่อนพิชก็คิดๆ กับบทแบบนี้บ้าง เล่นไปคนดูจะคิดยังไง แต่ตอนนี้มองข้ามไปแล้ว เรามองว่าคืออาชีพ เหมือนเราทำงานออฟฟิศในตำแหน่งนี้ บางทีเราไม่ได้อยู่ในโอกาสเลือกได้ว่าเราอยากทำงานแผนกหนึ่งได้ขนาดนั้น ทางที่ดีทำมันให้ดีที่สุด ทุกวันนี้บทบาทชายรักชายมันไม่เรื่องใหม่ แปลก มันค่อยๆ ธรรมดา ตัวละครแบบนี้จะมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น จากเมื่อก่อนเป็นแค่ตัวสร้างสีสัน คนดูจะไม่มองตัวละครเป็นเกย์ ทอมดี้ แต่จะมองตัวละครตัวนั้นในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เวลาผ่านไป มันสะท้อนทั้งคนดูและคนสร้างงานมาถึงจุดที่จะมองคนเหล่านี้มีความหลากหลาย เกย์สวยหล่อก็มี น่าเกลียดก็มี มีความสามารถมากก็มี ดังนั้น เรารู้สึกว่าเหตุผลเดียวที่เราจะไม่รับบทรักร่วมเพศ คือเป็นสเตอริโอไทป์มา
อย่างเรื่องรักแห่งสยาม กับคลับฟรายเดย์ ตอน ความลับของหัวใจที่ไม่มีจริง มีรสนิยมทางเพศแบบเดียวกัน แต่พัฒนาการของตัวละคร การเล่าเรื่องที่แตกต่างกัน ตอนแรกก็นึกเล่นเป็นเกย์อีกแล้ว คนติดภาพไหม แต่ตัวบทได้โชว์ความสามารถของเรา ตอนแรกก็คิดคนมองภาพเรารับงานแบบนี้แบบเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับคนคิดงาน เขาอาจจะมองเห็นว่าพลิกเราไปใหม่ๆ ได้ แต่พิชยังเล่นบทอื่นๆ ได้นะ ไม่ได้มีสัญญาว่าฉันจะเล่นแต่บทนี้ แต่พิชโชคดีที่เล่นแล้วมีฟีดแบ็กที่ดี ถ้าบทแบบนี้มาอีก มีความท้าทายอะไรใหม่ๆ พิชก็เล่นได้อีก ถ้าญาญ่าเป็นนางเอก ณเดชน์เป็นพระเอก กิ๊ก สุวัจนี เป็นนางร้าย เราก็เป็นนายเอกได้เหมือนกัน (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องของการแสดง เป็นอาชีพ ออกจากตรงนั้นตัวเราจะเป็นยังไงก็คนละเลเยอร์กับการทำงานแล้ว”
นอกจากงานเบื้องหลังที่พิชทำอยู่ที่สตูดิโอคำม่วนของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ในส่วนของการครีเอทบท คอนเทนต์รายการซีรี่ส์ต่างๆ ในเร็วๆ นี้จะมีงานภาพยนตร์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าต้องยกกองไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่นกว่าค่อนเรื่อง ส่วนงานเพลงปลายปีนี้ทำที่ไทย ทำสองภาษาไทย-จีน เพราะต้องไปขายที่จีน ส่วนเรื่องการไปทำงานที่จีนนั้นยังต้องเดินทางไปอยู่เรื่อยๆ เพราะถ้าเปรียบเทียบแล้ว พิชเป็นคนไทยที่เป็นศิลปินที่จีนไปกลายๆ


