ทำแบรนด์ด้วยไอเดีย ปรียดา จิรวัฒน์วงศ์
ความฝันมาจากความจริง หรือความจริงที่มาจากความฝัน ปรียดาจิรวัฒน์วงศ์ หรือ ปอร์เช่ วัย 32 ปี
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
ความฝันมาจากความจริง หรือความจริงที่มาจากความฝัน ปรียดา จิรวัฒน์วงศ์ หรือ ปอร์เช่ วัย 32 ปี ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีมิทิอา (Preemitia) เจ้าของแบรนด์ ปรี (PREE) บูติก สปอร์ตแวร์ หรือเสื้อผ้าชุดออกกำลังกายแนวแฟชั่น เรื่องราวของแบรนด์และการเริ่มต้นใหม่ ที่น่าสนุก!
ปอร์เช่ เล่าว่า ธุรกิจเสื้อผ้าชุดออกกำลังกายแนวแฟชั่นของเธอแตกยอดมาจากธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัว บริษัท ไนซ์ แอพพาเรล ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้ากีฬาภายใต้เครื่องหมายการค้า (OEM) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โรงงานและสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี ส่วนอีก 6 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศและต่างประเทศ กำลังการผลิตรวม 36 ล้านตัวต่อปี ยอดขายปีละ 7,000 ล้านบาท
“บ้านของเราทำธุรกิจเสื้อผ้ากีฬามาตั้งแต่ปอร์เช่จำความได้ โตขึ้นมาพร้อมๆ กับโรงงานเสื้อผ้าค่ะ (ฮา) เล่นอยู่ในโรงงานมาตั้งแต่เด็ก ถึงตอนนี้ก็กว่า 30 ปีแล้ว”
เพราะคลุกคลีมาแต่เด็ก ปอร์เช่จึงมีความรักในธุรกิจเสื้อผ้า...เราชอบทำอะไร คำตอบคือการทำเสื้อผ้านี่แหละ เพราะฉะนั้น ก็ไม่แปลกที่คิดและตัดสินใจได้รวดเร็ว ก็ในเมื่อวันหนึ่งจะต้องทำแน่ๆ (ฮา) ปอร์เช่เลือกเรียนการตลาด เธอจบปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นไปเรียนต่อยังสหรัฐ ที่ Babson College มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งด้านการจัดตั้งธุรกิจใหม่ (Entrepreneurship)
เนื่องจากธุรกิจที่บ้านเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเสื้อผ้า ปอร์เช่จึงตัดสินใจเรียนต่อเกี่ยวกับ Associate Degree ด้าน Apparel Manufacturing Management ที่ Fashion Institute of Design and Merchandising (FIDM) สถาบันด้านแฟชั่นที่มีชื่อเสียงของลอสแองเจลิส คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ขึ้นรายชื่อเป็น President’s Honor Roll Awards อีกด้วย
“เลือกเรียนด้านการจัดตั้งธุรกิจใหม่และเรียนรู้งานแฟชั่น ธุรกิจเสื้อผ้าโดยตรง ก็เพราะรู้ใจตัวเองว่า สักวันหนึ่ง (ฮา) อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง เราต้องสานต่อธุรกิจของที่บ้านแน่ แต่เราก็อยากทำแบรนด์ใหม่ที่เป็นของตัวเองด้วย” ปอร์เช่ เล่า
ระหว่างศึกษาที่ FIDM ทำให้มีโอกาสได้สัมผัสกับผู้คนในแวดวงแฟชั่นของนครลอสแองเจลิส ไม่ว่าจะเป็น นิค เวอร์ริออส ผู้เข้าแข่งขันรายการ Project Runway Season 3 ก็เป็นอาจารย์ที่เธอได้เข้าคลาสด้วย ก่อนจบการศึกษา 1 เทอม ปอร์เช่ยังได้มีโอกาสเข้าทำงานที่บริษัท Mo Industries LLC ซึ่งผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ Splendid และ Ella Moss เสื้อผ้าลำลองสไตล์แคลิฟอร์เนียที่โด่งดัง มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วสหรัฐ
ปอร์เช่ เล่าว่า Splendid และ Ella Moss นั้น เป็นแบรนด์ใหญ่ โดยวางขายอยู่ในห้างชั้นนำทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Bloomingdale’s Anthropologie และ Nordstrom ก่อนที่บริษัทจะถูกซื้อไปโดย V.F. Corporation ปอร์เช่ในฐานะ Assistant to Production Manager ทำงานอยู่ที่นี่รวม 3 ปี เป็นโอกาสให้ได้สัมผัสทั้งงานด้านดีไซน์ งานพัฒนาตัวอย่าง รวมไปถึงงานด้านการดูแลและจัดซื้อ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
เมื่อกลับประเทศไทย ปอร์เช่มีโอกาสได้ทำงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่บริษัทเอเยนซีชื่อดัง 1-2 แห่ง แต่ในที่สุดก็กลับมาตั้งหลักที่ความฝัน บิซิเนสไอเดียดั้งเดิม (ฮา) ปอร์เช่เข้าทำงานที่บริษัทของครอบครัว โรงงานผลิตเสื้อผ้ากีฬาส่งออก (OEM) ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (New Business Development Manager) แต่อย่างที่บอกแล้วว่า ลึกๆ ในใจอยากขยายธุรกิจออกไปและมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
“ความจริงยังไม่อยากกลับค่ะ (ฮา) ยังสนุกกับการทำงานที่ต่างประเทศมากๆ แต่ที่บ้านอยากให้กลับมาดูงานที่โรงงาน ก็คิดว่าดี รุ่นหนึ่งรับจ้างผลิตโออีเอ็ม รุ่นสองอยากทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง คิดท้าทายตัวเองในใจว่า เราจะกลับมาต่อยอดธุรกิจของเราให้ได้” ปอร์เช่ เล่า
สำหรับแบรนด์ใหม่ ปรี มาจากชื่อจริง “ปรียดา” ปอร์เช่ บอกชอบคำนี้เพราะให้ความรู้สึกสบายๆ และเป็นมิตร โดย “ปรี” ก็คือบูติกสปอร์ตแวร์ ชุดกีฬาในร่มแนวใหม่ ประกอบด้วย ชุดโยคะ สปอร์ตบรา กางเกงขาสั้น เลกกิ้ง และกางเกงขายาวสำหรับใส่ออกกำลังกาย ที่ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชั่นและแฟชั่นไปพร้อมกัน เนื้อผ้าเบา ยืดหยุ่นสูง โดยใช้เทคโนโลยีสิ่งทอใหม่ๆ จากประเทศเกาหลี พาวเวอร์ เคลอ (Power Kler) ซึ่งเป็นผ้าสำหรับใส่ออกกำลังกายโดยตรง เมื่อได้รับความร้อนหรืออุณหภูมิร่างกายขณะออกกำลังกายขึ้นสูง จะทำให้ลวดลายบนผ้าหายไป บอกให้ผู้สวมใส่ได้ทราบว่าระดับการเผาผลาญเป็นไปตามเป้าหมายการออกกำลังกายหรือไม่
“ปรีเป็นบูติกสปอร์ตแวร์รายแรกของไทย เราพยายามใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง ขณะเดียวกันก็ออกแบบให้สนุก ใช้สีพาสเทลสนุกๆ ผู้สวมใส่ได้แต่งตัวหรือเดรสอัพไปด้วยได้ เป็นแบรนด์สำหรับผู้สวมใส่ที่รักสุขภาพและอยากดูดี” ปอร์เช่ เล่า
คอนเซ็ปต์คือความสวยและสุขภาพที่ไปด้วยกัน ปีแรกขายตรงในเว็บไซต์ ผลตอบรับดีมาก เปิดขายไม่ถึงปีหากยอดขายไต่ระดับเลข 7 หลักแล้วก็แล้วกัน ในปีนี้เตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย วางขายในศูนย์การค้าชั้นนำหลายแห่ง ราคา 1,500-2,000 บาท ใครที่อยากสวยทั้งในยิมและนอกยิมก็ติดตามกันได้ ถือเป็นเทรนด์และกระแสแฟชั่นที่ไปในทิศทางเดียวกับโลก คือ Athleisure ใส่ชุดเดียวออกจากบ้านแล้วสามารถทำกิจกรรมที่ต้องการได้หมด
“ชีวิตคนเร่งรีบ แฟชั่นตอบโจทย์คนยุคสมัยนี้ด้วยชุดแบบ Athleisure ใส่เสื้อผ้าชุดหนึ่งออกจากบ้านแล้วเราทำอะไรได้มากขึ้น เมื่อก่อนชาวอเมริกันชอบใส่เดนิม แต่เดี๋ยวนี้เดนิมก็ยอดตกแล้ว สิ่งที่มาแทนคือผ้ายืดแบบสเวตแพนต์ คล้ายกางเกงวอร์มแต่ตัดเย็บเนี้ยบและมีเนื้อผ้าดีกว่า ทำงานเสร็จ ประชุมเสร็จแล้วไปต่อที่ยิมได้เลย ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้เป็นที่นิยมมาก” ปอร์เช่ เล่า
การดูแลตัวเองและการดูแลสุขภาพกำลังเป็นเทรนด์ใหญ่ของโลก จะดีใจมากถ้า “ปรี” ทำให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาอยากออกกำลังกายด้วยชุดสวยๆ ความมุ่งหวังคือการเติบโตเป็นแบรนด์สปอร์ตแวร์ที่อยู่ในใจคนรักสุขภาพ ปอร์เช่ บอกว่า ต้องขอบคุณเจเนอเรชั่นที่ 1 ได้แก่ คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณป้า และญาติผู้ใหญ่ ที่สอนให้รู้ถึงความมุมานะอดทน ความไม่กลัวต่อปัญหา การให้ความสำคัญต่อบุคลากร ยิ่งไปกว่านั้นคือแนวคิดสู้ในทุกสถานการณ์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีคำว่าไม่ได้ มีแต่คำว่า จะทำให้ได้!!
สำหรับใครที่อยากมีธุรกิจหรือแบรนด์เป็นของตัวเอง ไม่ยาก ปอร์เช่แนะนำว่า ตั้งหลักจากความฝันและทำให้เป็นความจริง เริ่มต้นจากการมองหาโอกาสไปเรื่อยๆ คิดหาแนวทางใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ อย่าละทิ้งความอดทน อย่าละทิ้งความเพียร มองทุกอย่างตามความเป็นจริง ถ้าเจอปัญหาให้ดีใจ เรียนรู้จากมัน สนุกกับมัน แล้วรับรองว่า ความฝันที่ฝันไว้ จะสำเร็จในวันหนึ่ง!!!
“เรื่องของปอร์เช่คือ เรื่องของคนที่แสวงหาโอกาสค่ะ คนที่ต้องการโอกาส และได้รับสิ่งที่ต้องการ” ปอร์เช่ จบด้วยรอยยิ้มสดใส


