เมืองเล็กๆ แสนน่ารัก แถบอัลซาส

เรื่อง : ปอย / ภาพ : Eric Faivre

คนเป็นดีไซเนอร์หลงใหลชื่นชมปารีสอยู่แล้ว “กีต้าร์” ปฏิญญา เกี่ยวข้อง เจ้าของแบรนด์ Patinya และบรรณาธิการความงาม นิตยสาร Marie Claire บอกแม้เวลางานรัดตัว แต่ทุกปีมหานครแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางเสมอกับแผนการท่องเที่ยวชมนิทรรศการแฟชั่นซึ่งมีจัดตลอดทั้งปี ชมพิพิธภัณฑ์เสพงานศิลป์ ชมสถาปัตยกรรมเมือง ซึ่งก็คือนิยามการท่องเที่ยวของหญิงสาวคนนี้

เดือน เม.ย.นี้  ปฏิญญา บอกว่า ได้วางแผนกลับไปปารีสอีกครั้งเพื่อชมนิทรรศการเสื้อผ้าลองแวง และช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ชีพจรก็ไม่ได้ลงเท้าหยุดอยู่แค่เมืองหลวงจากปารีส แต่เธอและคนรักซึ่งเป็นหนุ่มตาสีฟ้าชาวฝรั่งเศส เลือกเดินทางต่อด้วยรถไฟหัวกระสุนซึ่งมีสถานีติดกับสนามบินชาร์ล เดอ โกล มุ่งสู่สตราสบูร์ก (Strasbourg) เมืองแห่งความโรแมนติก ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส (Alsace) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส มีชายแดนติดกับประเทศเยอรมนีและเป็นทั้งพื้นที่ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์และจุดท่องเที่ยวเมืองยอดนิยม ตั้งอยู่เหนือหุบเขาลุ่มแม่น้ำไรน์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของปารีสประมาณ 300 กม. เมืองเล็ก แต่ที่นี่เป็นเมืองหลวงของแคว้นอัลซาสและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานของฝรั่งเศส-เยอรมนี

 

“เดินทางต่อกันอีกเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งจากปารีสก็จะถึงสตราสบูร์ก ที่นี่คือบ้านเกิดของเอริคแฟนต้าร์ค่ะ ช่วงปีที่ผ่านมามาที่นี่ 3 ครั้งแล้วค่ะ คือ ช่วงต้นปี กลางปี และคริสต์มาส แล้วปีนี้เขาก็จะพาต้าร์มาเยี่ยมบ้านเกิด 3 ครั้งอีกเช่นเคยค่ะ ซึ่งก็ไม่เคยเบื่อเมืองนี้เลย ตอนนี้หลับตาก็จะนึกถึงอากาศเย็นๆ เมืองเงียบๆ ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ก็แทบไม่ได้เจอคนไทย หรือเอเชียที่ตอนนี้คนจีนนิยมท่องเที่ยวไปทุกๆ เมืองยอดนิยม แต่ก็กลายเป็นว่าคนจีนหยุดอยู่แค่ปารีส

แลนด์มาร์คของที่นี่ คือ โบสถ์ Catherdrale de Notre-dame เป็นศิลปะแนวโรมันก่อนจากนั้นประยุกต์กลายเป็นโกธิกและแหล่งเดินเล่นช็อปปิ้งกลางเมืองเรียกว่า Place Kleber (พลัส ครีแบร์) มีร้านค้าต่างๆ ที่น่าถูกใจคนไทย ทั้ง Apple shop ร้านแอร์เมส หลุยส์ วิตตอง ซึ่งบริการดีเยี่ยมและนักท่องเที่ยวก็แทบไม่มี หรือช็อปอย่างซาร่าห์ก็มีนะคะ แต่ที่นี่ไม่มีสตาร์บัคส์นะคะ (หัวเราะ) เพราะร้านกาแฟในเมืองนี้น่ารักมาก กาแฟก็อร่อยมากมายหลายร้าน

เอริคมีอพาร์ตเมนต์อยู่ในเมือง แค่เดินออกมาที่ระเบียง มองพื้นถนนซึ่งเป็นหินมีดอกไม้เล็กๆ แซม ชมวิวบ้านเมืองก็สวยแล้ว”  ปฏิญญา บอกจุดหมายปลายทางประจำปีที่เพิ่มเข้ามาในปฏิทินชีวิตหวาน

ในสตราสบูร์กยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เช่น  Musee de l’Oeuvre ซึ่งตั้งอยู่ในโบสถ์และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในวงการศิลปะ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ยังรวมถึงพระราชวังโรฮัน (Rohan Palace) ที่มีความสวยงาม สะพาน Covered Bridges และอาคารรัฐสภายุโรป

 

ซึมซับความโรแมนติก

เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ฝรั่งเศสน้อย) ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นของมหาวิหาร Cathedrale de Notre-Dame ก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่ตระการตา บริเวณนี้ยังมีตลาดนัดและจัดแสดงคอนเสิร์ตตามฤดูกาลอีกด้วย

“ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา วันที่ 25 ธ.ค. เมืองทั้งเมืองเงียบมากจนเหมือนเราเดินเล่นกันแค่สองคนทั้งเมือง นักท่องเที่ยวก็มีบ้างค่ะแต่น้อยมาก ใครอยากมาที่นี่ถ้าไม่ชอบอารยธรรมเก่าแก่ มาเมืองนี้อาจเบื่อได้นะคะ ความเงียบๆ ชิลๆ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองฮันนี้มูน บรรยากาศเมืองโรแมนติกติดท็อปเทน  ติดท็อปไฟว์เป็นเมืองที่มีตลาดนัดคริสต์มาสสวยที่สุดในโลก การเดินทางในเมืองมีทั้งรถรางไฟฟ้า แนะนำให้เดินๆๆ คนมาเมืองนี้ต้องชอบเดินค่ะ และสำหรับคู้ฮันนี่มูนก็มีความสะดวกสบายที่มีโรงแรมทุกเชนมาเปิดในเมืองนี้

แล้วช่วงนี้จะมีตลาดนัดคริสต์มาสวางแค่ 10-15 วัน ใครมาช่วงนี้ห้ามพลาดนะคะ ของขายสไตล์โอท็อปน่ารักมาก ทั้งของตกแต่งบ้าน ของกิน แยม ไวน์ เพราะแคว้นอัลซาสเป็นเมืองที่มีไร่องุ่นพันธุ์ดีเยอะมาก แนะนำไวน์ร้อน-Roasted Chestnuts งานฝีมือที่แกะสลักไม้  Christmas Yam และสินค้าหัตถกรรมที่มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้ตลาดนัดคริสต์มาสที่นี่ยังได้รับการเรียกว่า The Granddaddy of all Christmas Market เพราะมีมานานมากตั้งแต่ปี 1570 ถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสเก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก”

 

ติดชายแดนเข้าเขตเยอรมนี

จากสตราสบูร์ก เอริคพาเที่ยวแถมอีก 1 เมือง เป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งอยู่ในเขตของประเทศเยอรมนี คือ เมืองกาเก้นบาค (Gengenbach) นั่งรถไฟไปใช้เวลาประมาณ 30 นาที ปฏิญญา บอกบรรยากาศเมืองสวยน่ารักแบบ Medieval Style มีบ้านแบบหอคอย กำแพงเมือง และประตูเมือง ใครรักมาเที่ยวเมืองเหล่านี้ต้องเดินๆๆ และเดิน ชมบนสะพานของประตูเมืองได้ ตึกที่ว่าการเมืองก็สวยดี นอกจากนั้นก็มีโบสถ์และภายในเมืองเก่ามีลานน้ำพุ เรียกว่าเป็นเขตป่าดำหรือ Black Forrest

“เมืองนี้ติดกับพรมแดนฝรั่งเศส เล็กๆ เงียบๆ บรรยากาศเมืองก็ไม่ต่างจากสตราสบูร์ก ในย่านนี้เรียกว่าภูมิภาคอัลซาสคนพูดได้สองภาษา สถานที่เที่ยวก็มีปราสาทบนภูเขา บริเวณยอดเขา Vosges ซึ่งอยู่ใกล้เคียง โดยเฉพาะฤดูหนาวซึ่งผู้คนนิยมมาเล่นสกีที่ยอดเขาแห่งนี้ นอกจากนี้เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่ไหลผ่านภูมิภาคอัลซาสเหมาะแก่แวะไปเยี่ยมชมและสำรวจไวน์ดีๆ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของภูมิภาค แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคืออาหาร ต้าร์ว่าอาหารเยอรมันรสจัดกว่า แล้วไม่คุกกิ้งมากสไตล์รอว์ฟู้ด ผักจะสดมาก”

การเดินทางได้เห็นความแตกต่างสุดขั้ว ทั้งที่อยู่ไม่ไกลกันเลย ปฏิญญา บอกว่านี่เองคือเสน่ห์ของการออกไปท่องโลกทุกๆ ปี