‘กะหล่ำปลี’ ยอดผักเสริมพลัง
โลกที่ความเสื่อมของสังขารมาตามวันวัยและเวลาไม่เคยรอใคร ไม่มีใครสามารถจะทำให้ทุกอย่างคงเดิมได้
โดย...เพรงเทพ
โลกที่ความเสื่อมของสังขารมาตามวันวัยและเวลาไม่เคยรอใคร ไม่มีใครสามารถจะทำให้ทุกอย่างคงเดิมได้
แม้แต่ความเป็นชาย (ฮอร์โมนเพศ) ก็หดสลายหายไปตามธรรมชาติ
เมื่อยังเป็นวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่านจนล้น จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อวัยมากขึ้นเรื่อยๆ หากไหวตัวทันไม่ปล่อยปละละเลยจนเกินไป ก็สามารถชะลอความเป็นชายให้คงอยู่ ไม่เหือดแห้งเข้าสู่วัยทองไวจนเกินไป
เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน เมื่อเข้าถึงช่วงอายุ 30 ปี ฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเทอโรน กำลังลดลงตามสภาพ ก็ต้องหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น เพราะเทสโทสเทอโรนนั้น สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชาย มีหน้าที่กำหนดลักษณะความเป็นชาย ทำให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งรวมไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ การสร้างอสุจิ ปริมาณขนตามร่างกาย กล้ามเนื้อและกระดูก
หากใครเริ่มมีอาการเดินตัวตรงแล้วปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอกไปหมด ไขข้อกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บ สมองตื้ออื้อหมุนวนไปทั้งศีรษะ จิตใจห่อเหี่ยวเปลี่ยวเปล่าและกลวงโหวง ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า อย่าปล่อยให้เรื้อรังยาวนาน
วิธีง่ายๆ คือ อาหาร ที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ เพราะมีคำกล่าวไว้ว่า คุณกินยังไง คุณก็เป็นอย่างนั้น (You are what you eat, You eat what you see!) โดยเฉพาะอาหารที่บำรุงฮอร์โมนเพศชายเพื่อช่วยบำรุงสมอง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า
ใครต้องการที่จะฟิตเปรี๊ยะราวติดเทอร์โบง่ายๆ เพียงแต่เลือกกินและเข้มงวดมีวินัยกับอาหาร ก็จะช่วยชะลอความเป็นชายให้คงอยู่ยาวนาน โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่อยากให้จากไปก่อนเวลาอันควรคือ สมรรถภาพทางเพศ
กะหล่ำปลีคือคำตอบข้อแรกสุด และเป็นผักที่ดีที่สุดในการปกป้องและรักษาความเป็นชายให้ปึ๋งปั๋ง
แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเลย เพราะเป็นผักที่สามารถหยิบกินได้ตามจานผักที่เคียงมากับส้มตำในร้านอาหารอีสาน หรืออาหารสุดฮิตอย่างกะหล่ำทอดน้ำปลา เมนูกะหล่ำปลีอื่นๆ ก็มีมากมาย
กะหล่ำปลีจัดเป็นสุดยอดผักสำหรับฮอร์โมนเพศชาย นอกจากจะมีวิตามินและเกลือแร่แล้ว ยังมีสารที่เรียกว่า อินโดล 3 คาร์บินอล (Indole-3-Carbinol) ที่ช่วยปรับสมดุลไม่ให้ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงให้มีมากเกินไป และช่วยทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
สำหรับผู้ชายซึ่งส่วนมากชอบรับประทานอาหารปิ้งย่างเป็นประจำ ควรรับประทานผักกะหล่ำปลีเข้าไปด้วย เพราะอุดมไปด้วยซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ที่จะช่วยป้องกันการถูกทำลาย และลดความเสียหายของดีเอ็นเอหรือหน่วยพันธุกรรม
ความสำคัญอีกอย่าง กะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอลได้
ด้านความชราภาพ กะหล่ำปลีก็ช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้ เพราะสามารถช่วยชะลอการเกิดผมหงอก เนื่องจากไปกระตุ้นโปรตีนเคราติน (Keratin) และมีวิตามินบี 5 ช่วยบำรุงรากผม บวกด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งมีผลต่อการเสริมสร้างและบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยบำรุงผิวพรรณทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล
การบริโภคกะหล่ำปลีมากกว่า 1 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสของการเป็นมะเร็งลำไส้ในผู้ชายได้ถึง 66% และช่วยต่อต้านมะเร็งในตับ รวมถึงมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย
แต่ก็มีข้อเตือน การบริโภคกะ
หล่ำปลีดิบควรรับประทานแต่พอเหมาะ เนื่องจากการรับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ได้ และที่สำคัญควรระมัดระวังเรื่องยาฆ่าแมลงให้มาก เพราะกะหล่ำปลีนั้นติดอันดับ 1 ใน 5 ผักที่มีสารปนเปื้อนมากที่สุด
อย่างนี้ก็รู้กันแล้ว แต่สำหรับชายท่านใดที่ต้องการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าก็เอ้อ...ตัดสินใจกันเองนะครับ


