สุดยอดบุคคลช่างผมเซเลบ กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา
โดย...ปอย ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
โดย...ปอย ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
ก้อง-กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา กับตำแหน่งพอร์ตโฟลิโอ อาร์ติสติกคนแรกของลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล คือการการันตีเรื่องงานผมล่าสุด
‘ดร.สมศักดิ์’ ชื่อนี้คือ
ปูชนียะของผม
“วันนี้อาจารย์เป็นมากกว่าช่างผมไปแล้วนะครับ” กฤษฏิ์ หรือที่เซเลบไทยเรียกกันติดปากว่า “ก้อง-ไฮว์” บอกในมุมมองของเขา สิ่งต่างๆ ที่ สมศักดิ์ ชลาชล ได้ทำไว้มากมายในวันนี้คือการ ยกระดับให้แก่ช่างผมไทย เริ่มจากการวางรากฐานสร้างหลักสูตรให้ช่างผมถึงระดับปริญญาตรี
ผมบอกพนักงานในร้านเสมอว่าต้องเรียนให้จบปริญญาตรี โดยให้ทุนเรียนคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งมีวิชา Salon Business Management มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อจบมาแล้วได้ดีกรีปริญญาตรี ผมอยากให้ช่วยกันสร้างความแข็งแรงของวงการแฮร์สไตลิสต์ของไทย
ตอนผมเรียนที่สถาบันทำผม วิดัล แซสซูน ลอนดอน อาจารย์ชมเลยว่าคุณเป็นเด็กเอเชียที่เขียนตอบข้อสอบได้รู้เรื่องดีมาก ซึ่งเป็นเพราะผมเรียนจบปริญญาตรี ทางสาขา Inter Business ที่ Pepperdine University สหรัฐอเมริกา จึงไม่ใช่เรื่องยาก มีพื้นฐานในการตอบข้อสอบสำนวนในแนวทางวิชาการ แล้วยังนำมาใช้ทำงานทุกวันนี้ ตั้งแต่นักแสดง-เซเลบ ไปจนถึงข้าราชการระดับสูง ท่านทูต นักธุรกิจพันล้าน ผมพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าโดยมีความมั่นใจไม่เคอะเขินอึดอัด
เรากำลังก้าวสู่เศรษฐกิจระดับเออีซี วันนี้ต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์เรื่องนี้ ซึ่งการวางฐานจนถึงระดับปริญญาตรีให้ช่างผมไทยของ ดร.สมศักดิ์ ผมจึงยกให้ท่านคือบุคคลสำคัญของวงการ”
ครอบครัวคือลมใต้ปีก
กฤษฏิ์ บอกว่า ตอนไปเรียนปริญญาตรีบริหารธุรกิจ ก็ได้แอบไปเรียนทำผมคอร์สสั้นๆ โดยไม่บอกให้คุณพ่อ (มนต์ชัย) รับรู้ มีเพียงคุณแม่ (ปรียา) ให้การสนับสนุนเงียบๆ เพราะรู้ดีว่าพ่อต้องการให้ลูกชายคนโตกลับไปสานต่อธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ในครอบครัวนักธุรกิจคนจีนที่มีวิธีบริหารในสไตล์คอนเซอร์เวทีฟ จึงปิดบังเรื่องนี้ไว้จนกระทั่งเรียนจบ ความลับจึงเปิดเผย...
“คุณพ่อเลี้ยงลูกแบบเข้มงวด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบที่ท่านวางแผนไว้ ตั้งแต่เรื่องการเรียนที่จบมัธยมปลาย ก็จะต้องไปเรียนด้านบริหารธุรกิจที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเวลานั้นผมก็เรียนตามที่ท่านต้องการ แต่ก็แอบไปเรียนทำผมคอร์สสั้นๆ เรียนไปฝึกไปเพื่อนๆ ร่วมคลาสที่เพพเพอร์ไดน์ผมสวยเป๊ะทุกคน (หัวเราะ)
ได้เริ่มเส้นทางนี้ ไปเป็นเด็กฝึกงานที่ร้าน ฮวน ฮวน (Juan Juan) ที่เบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ผมทำตั้งแต่เด็กสระผมไปจนทำความสะอาด กวาดพื้น เสิร์ฟกาแฟ เราไม่เคยคิดดูถูกเป็นงานต้อยต่ำ กลับรู้สึกสนุก แล้วก็ได้คำแนะนำจากช่างทำผมจากวิดัล แซสซูน ก็คิดว่า...เอาวะ!ตัดสินใจขอพ่อเรียนทำผมเถอะ แต่ก็เห็นใจท่านนะครับ โดยบอกว่าระหว่างเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจ ลอนดอน ขอไปเรียนทำผมด้วยนะ แม่ก็รีบสนับสนุนว่านี่ลูกทำผมให้ฉันมาตลอดคุณไม่รู้เหรอ? (หัวเราะ)
พ่อจึงโอเค โดยพ่อไปเสิร์ชว่าสถาบันวิดัล แซสซูน ลอนดอน ดีที่สุด (หัวเราะ) แล้วพอทำธีซิสผมได้ที่หนึ่งของรุ่น ท่านก็บอกผมว่ามาถูกทางแล้วนะ เส้นทางนี้คุณพ่อไม่รู้ตั้งแต่ต้น แต่ท่านคือผู้เริ่มต้นสร้างทางให้เรา
แม่คือความเสียสละสำหรับครอบครัว ทันทีที่ท่านมีผม แม่ลาออกจากงานธนาคารเลยนะครับ ทั้งที่ตำแหน่งท่านก็ขึ้นสู่ระดับผู้บริหารแล้ว
แต่ท่านก็ยอมตัดสังคมตรงนั้นเพื่อลูก แม่สอนผมเสมอว่า ‘ให้เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ”
‘คุณชม-อารยา’
เธอคือต้นแบบ
เจ้าสาวป้ายแดง อารยา (เอ ฮาร์เก็ต) รังษีสิงห์พิพัฒน์ คือเพื่อน คือลูกค้าเซเลบริตี้ ซึ่งตลอดเวลา 8 ปี ที่คบหารู้จักกันมาตั้งแต่เข้าวงสังคม การคบหากันยาวนานกับเพื่อนนางเอกซูเปอร์สตาร์ จึงเห็น
ตัวตนได้อย่างถ่องแท้
“เรารู้จักซึ่งกันและกัน ได้เห็นกันมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรไม่มีชื่อเสียง ผมจำได้เลยครับว่าตอนนั้นไปช็อปปิ้งกัน ‘คุณชม’ อยากได้กระเป๋าบาลองเซียก้า ใบละ 4-5 หมื่นบาท เธอก็ไม่ซื้อบอกว่าเราไม่ไหวหรอกก้อง แพงเกินไป แต่ตอนนี้โอ้โห...เธอมีกี่ใบล่ะ มีรองเท้าลูบูแตงกี่คู่ล่ะ
สิ่งที่ผมภาคภูมิใจในตัวคุณชม ไม่ใช่แค่เปลือกแฟชั่นไอคอนนะครับ แต่เธอคือฮีโร่ของผมในเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ ผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะได้ไปเดินเมืองคานส์ มีแฟนคลับมีคนจับตาไปทั่วโลก ไม่คิดว่าจะเปิดทีวีช่องไหนต้องได้เจอเธอ แต่คิดเสมอๆ ครับว่าเธอต้องได้ดีเพราะความกตัญญู ความนับถือซึ่งกันและกันเกิดขึ้นในตอนคุณพ่อของเธอไม่สบายด้วยโรคมะเร็ง คุณชมดูแลพ่อดีมาก ยาอะไรแพงขนาดไหนเธอไม่คิดเลย ให้หมอจัดด่วนทันที ผมคิดเลยครับถ้าเปลี่ยนมาเป็นเราจะทำได้ดีสู้เธอได้ไหม
ตอนผมจัดงานวันเกิด ผมก็แนะนำให้เธอรู้จักกับคุณน็อต-วิศรุต ไม่คาดคิดเลยนะครับว่าทั้งคู่จะเดินทางมาถึงวันแฮปปี้เอนดิ้ง วันที่คุณน็อตเซอร์ไพรส์ขอเธอสวมแหวนแต่งงาน ผมร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังมากกว่าคุณชมอีกนะ (หัวเราะ) คือปลาบปลื้มมากกับชีวิตสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง”


