posttoday

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

06 เมษายน 2558

หากมีคนบอกว่า คุณเป็นคนไม่เอาถ่าน อย่าเพิ่งโกรธ ฟังเขาพูดให้จบ เพราะเขาอาจหมายถึง สไตล์การท่องเที่ยว ถ่านที่หมายถึงพลังงาน ไม่เอาถ่านก็คือการท่องเที่ยวแบบไม่ใช้พลังงาน

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย

หากมีคนบอกว่า คุณเป็นคนไม่เอาถ่าน อย่าเพิ่งโกรธ ฟังเขาพูดให้จบ เพราะเขาอาจหมายถึง สไตล์การท่องเที่ยว ถ่านที่หมายถึงพลังงาน ไม่เอาถ่านก็คือการท่องเที่ยวแบบไม่ใช้พลังงาน หรือใช้พลังงานให้น้อยที่สุด หรือที่หลายคนรู้จักในคำว่า โลว์คาร์บอน (Low Carbon)

เทรนด์การท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เริ่มเที่ยวแบบไม่เอาถ่านมากขึ้น เช่นเดียวกับผู้นำทางความคิด (Opinion Leader) ที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เลือกมาในปีนี้ ฝ่ายหญิงคือ มิ้นท์-มณฑล กสานติกุล เจ้าของเพจเฟซบุ๊กและบล็อก I Roam Alone ฝ่ายชายคือ นักเขียน นักคิด และพิธีกรรายการสารคดีการเดินทาง สิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ทั้งสองคนเดินทางเพื่อค้นหาและสัมผัสวิถีชีวิตที่ไม่เคยรู้จัก โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาคือคนไม่เอาถ่านตัวจริง

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

มีแรงแต่ไม่ค่อยมีเงิน มาทางนี้

การท่องเที่ยวกับชุมชน นอนโฮมสเตย์ กินกับชาวบ้าน เป็นการเดินทางที่ใช้เงินไม่มาก เรื่องนี้มิ้นท์ยืนยันเพราะได้สัมผัสกับตัวเองแล้ว ทั้งไปงมหอยปากเป็ดในทะเลตราดมาทำกับข้าว หรือไปปั่นจักรยานดูวิธีการทำแมกคาเดเมียแบบไม่ใช้พลังงานที่จังหวัดเลย แต่ละที่ที่ไปไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ เพราะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำอยู่แล้ว "ดังนั้นจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เป็นวัยรุ่น เพราะเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงตัวเอง ไม่ใช้พลังงาน ใครที่มีเงินน้อยแต่มีแรงเยอะ และรักการผจญภัยยิ่งเหมาะ" มิ้นท์ เล่า

สำหรับเธอเองที่เดินทางมาแล้วมากกว่า 40 ประเทศ ยอมรับว่า การเที่ยวแบบสัมผัสชีวิตชุมชนถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในประเทศไทย ก่อนหน้านี้เธอเคยถึงขั้นหมดหวังไปแล้วกับการท่องเที่ยวของไทยที่ไม่สนใจว่าธรรมชาติจะเป็นอย่างไร จะเอาใจแต่นักท่องเที่ยวอย่างเดียว ตอนนี้เธอเห็นความหวัง และยังรู้ว่าการท่องเที่ยวไทยมาถูกทางแล้ว

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

มิ้นท์ได้ลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน 6 แห่ง ที่เป็นพื้นที่พิเศษของ อพท. ได้แก่ หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง จ.เลย เมืองเก่าน่าน เมืองโบราณอู่ทอง และอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร เธอเล่าว่า ทั้ง 6 พื้นที่ มีจุดแข็งของตัวเอง ชาวบ้านมีความคิดดี และเป็นชุมชนเข้มแข็ง

 

"ชุมชนจะมีชีวิตอยู่โดยที่มีหรือไม่มีนักท่องเที่ยวก็ได้ เพราะเขาจะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อการท่องเที่ยว เช่น ถ้าเขามีอาชีพหาปลาเขาก็จะหาปลา แต่ถ้ามีเวลาว่างค่อยนำเรือมารับนักท่องเที่ยวไปหาปลาด้วย เขาไม่มีอาชีพหลักที่จะพานักท่องเที่ยวไปเที่ยว" แล้วสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้กลับมาคืออะไร "การเดินทางสำหรับมิ้นท์ไม่ใช่การไปเที่ยวชมสถานที่อย่างเดียว แต่มันคือการเข้าถึงคนท้องถิ่นเพื่อเรียนรู้ชีวิถีวิตของเขา รูปถ่ายที่ได้กลับบ้านไปแล้วไม่รู้สิ่งที่อยู่ในรูปมันคืออะไร นั่นเพราะการดูเฉยๆ มันจะไม่ได้เรื่องราวอะไรกลับไปเลย แต่ถ้าเราได้พูดคุยกับชาวบ้านเราจะได้ความรู้ มุมมองใหม่ เรื่องราวใหม่ๆ กลายเป็นว่าการเดินทางมันสนุกตั้งแต่เส้นทางการเดินทาง ไม่ใช่แค่เป้าหมายอย่างเดียว"

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

 

เธอยกตัวอย่างประเทศนิการากัวที่ยังมีความเป็นท้องถิ่นอยู่มาก ที่นั่นคนยังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อนักท่องเที่ยว ผู้คนยังใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ทำอะไรเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร เหมือนกับนักท่องเที่ยวเป็นส่วนเกิน

ไลฟ์สไตล์การเที่ยวของมิ้นท์เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เธอไม่เคยไปประเทศญี่ปุ่น แต่เธอเคยไปเกาะอะซอเรสเพื่อว่ายน้ำกับปลาโลมา เธอเป็นคนประเภทที่ไปไหนก็อยากรู้ว่าที่นั่น "เป็น" อย่างไร แต่กระนั้นใช่ว่าทุกคนจะมีไลฟ์สไตล์เหมือนเธอ ดังนั้นสิ่งที่โพสต์ในเฟซบุ๊กหรือบล็อกส่วนตัวก็เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เห็นว่าการท่องเที่ยวยังมีอีกหลายด้านให้ค้นหา เธอหวังแค่ให้ "ลอง" -- ลองให้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบก็เลือกเที่ยวแนวอื่น แต่หากชอบก็ลองหาที่อื่นต่อไป ตักตวงประสบการณ์จากชีวิตคนอื่น จนกว่าจะตั้งคำถามให้ตัวเอง

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

 

ด้านสิงห์ตั้งข้อสังเกตไว้น่าสนใจว่า นักท่องเที่ยวคนไทยคิดว่าการไปเที่ยวคือการพักผ่อน ดังนั้นพวกเขาจะไม่เลือกหนทางที่ลำบาก ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะพวกเขาได้รับความสบายกายสบายใจกลับบ้าน ซึ่งถือว่าพอใจแล้ว แต่สิ่งที่สิงห์กำลังทำอยู่นี้คือการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม เข้าใจสังคม และเข้าใจชีวิตตัวเอง

เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเดินทางแบบเข้าใจชีวิต นิสัยที่ต้องทำเสมอ คือหยิบหนังสือประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนั้นมาอ่าน เพื่อทำความเข้าใจกับสังคมปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่ เขายังกล่าวถึงการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนด้วยว่า ความยั่งยืนคือการใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว หมายความว่าถ้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามวิถีของมัน นั่นคือความยั่งยืน

การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ ที่ไหนก็สามารถสร้างได้ แต่ถ้าขายความเป็นตัวเอง จะไม่มีที่ไหนเหมือนเรา

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

น่าน ไม่เอาถ่านที่สุด

เมืองเก่าน่าน ถือว่าเป็นเมืองที่มีวิถีชีวิตแบบโลว์คาร์บอนที่ชัดเจนที่สุด ถ้าเทียบกับอีก 5 พื้นที่พิเศษของ อพท. ภาพที่โดดเด่นมาก คือ การใช้จักรยานเป็นยานพาหนะในการสัญจร จนมีเลนจักรยานโดยเฉพาะ และเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า รถยนต์จะให้ทางแก่จักรยานก่อน

นอกจากนี้ ภายในอาณาเขตเมืองเก่าน่านหรือขัวเมืองน่าน ยังมีวัดวาอารามที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวัดภูมินทร์ ที่หากไปชมแล้วได้ข้อมูลจากปราชญ์ชาวบ้าน จะทำให้รู้ว่าแก่นแท้ของเมืองน่านอยู่ที่ภาพจิตรกรรมฝาผนัง

สิงห์ได้ตกตะกอนความรู้ที่ได้รับและเข้าใจแล้วว่า วัดเปรียบเสมือนตัวแทนในการนำเสนอเรื่องราวของชุมชน มากพอๆ กับการเป็นตัวแทนของการเผยแพร่ศาสนา เขาได้เห็นวิถีชีวิตดั้งเดิมผ่านภาพเหล่านั้น

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

"น่านเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ของจริง" สิงห์กล่าวอีกว่า น่านไม่ต้องสร้างอะไรเพิ่ม แค่รักษาให้เข้าถึงง่ายๆ แบบนี้จะดีกว่า การใช้ชีวิตแบบไม่เอาถ่านทำได้ไม่ยาก เขายกตัวอย่าง การปั่นจักรยาน การรับประทานอาหาร หรือการเข้าพักโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการลดคาร์บอนได้

สำหรับมิ้นท์ ได้พูดถึงการทอผ้าที่โฮงเจ้าฟองคำ ที่เธอได้ลองทำและเข้าใจแล้วว่า กว่าจะได้ผ้าทอหนึ่งผืนมันยากขนาดไหน นอกจากจะทำให้เข้าใจวิถีชีวิตแล้ว เธอยังได้เห็นคุณค่าของผ้าทอผืนนั้นมากกว่าเดิม นอกจากนี้การปั่นจักรยานเที่ยวไปตามจุดต่างๆ เป็นวิธีเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้ง่าย เพราะวัยรุ่นชื่นชอบการเช็กอิน พอแวะจุดไหนก็ถ่ายรูปและแชร์เดี๋ยวนั้น ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และเกิดกระแสอยากทำตามต่อไปเรื่อยๆ

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

 

ขณะที่พื้นที่พิเศษอื่นๆ นักท่องเที่ยวสามารถไปค้นหาความไม่เอาถ่านได้เช่นกัน ยกตัวอย่างตลาดย้อนยุคที่นครชุม จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นต้นแบบของตลาดโลว์คาร์บอนแห่งแรกของประเทศไทย หรือชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ใกล้กับเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นชุมชนเกษตรกรรมที่ยังมีชีวิตเรียบง่าย ปลูกผักกินเอง ถ้าเหลือก็วางขายหน้าบ้าน ใครจะซื้อก็หยอดเงินใส่กระปุกแล้วหยิบไปได้เลย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะพบอีกแล้วในเมืองแสงสีแห่งนี้

"จุดขายทางการท่องเที่ยวคืออัตลักษณ์ของชุมชน" มิ้นท์กล่าว แม้ชุมชนจะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์ก แต่ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองได้ เธอยังพูดถึงชาวต่างชาติว่า "นักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยเขาต้องการมาหาความใหม่ ความแตกต่างที่เขาไม่มี แต่หากเราคิดแต่จะตามใจนักท่องเที่ยวแล้วปรับตัวไปตามเขา สุดท้ายแล้วเราก็จะไม่เหลือความต่างให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส"

ส่วนคนไทย เมืองไทยยังมีสิ่งใหม่ๆ ให้ค้นหาอีกมากมายโดยเฉพาะวิถีชีวิต ท้ายที่สุดแล้วชุมชนจะทำให้การท่องเที่ยวไทยอยู่รอดอย่างปลอดภัย และชุมชนจะทำให้คุณกลายเป็นคนไม่เอาถ่านที่น่านำมาเป็นแบบอย่างที่สุด

นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ทำไม 'ไม่เอาถ่าน'

 

ข่าวล่าสุด

HAAB (หาบ) มัดรวม 9 รสชาติที่สุดแห่งปี ที่ชาวโซเชียลไม่อยากมูฟออน