เหตุเกิด ณ สนามบิน Tribhuvan International Airport ประเทศเนปาล
เฟซบุ๊ก Mallika Bhiroonjitti
เฟซบุ๊ก Mallika Bhiroonjitti
เหตุเกิด ณ สนามบิน Tribhuvan International Airport ประเทศเนปาล
หลังจากสนามบินตรีภูวันประเทศเนปาลปิดทำการตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเครื่องบินของสายการบินตุรกีได้ไถลออกจากรันเวย์ และบางส่วนของเครื่องขวางอยู่บนรันเวย์ซึ่งมีอยู่เพียงรันเวย์เดียวในสนามบินทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินขึ้นลงได้ เป็นเหตุให้เนปาลแทบจะถูกตัดขาดจากประเทศต่างๆทันที การเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากและล่าช้า เนื่องจากสนามบินไม่มีอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายต้องมีการร้องขอความช่วยเหลือจากอินเดีย และต้องใช้เครื่องบินทหาร C130 ในการการขนย้ายอุปกรณ์ การเคลื่อนย้ายใช้เวลาทั้งสิ้นเกือบ 4 วัน สนามบินสามารถเปิดทำการได้ในเวลาประมาณ 20.00 น ของวันที่ 7 มีนาคม 2558 ทันทีที่สนามบินเปิดทำการ การบินไทยส่งเครื่องมารับและมาส่งผู้โดยสารที่ตกค้างทันทีจำนวน 2 เที่ยวบินในวันที่ 8 มีนาคมเช้าวันนั้นสนามบินโกลาหลและวุ่นวายมาก ในส่วนของที่จอดเครื่องบินนั้น ปกติก็มีแค่ 9 หลุมจอด จอดเครื่องใหญ่ได้แค่3 หลุมจอด ในเวลาปกติ การจราจรบนน่านฟ้าเนปาลก็หนาแน่นมากอยู่แล้ว มีสายการบินบินมาลงที่สนามบินเนปาล 27 สายการบิน กับศักยภาพของสนามบินที่มีหนึ่งรันเวย์กับหลุมจอด 9 หลุมจอดเป็น remote bay ทั้งหมดเครื่องบินก็บินวนรอลงจอดกันอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทุกคนก็ต่างเพิ่มเที่ยวบิน หรือเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินมาเพื่อรับผู้โดยสารของตนเอง เครื่องการบินไทยลำแรกของวันที่ 8 มีนา บินวนรอคิวลงจอดเกือบชั่วโมง ลำที่สองวนอยู่ชั่วโมงกว่า กว่าจะได้คิวและได้ที่จอด ตอนออกไปก็ดีเลย์กันอุลตลุด เราก็ดีเลย์ทั้งสองลำ แย่งที่จอดกัน แย่งรถอุปกรณ์กัน แย่งรถ ramp bus แย่งรถ push back กัน สารพัด แต่เราก็ทำได้ เพราะเรามีอุปกรณ์บางอย่างของเราเอง เรามีพนักงานของเราเอง เราเป็น self handling เราไม่ต้องรอไม่ต้องพึ่งคนอื่น เรามีผู้โดยสารตกค้างเกือบแปดร้อยคน รับไปได้ครึ่งเดียว มีผู้โดยสารอีกมากมายที่มา standby วันแรก แล้วไม่ได้ไป เราให้ priority คนที่มี booking วันที่ 4-5 มีนาก่อน พนักงานที่เช็คอินถูกรุมล้อมไปด้วยผู้โดยสาร ผู้โดยสารแออัดแทบจะไม่มีที่จะยืน สนามบินที่เล็กอยู่แล้วยิ่งดูคับแคบกันเข้าไปอีก แต่ดูเหมือนผู้โดยสารของเราจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี แทบจะไม่มีใครโวยวายเลย ผ่านไปวันแรกมีผู้โดยสารตกค้างเหลืออยู่สองร้อยกว่าคน วันที่สองเราก็เพิ่มอีก บินมาเลยสองลำ ลำแรกลงและออกได้ตามเวลา โชคดีมีที่จอด ลำที่สองวนอยู่7รอบ ไม่มีที่จอด ขอลงมาจอดรอตรง taxi way จอดรอที่จอดครึ่งชั่วโมง ในที่สุด ก็ได้จอด แต่ต้องไปจอดที่จอดสำหรับเครื่องลำเล็ก กลายเป็นจอดกินพื้นที่ไปสองหลุมจอดเลย ผู้โดยสารขาเข้าเลยต้องนั่งรออยู่บนเครื่องนานสองนานกว่าจะได้ลงแต่ได้ลงมาจอดรอที่ taxiway ก็ยังดีกว่าบินวนรออยู่บนฟ้าแหละ พอเครื่องเราลงมารับผู้โยสารเรียบร้อยพร้อมจะถอย หอบังคับการบินดันมาอนุญาตให้ลากเครื่องบินของตุรกีลำที่ไถลออกจากรันเวย์ออกมาจะเปลี่ยนที่จอด ขณะที่ลากเกิดขัดข้อง tow bar บิดไปต่อไม่ได้ขวางเครื่องเราอยู่ถอยไม่ได้ สุดท้ายต้องลากกลับไปที่เดิม เราถึงได้ถอยไป ดีเลย์ไป3ชั่วโมง ตอนเครื่อง airborne พนักงานของเราพากันร้องเฮเลย รู้สึกดีใจที่สามารถส่งผู้โดยสารที่ตกค้างกลับไปกรุงเทพฯได้ทั้งหมดแม้ว่าจะมีอุปสรรคและข้อขัดข้องมากมายที่เกิดจากข้อจำกัดของศักยภาพของสนามบินแต่พนักงานการบินไทยที่สนามบินตรีภูวันทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันดูแลผู้โดยสารอย่างดี การบินไทยไม่เคยทอดทิ้งผู้โดยสาร เราพยายามดูแลผู้โดยสารอย่างเต็มที่แม้ว่าจะมีข้อจำกัดและอุปสรรคเพียงใด มีหลายสายการบินที่บินมาแล้วไม่ได้ลงต้องdivert ไปที่อินเดียก่อนเพราะวนรอไม่ไหว กลับมาอีกทีลูกเรือหมดindex แล้วก็มีบางลำ divert ไปแล้วกลับมาไม่มีที่จอดต้อง divert ไปอีกรอบ มีอยู่สายการบินนึงลงมาแล้วรอที่จอด4ชั่วโมง พอได้จอดลูกเรือหมด index ออกไม่ได้ต้องออกวันรุ่งขึ้นทำให้ต้องจอดคาที่หลุมจอด เสียพื้นที่จอดไปอีก เครื่องบินผลัดกันขึ้นลง เข้าคิวรอที่จอดราวกับรถสองแถวเราโชคดีมากๆที่สามารถลงมาได้และรับผู้โดยสารกลับไปได้หมดภายในสองวัน
ขอบคุณนักบิน ขอบคุณลูกเรือ ขอบคุณพนักงานภาคพื้นที่กรุงเทพฯ ขอบคุณผู้บริหาร ขอบคุณพนักงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกๆท่าน ขอบคุณพนักงานชาวเนปาลสายเลือดการบินไทยทุกๆท่าน ที่สำคัญ ขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ไว้วางใจและใช้บริการของการบินไทย My THAI My Pride


