posttoday

อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

11 มีนาคม 2558

ถึงจะตัดสินใจปิดฉากชีวิตคู่กับอดีตสามี (ทอม เครือโสภณ) อย่างเป็นทางการเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

โดย...ยู่ยู้ ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ถึงจะตัดสินใจปิดฉากชีวิตคู่กับอดีตสามี (ทอม เครือโสภณ) อย่างเป็นทางการเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ติ๊ก-อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เจ้าของบริษัท 360 ดีกรีพีอาร์ ยังย้ำหนักแน่นว่า เธอไม่ใช่แม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ครอบครัวของเธอยังอยู่กันพร้อมหน้าตามประสาพ่อแม่ลูก

“ติ๊กไม่ใช่ซิงเกิ้ลมัม หรือแม่เลี้ยงเดี่ยวนะ เพราะเสาร์-อาทิตย์ คุณทอมก็ยังมาอยู่กับลูกทั้งสองคน (น้องเพลง เพลงรำไพ และน้องพิณ พิณไพเราะ) เพราะเราสัญญากับลูกไว้แล้วว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่คำว่าครอบครัวของเราจะไม่เปลี่ยนแปลง”

ติ๊ก ยอมรับว่า เธอเลี้ยงลูกแบบไม่ค่อยให้มีเวลาว่าง ทำกิจกรรมหลายอย่าง แต่ทุกกิจกรรมล้วนเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง แค่ขอให้ในกิจกรรมนั้นมีกีฬา 1 อย่าง

“ติ๊กขอให้เล่นกีฬาที่เป็นทีม 1 อย่าง เพราะติ๊กคิดว่าการทำงานเป็นทีมเวิร์กสำคัญ คนเราจะทำอะไรให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องยาก ติ๊กอยากปลูกฝังเรื่องนี้ให้ลูกรู้แพ้ รู้ชนะ อย่างลูกคนโต ชอบเล่นซอกเกอร์ กีฬานี้สอนให้ลูกรู้ว่าแต่ละคนในทีมมีหน้าที่ การที่เราได้บอลมาแล้วเก็บไว้คนเดียว ไม่ทำให้ทีมชนะ แต่ถ้าเราจ่ายบอลให้คนเก่ง โอกาสที่ทีมจะชนะก็มี”

คุณแม่คนเก่งบอกว่า ทุกวันนี้ที่บ้านไม่มีโทรทัศน์ เธอเลี้ยงลูกค่อนข้างมีระเบียบ วันที่ต้องไปโรงเรียนต้องตื่นและนอนเป็นเวลา ก่อนนอนติ๊กจะให้ลูกๆ เลือกข่าวจากเว็บไซต์ต่างประเทศฟัง อย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่าตอนนี้โลกเราเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคลิปก่อนจะเปิดติ๊กต้องสแกนก่อนแล้วนะว่าโอเค

สำหรับการใช้โซเชียลมีเดีย ติ๊กบอกว่ายอมให้ลูกเล่นเฟซบุ๊ก เพราะด้วยความที่ลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์มีเพื่อนจาก 86 ประเทศ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ จะย้ายโรงเรียนกันบ่อยดังนั้นการใช้เฟซบุ๊กจะช่วยให้ลูกยังสามารถรักษาคอนเนกชั่นกับเพื่อนไว้ได้ ซึ่งติ๊กมองว่าคอนเนกชั่นเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แน่ว่าคอนเนกชั่นเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์กับลูกในอนาคต โดยเธอเป็นคนสมัครให้ลูก จึงเป็นคนเดียวที่รู้รหัสผ่าน และจะอนุญาตให้ลูกเล่นช่วงวันหยุดแค่ 1 ชั่วโมง

แน่นอนว่า ด้วยความที่มีลูกสาววัยใกล้เคียงกัน ติ๊กบอกว่าเตรียมการเพื่อไม่ให้ลูกสาวคนโตน้อยใจ เมื่อต้องมีน้องเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งติ๊กบอกว่าเตรียมตัวตั้งแต่ลูกคนเล็กยังอยู่ในท้อง

“ตอนจะคลอด ติ๊กไปซื้อของขวัญเป็นร้อยชิ้นนะ แล้วซ่อนไว้ พอคลอดแล้วจะมีเพื่อนมาเยี่ยม ติ๊กจะแอบบอกเขาก่อนว่าให้ไปเปิดลิ้นชัก หยิบของขวัญที่ติ๊กเตรียมไว้มา 1 ชิ้นสำหรับให้น้องเพลง เพราะเวลามาเยี่ยมคุณแม่เพิ่งคลอดส่วนใหญ่ ทุกคนจะพุ่งไปหาสมาชิกใหม่ ทิ้งคนที่มาก่อนไว้ ซึ่งทำให้เด็กอาจจะน้อยใจคิดว่าเขาไม่มีค่า ติ๊กไม่อยากให้เกิดปัญหาตรงนี้ เลยหาทางออกไว้ก่อน”

อีกทีเด็ดในการเลี้ยงลูกคือ ติ๊กเชื่อว่า ถ้าเราอยากให้ลูกทำแบบนี้ เมื่อไหร่ที่เขาทำ เราควรบอกให้เขารู้ว่าเราชอบแบบนี้ เพื่อส่งเสริมให้เขาทำ แทนที่จะไปโฟกัสกับสิ่งที่เขาทำผิด

“บางทีติ๊กจะเซอร์ไพรส์ลูก ด้วยการแอบใส่การ์ดชมลูกไว้ในกระเป๋าเขา เช่น เมื่อคืนเล่นเกมกันแล้ว สนุกมาก ไม่มีใครทะเลาะกัน ติ๊กจะแอบเขียนการ์ดเอาไปใส่ว่า คุณแม่ชอบจังเลยที่เมื่อวานเราเล่นเกมกันแล้ว ไม่ทะเลาะกันเลย หรือติ๊กเห็นเพลงเดินไปส่งน้องที่ห้องเรียน อยากให้เขาทำแบบนี้ ติ๊กก็เขียนการ์ดไปชมเขาว่า ลูกเดินไปส่งน้องแบบนี้คุณแม่ชอบจัง ติ๊กว่านี่คือการบอกให้เด็กรู้ว่า ทำแบบไหนแล้วดี จึงได้รับคำชม”

ก่อนจะกดหยุดเครื่องอัดเสียง ติ๊กทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่อ่านหนังสือในการเลี้ยงลูกเยอะมาก ถามว่าจำเป็นมั้ย ติ๊กบอกว่า พ่อแม่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องเลี้ยงลูกอย่างไร แต่การอ่านหนังสือเหมือนเป็นการช่วยเตือนใจมากกว่า ส่วนติ๊กเองทุกวันนี้ โชคดีที่เรามีอดีตสามีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ช่วยกันดูแลลูก

“สำหรับครอบครัวที่ไม่สมหวัง ไม่จำเป็นต้องกีดกันลูกไม่ให้เจอพ่อหรือเจอแม่ เมื่อพ่อแม่ไปด้วยกันไม่ได้จะมาทะเลาะกันให้ลูกเห็นทำไม สู้เดินออกมาจากชีวิตของกันและกัน แล้วเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อพ่อแม่มีความสุข ลูกก็มีความสุข คำว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ถามว่าวันนี้ลูกได้ดั่งใจติ๊กหรือยัง ณ วันนี้นะ ติ๊กพูดได้เต็มปากว่าได้ดั่งใจมาก”

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'