posttoday

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี

07 มีนาคม 2558

กรุงเทพมหานครมีอายุ 233 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมืองในปี พ.ศ. 2325 ปีนี้สิงคโปร์จะครบรอบครึ่งศตวรรษในวันที่ 9 ส.ค. 2558

โดย...กาญจน์ อายุ

กรุงเทพมหานครมีอายุ 233 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมืองในปี พ.ศ. 2325 ปีนี้สิงคโปร์จะครบรอบครึ่งศตวรรษในวันที่ 9 ส.ค. 2558 ส่วน “ดูไบ” ประวัติศาสตร์เริ่มกล่าวถึงในปี ค.ศ. 1833 ปีนี้ก็มีอายุ 182 ปี

ที่ต้องพูดถึงอายุเพราะกำลังจะกล่าวถึง ประวัติศาสตร์ ไทยผ่านสงครามและการเปลี่ยนแปลงมาหลายรัชกาล สิงคโปร์เคยตกเป็นเมืองขึ้นและเผชิญกับความโดดเดี่ยว แต่สำหรับดูไบไม่มีสงคราม ไม่มีการต่อสู้ มีแต่เพียงความแห้งแล้งของทะเลทรายที่ต้องเอาชนะ

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี คลองดูไบยังมีเรือค้าขายและเรือนำเที่ยว

 

Dubai is a city where the impossible is possible. (ดูไบเป็นเมืองที่ความเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้) ประโยคนี้กล่าวอยู่ในนิตยสารท่องเที่ยวของดูไบ เป็นประโยคทิ้งท้ายหลังจากโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวฮิวแมนเมดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตึกสูงที่สุดในโลก ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือสกีหิมะในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งเหล่านี้คือวิทยาการและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทำให้แผ่นดินไร้ความหวังกลายเป็นเมืองในฝันของหลายคน

ก่อนเดินทางสำรวจเมือง ลองแหงนหน้าลงจากตึกสูงมามองพิพิธภัณฑ์ดูไบ (Dubai Museum) ที่อยู่ในป้องปราการเก่าแก่ อัล ฟาฮิดิ (Al Fahidi Fort) ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักดูไบอย่างลึกซึ้ง ถ้ามีเวลาควรใช้กับที่นี่

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี ทั้งทะเลทรายและท้องทะเลล้วนสร้างเมืองได้

 

อย่างที่บอกไปว่าดูไบเริ่มกล่าวถึงการสร้างเมืองเมื่อปี 1833 ปีที่ตระกูลมักตูม (Maktoum Family) เข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณปากคลองดูไบ (Dubai Creek) ซึ่งเวลานั้นยังเป็นที่อยู่ของชนเผ่าบานิ ยาส (Bani Yas) ราว 800 คน ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้จารึกถึงการสู้รบเพื่อแย่งชิงอาณาจักรแต่อย่างใด เขียนไว้แต่เพียงการลงหลักปักฐานและหลังจากนั้นการพัฒนาก็เริ่มต้นขึ้น

ในห้องสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์เป็นห้องมืด ฉายวีดิทัศน์หนึ่งเรื่องที่เปิดวนไปวนมา ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเดินผ่านไป เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นบทสรุปของดูไบแบบย่อประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาให้ชมแล้ว เชื่อหรือไม่ว่าดูไบมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุกๆ 10 ปี 

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี จำลองการค้าขายในพิพิธภัณฑ์ดูไบ

 

อาชีพดั้งเดิมของชาวดูไบคือเก็บไข่มุกและประมง ยังดีที่ประเทศนี้ (ขณะนั้นดูไบยังไม่เข้าร่วมในสหพันธรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE) ติดอ่าวเปอร์เซีย ทำให้สามารถขายสินค้าทะเลได้ แต่ในทางตรงกันข้าม ดูไบต้องนำเข้าสินค้าหลายอย่าง ทั้งข้าว น้ำตาล พริกไทย ธัญญาพืช ไม้ไผ่ จากอินเดียและแอฟริกาตะวันออก จนกระทั่งช่วงปี 1940 จุดเริ่มต้นการพัฒนาประเทศได้เริ่มขึ้น เมื่อผู้ปกครองแห่งตระกูลมักตูมทำสัญญากับรัฐบาลอังกฤษให้เข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และค้นหาน้ำมัน จากนั้นช่วงปี 1950 ดูไบเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะการค้าทองที่กำลังรุ่งเรือง ลงทุนขุดลอกคลองดูไบ และทุ่มเงินสร้างเมกะโปรเจกต์มากมาย โดยเฉพาะการสร้างถนน

10 ปีต่อมา บุญหล่นทับดูไบอย่างจังกับการค้นพบน้ำมัน เม็ดเงินจากการส่งออกน้ำมันนำมาสร้างไฟฟ้า ประปา ระบบการสื่อสาร รวมถึงสนามบิน ประจวบกับผู้ปกครองดูไบและอาบูดาบีต่างมีความฝันเดียวกันที่จะสร้างอาณาจักรเอมิเรตส์ ในปี 1972 จึงได้รวมตัวกันสำเร็จ 7 ประเทศ อยู่ภายใต้ชื่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates - UAE) โดยมีสองเมืองต้นคิดเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ ในช่วงระยะเวลานี้ ดูไบได้พัฒนาประเทศหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการลงทุนจากต่างชาติ ด้วยการเปิดฟรีโซน มีการสร้างท่าเรือน้ำลึก และตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ การก่อสร้างยังคงต่อเนื่องไปถึงยุค 1980 โปรเจกต์ที่อยู่อาศัยถูกสร้างใหญ่โต โครงการขยายสนามบิน การเปิดตัวของสายการบินเอมิเรตส์ รวมถึงการสร้างแหล่งบันเทิงและกีฬาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว มากไปกว่านั้นดูไบยังพบโชคชั้นที่ 2 กับการขุดค้นพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันกลางทะเลทรายมาร์กฮัม

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี ร้านขายถั่ว

 

ความเจริญอย่างรวดเร็วของดูไบเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก กระทั่งในช่วงปี 1990 มีรายได้จากการลงทุนต่างชาติมากถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทว่าชาวดูไบก็ต้องเจอกับเรื่องเศร้าเมื่อผู้ปกครอง His Highness Sheikh Rashid Bin Saeed Al Maktoum หรือ ชีค ราชิด เสียชีวิตลง ทำให้ลูกชายต้องขึ้นมาปกครองแทน ท่านมีนามว่า His Highness Sheikh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum หรือ ชีค มูฮัมหมัด ควบตำแหน่งรองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของยูเออี

วีดิทัศน์ฉายมาจนเกือบจบเรื่องแล้ว ตอนนี้ภาพบนผนังกำลังประมวลภาพตึกที่เป็นสัญลักษณ์ของดูไบ ทั้งตึกเบิร์จ อัล อาหรับ ทรงเรือใบ ตึกเบิร์จ คาลิฟา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกพลับพลึง หรือการถมทะเลให้เป็นแผ่นดินลักษณะเฉพาะอย่างเดอะ ปาล์ม จูเมราห์ และเดอะ เวิลด์ การก่อสร้างตึกดีไซน์ทันสมัย แสดงให้เห็นว่าเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม หรือช่วงปี 2000 เต็มตัว จนถึงขณะนี้ปี 2015 การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ยังไม่หยุด

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี อินทผลัม ผลไม้ทะเลทราย ของฝากที่โด่งดังของดูไบ

 

เวลามองดูไบจากชั้น 124 ของตึกเบิร์จ คาลิฟา จะเห็นเขตที่กำลังก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก จากสมัยก่อนที่ชุมชนจะอยู่กันหนาแน่นริมสองฝั่งคลองดูไบ แต่ตอนนี้เมืองขยายออกไปเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนไร้ขีดจำกัด เพราะทะเลทรายยังมีที่ว่างอีกมาก และน่านน้ำก็ยังเหลือเฟือ นอกจากนี้ในปี 2020 ดูไบจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เป็นอีกขั้นหนึ่งของการเป็นที่ยอมรับระดับโลก

หลายคนบอกว่าสาเหตุที่ดูไบเติบโตครั้งใหญ่ได้ทุกๆ 10 ปี เป็นเพราะประเทศนี้ รวย ซึ่งก็จริง เพราะทองคำและน้ำมันทำให้ดูไบมีเงินมาลงทุนสร้างสาธารณูปโภค แต่อีกหนึ่งเหตุผลคือ มี ผู้นำหัวก้าวหน้า ที่ไม่กลัวกระแสการลงทุนข้ามชาติ แถมยังอ้าแขนต้อนรับด้วยการเปิดฟรีโซนให้ลงทุนอย่างเสรี อีกทั้งการวางผังเมืองที่ดี ด้วยความที่เป็นเมืองสร้างใหม่ทั้งหมด ทำให้สามารถจัดกรุ๊ปได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เช่น โซนสื่อสารมวลชน โซนข้าราชการ หรือโซนเมืองเก่าที่อนุรักษ์

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี ซูเปอร์คาร์มีให้เห็นจนชินตาบนท้องถนน

 

การเดินทางสะดวกสบายด้วยระบบรถไฟฟ้าเชื่อมถึงกันทั้งเมือง โมโนเรลในตัวเมือง และรถประจำทาง อย่างไรก็ตาม ดูไบมีนโยบายสนับสนุนให้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น โดยนำทองคำมาล่อ แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะประชากรส่วนใหญ่มีฐานะดี มีรถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะชาวดูไบแท้ๆ ที่มักเป็นคนมีฐานะทางสังคม และได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนชาติอื่น เช่น หากคนดูไบทำงานจะได้รับเงินเดือนมากกว่า หรือสิทธิทางสังคมที่มีมากกว่าชาติอื่น

ดูไบเป็นประเทศอิสลามที่ทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ถามไกด์ว่าจะดูออกได้อย่างไรว่าคนไหนเป็นชาวดูไบ เธอตอบว่าคนดูไบแท้ๆ จะแต่งตัวต่างจากคนอื่น เช่น ผู้ชายสวมชุดขาวก็จริงแต่จะใส่หมวกแก๊ปแทนผ้าคลุมศีรษะ (Ghutra) ส่วนผู้หญิงจะดูรักษากฎระเบียบมากกว่าด้วยการแต่งกายด้วยผ้าสีดำมิดชิด แต่จะแต่งหน้าเข้ากับเทรนด์สมัยนั้น ซึ่งทำให้ดูทันสมัยกว่าคนอื่น ส่วนนักท่องเที่ยวยังเห็นชาวต่างชาติใส่สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น เดินตามท้องถนนเหมือนไม่ใช่เมืองอิสลาม แต่ก็มีหลายเรื่องที่ยังเข้มงวด เช่น เรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ยังจำกัดอยู่ในโรงแรมและคลับ อาหารทุกจานเป็นฮาลาล สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งมีห้องละหมาดแยกชายหญิง และวันหยุดราชการจะหยุดวันศุกร์-เสาร์ (วันอาทิตย์ทำงาน) เพราะวันศุกร์เป็นวันที่สำคัญที่สุดในศาสนาอิสลาม ตามที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า วันที่ดีที่สุดที่ดวงอาทิตย์ขึ้นคือวันศุกร์ ชาวมุสลิมถูกกำหนดให้ไปฟังเทศนาธรรม และปฏิบัติตัวเป็นพิเศษ เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน ประทินน้ำหอม และใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุด วันศุกร์จึงเป็นวันหยุดราชการเพื่อให้ละหมาดอย่างเคร่งครัด เหมือนกับชาวคาทอลิกที่ไปมิสซาที่โบสถ์ทุกวันอาทิตย์เช่นกัน

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี ถนนทุกสายลาดยางอย่างดี

 

ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ด้วยความเข้าใจประวัติศาสตร์ เวลาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบันก็จะได้เห็นแบ็กกราวด์ของสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ แต่...ขณะที่ฉันกำลังมองรถสปอร์ตเปิดประทุนติดไฟแดงอยู่ข้างๆ ก็พลันคิดย้อนกลับไปสู่ทริปขับรถเที่ยวลาวที่มีวิวสองข้างเป็นทุ่งนาเขียวขจี

“แบบไหนที่เรียกว่าร่ำรวย” ฉันคิด

ในเมืองที่มีน้ำมันกลางทะเลทราย หรือเมืองที่มีควายไถนา

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี ทะเลทรายอาหรับเบียนกว้างใหญ่ ไร้สิ่งมีชีวิต

 

สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ - ดูไบ ทุกวัน วันละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินแบบ A380 โดย ชั้นบนเป็นชั้นสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง จำนวน 14 ห้อง ชั้นธุรกิจ จำนวน 76 ที่นั่ง และชั้นประหยัด จำนวน 399 ที่นั่ง ซึ่งทุกที่นั่งและทุกชั้นโดยสารจะเชื่อมต่อกับระบบความบันเทิง ไอซ์ (ICE - Information, Communication, Entertainment) ที่มีความบันเทิงมากกว่า 1,400 ช่อง

ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งสามารถใช้บริการห้องรับรองสายการบินภายในสนามบิน ให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารไทยและนานาชาติ เครื่องดื่มทั้งมีและไม่มีแอลกอฮอล์ โซนคอมพิวเตอร์ โซนอ่านหนังสือ ห้องสวดมนต์ ห้องอาบน้ำ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย มีให้บริการ 35 สนามบินใน 6 ทวีปทั่วโลก ข้อมูลสายการบินและสำรองที่นั่ง ได้ที่เว็บไซต์ www.emirates.com/th หรือโทร. 02-664-1040 ข้อมูลท่องเที่ยวดูไบ ตัวอย่างแผนการเดินทาง และหมวดหมู่ที่ท่องเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ ดูได้ที่เว็บไซต์ dubai tourism.ae หรือโหลดแอพพลิเคชั่น Dubai Tourism ได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์

‘ดูไบ’ ประวัติศาสตร์ไม่ยาวไกล แต่เปลี่ยนไปทุก 10 ปี

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68