ศาลพระภูมิฮิปสเตอร์ ศรัทธาที่มาพร้อมความเก๋
ศาลพระภูมิเป็นศาลที่ตั้งขึ้นมาเพื่ออัญเชิญพระภูมิที่ดีเข้ามาสิงสถิตอยู่ เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวารต่างๆ ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ
โดย...พริบพันดาว
ศาลพระภูมิเป็นศาลที่ตั้งขึ้นมาเพื่ออัญเชิญพระภูมิที่ดีเข้ามาสิงสถิตอยู่ เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวารต่างๆ ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ
ประวัติและตำนานของพระภูมิได้ถูกกล่าวขานกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ตำนานเหล่านี้ไม่รู้ถึงที่มา รวมถึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งขึ้นอย่างแน่ชัด เรื่องประวัติการกำเนิดของศาลพระภูมิ มีการกล่าวไว้มากมายหลายฉบับ ทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกันออกไป จากวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่อง “การจัดการศาลพระภูมิในเขตกรุงเทพมหานคร” ของ วชิรภัทร กลัดทรัพย์ พบว่ามีตำนานหลักๆ อยู่ 3 ตำนาน คือ ตำนานพระภูมิแบบยุคศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ตำนานพระภูมิแบบเรื่องนารายณ์ 10 ปาง และตำนานพระภูมิแบบชาดก
ความเชื่อความศรัทธาในเรื่องพระภูมิเจ้าที่นั้น ฝังผนึกแน่นอยู่ในสังคมไทยที่พุทธกับพราหมณ์เดินไปด้วยกันตั้งแต่ยุคโบร่ำโบราณ จนถึงปัจจุบันศาลพระภูมิได้เปลี่ยนโฉมหน้าและรูปแบบจากประเพณีนิยม หรือเทรดิชั่นดั้งเดิมสู่ความร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นแบบโมเดิร์นยุคใหม่ประยุกต์ให้ทันสมัยเข้ากับสถาปัตยกรรมของบ้าน จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตเป็นศาลพระภูมิแนวใหม่ หรือแม้กระทั่งเป็นศาลพระภูมิสั่งทำพิเศษให้เหมาะกับตัวบ้านหรืออาคารโดยเฉพาะ ไม่เหมือนใคร เรียกศาลพระภูมิฮิปสเตอร์ก็ว่าได้
มาค้นหากันว่าศาลพระภูมิที่ถูกต่อยอดให้เป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยย่อส่วนเปลี่ยนแปรรูปแบบและภาพลักษณ์เดิมๆ ของศาลพระภูมิ จะเชื่อมโยงกับธุรกิจศาลพระภูมิและไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคนี้อย่างไร?
ความเชื่อความศรัทธาเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
พิสิฐ เจริญวงศ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ (SPAFA) ให้สัมภาษณ์ในวิทยานิพนธ์เรื่อง “การจัดการศาลพระภูมิในเขตกรุงเทพมหานคร” ว่า การสร้างศาลพระภูมิเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อที่มีอยู่ในทุกบุคคล ความเชื่อดังกล่าวได้มีอิทธิพลเหนือฐานะของคนในสังคม ความเชื่อเรื่องศาลพระภูมิจึงเป็นสิ่งแสดงออกได้ถึงวัฒนธรรมทางจิตใจ
“ค่าทางใจมีสูงกว่าค่าทางกาย คนเราถ้าเชื่ออะไรสักอย่างก็ถือว่ามีคุณค่าสูง แม้การตั้งศาลฤกษ์พานาทีก็มีความสำคัญ ความเชื่อใครก็มีทั้งนั้น บางคนไม่เชื่อแต่ต้องปฏิบัติตาม คือเชื่อไม่เต็ม 100% แต่ก็ไม่มั่นใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย อย่างศาลพระภูมิคนแสดงออกด้วยความเคารพกราบไหว้ แต่ก็มีคนบางส่วนกลัวว่าทำไปแล้วจะดูไม่ทันสมัย ทั้งที่อำนาจความเชื่อในจิตใจยังมีอยู่”
ส่วนความเชื่อในเรื่องศาลพระภูมิกับสถาปัตยกรรม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ปี 2546 วนิดา พึ่งสุนทร ได้กล่าวถึงในวิทยานิพนธ์ฉบับเดียวกันว่า ศาลพระภูมิในทางสถาปัตยกรรมไม่มีการกล่าวถึงวิธีการโดยเฉพาะของศาลพระภูมิ เพราะว่าเป็นความเชื่อเฉพาะ ไม่ได้มีทุกบ้าน แล้วแต่ความชอบของเจ้าของบ้าน แล้วที่สำคัญคือศาลพระภูมิจะเหมือนกันหมด เป็นโปรดักต์ของร้านค้าที่ทำออกมาขาย ถึงแม้สมัยก่อนจะสร้างกันเองแล้วแต่ความพอใจ ความสะดวก ไม่มีการสืบสานที่เด่นชัด
“การที่ศาลพระภูมิไม่มีความชัดเจนในลักษณะสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรม ก็เนื่องด้วยมีรูปแบบที่หลากหลาย ไม่มีวิธีการทางสถาปัตยกรรมที่แน่ชัด ซึ่งโดยมากในปัจจุบันเกิดจากรูปแบบและวิธีการสร้างของแต่ละร้านจำหน่ายศาลพระภูมิเป็นหลัก จะมีรูปแบบอย่างไรก็ได้ แต่ข้อสำคัญศาลพระภูมินั้นจะต้องเป็นศาลเสาเดียว แต่ถ้าเป็นศาลเจ้าที่หรือศาลอื่นๆ ก็มีหลายๆ เสา ทำให้เห็นถึงความแตกต่างว่าอันไหนศาลพระภูมิ อันไหนศาลเจ้าที่หรือศาลเทพารักษ์”
ส่วนในปัจจุบันที่มีการผลิตศาลพระภูมิรูปแบบแปลกใหม่ หรือเรียกว่าแบบทันสมัย หรือโมเดิร์น (Modern) นั้น ซึ่งบางคนก็ยอมรับได้ แต่บางคนก็ยังรู้สึกว่าเป็นรูปแบบที่ทำลายความเชื่อดั้งเดิมที่ศาลพระภูมิควรจะมีลักษณะเป็นปราสาทวิมานสำหรับเทวดา
“ในทางสถาปัตยกรรมนั้น เรื่องรูปแบบศาลพระภูมิแบบทันสมัยไม่มีความผิดแต่อย่างใดเลย เนื่องจากว่าศาลพระภูมิไม่มีรูปแบบ แล้วแต่ความพอใจของเจ้าของ จะเป็นแบบโมเดิร์นหรือปราสาทเป็นเรื่องการผลิตที่ไม่ตามใจเจ้าของบ้าน แต่ตามใจผู้ขาย จะรูปแบบอะไรก็แล้วแต่ พระภูมิท่านก็มาอยู่หมด เพราะเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมด้วย”
รศ.ดร.ผจญ คำชูสังข์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า เรื่องความเชื่อหรือศรัทธาก็ยังเหมือนเดิม แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่
สอดรับในเชิงธุรกิจมากกว่า การสร้างศาลที่ดูดีทันสมัยให้คนรุ่นใหม่ชอบ ทำให้สวย ปรับปรุงให้ดูดีเข้าท่าเสียหน่อย ไม่ใช่แบบโบราณเป็นทรงไทยอย่างสมัยก่อน สร้างแบบสมัยใหม่ก็สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ดูแปลกประหลาดดีแบบฝรั่ง
“ความจริงแล้วพูดตามหลักไม่ต้องมีศาลพระภูมิก็ได้ เพราะตามหลักพุทธมีพระพุทธรูปหรือพระพุทธเจ้าในบ้านก็พอแล้ว เพราะมีภูมิเทวดาอยู่แล้ว คือเทวดาที่ประจำอยู่ในพื้นดินต่างๆ แล้วก็มีรุกขเทวดาที่ประจำอยู่ตามต้นไม้ก็เชิญมาอยู่กับบ้านซึ่งใหญ่โตรโหฐานอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมองผ่านเทวดาต่างๆ ที่ประจำอยู่ ส่วนเรื่องศาลพระภูมิที่แหวกแหกออกไปออกแบบให้สวยงามก็เป็นเรื่องของการบริโภคนิยม ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปผสมผสานให้เข้ากัน ปรับตัวให้กลมกลืน ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้หลงเกินไป คือว่าตามปรัชญาจีนที่บอกว่า เชื่อพระเจ้าก็เชื่อได้ แต่ต้องปฏิบัติด้วย ทำอะไรก็ได้แต่อย่าลืมมนุษยนิยม ทำอะไรอย่าให้คนอื่นและตัวเองเดือดร้อน ไปซื้อศาลพระภูมิแพงๆ ทั้งที่ไม่มีเงิน อย่างนั้นไม่ได้ แต่ความเชื่อความศรัทธาก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล”
ธุรกิจศาลพระภูมิ
ตามประเพณีนิยมที่สืบทอดกันมาของร้านศาลพระภูมิที่ผลิตออกจำหน่าย สถาปัตยกรรมศาลพระภูมิรูปแบบดั้งเดิมก็จะเป็นทรง 4 ทิศ คือ ทรงพระราชวังบางปะอิน ทรงวัดเบญจมบพิตร ซึ่งนำมาย่อส่วนเน้นช่อฟ้าที่อ่อนช้อย และมีพัฒนาการเป็นทรงปราสาทแบบพระปรางค์ คือ พระปรางค์แบบลพบุรี แบบปรางค์สามยอด แบบพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม และที่ใหม่สุดก่อนจะเป็นยุคโมเดิร์นก็คือ ศาลทรงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่เลียนแบบมาจากศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่แม่กลอง สมุทรสงคราม
ภูมิพงศ์ หิรัญพฤกษ์ ศาลพระภูมิอินทรศิลป์ แถวโยธินพัฒนา เลียบทางด่วนรามอินทรา ที่มีสโลแกนของร้านว่า “เราสร้างวิมานแห่งเทพ” ซึ่งสานต่อขยายเครือข่ายธุรกิจศาลพระภูมิที่มีมา 60 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยอากง และคุณพ่อของภรรยา (ศิลป์ และชาตรี สิทธิอลังกานนท์)
“ผมเป็นรุ่นที่ 3 ซึ่งจริงๆ แล้วธุรกิจนี้รับมาทางครอบครัวภรรยาผม (วรชา หิรัญพฤกษ์) เพราะเดิมผมทำธุรกิจร้านอาหารไทยอยู่ที่ฟิลิปปินส์ และเคยเป็นนักแสดงเมื่อหลายปีมาแล้ว พอถึงจุดๆ หนึ่งที่พ่อตาเขาอยากพักผ่อนรีไทร์ ผมก็รับมา ซึ่งต้องถามว่าธุรกิจตอนนี้ดีมาก ธุรกิจขายศาลพระภูมินั้นขายได้ตลอด เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีเป็นอย่างไรเราก็ขายได้ แต่จะขายดีหรือไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะถ้าเศรษฐกิจดีมาก คนก็เปลี่ยนศาลพระภูมิใหม่ แล้วถ้าเศรษฐกิจไม่ดีล่ะ เขาก็ไปเรียกซินแสหรืออาจารย์มาดู ก็จะมีการบูรณะศาล หรือบางทีก็เปลี่ยนศาลพระภูมิใหม่”
ภูมิพงศ์ ยอมรับว่าธุรกิจแบบของเขาขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธา
“ถ้าอยากให้ธุรกิจดีแต่ไม่เคยไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ไม่เคยแม้จะจุดธูปบอกกล่าว บางคนไม่แม้แต่จะเชื่อ เพราะบอกว่าเป็นเรื่องงมงาย ซึ่งก็เป็นเรื่องแล้วแต่บุคคล ผมเลยบอกไงว่า ถ้าคุณเชื่อและศรัทธาเกี่ยวกับศาลพระภูมิ คุณก็ต้องไหว้เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทาง รุกขเทวดา สัมภเวสีได้อยู่ ผมและภรรยาใช้ประสบการณ์จากการที่เราเคยเป็นนักแสดงและทำธุรกิจร้านอาหารมาบ้าง เพราะฉะนั้นเราจึงอยู่กับการสื่อสารกับผู้คน ทำการตลาด ทำพีอาร์ เรามีแนวคิดใหม่ๆ และสนุกกับงาน ผมมีโปรโมชั่นตลอด ศาลพระภูมิของผมมีการบริการที่ดี ก่อนที่ผมจะโดดมาสู่ธุรกิจนี้ ผมศึกษาอยู่ 5 ปีเต็ม เรียนรู้เพื่อที่จะทำธุรกิจนี้ ผมลงภาคสนามเองกับลูกน้องเพื่อเอาใจลูกค้าถึงที่ ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การตลาดสมัยก่อนจะใช้ปากต่อปากบอกต่อกัน แต่ตอนนี้ใช้โซเชียลมีเดีย”
ศาลพระภูมิซื้อครั้งหนึ่งก็ยาวเป็น 20 ปีไปเลย ภูมิพงศ์จึงบริการการขายโดยใช้วิธีลงพื้นที่คุยกับลูกค้าที่ซื้อด้วยตัวเอง เอาใจใส่ในเรื่องการบริการ ลงพื้นที่ติดตั้งและทำพิธีบวงสรวงศาลพระภูมิของลูกค้าเอง จนพราหมณ์หลวงยอมรับ แน่นอน ศาลพระภูมิแบบทันสมัยหรือแบบสั่งทำแนวฮิปสเตอร์ไม่เหมือนใคร เขาก็มีให้บริการไม่ปฏิเสธ แต่ผลิตภายใต้พื้นฐานของโครงสร้างความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบร่ำโบราณ
“ร้านของผมอิงตำราเทคนิคการตั้งศาลจากพราหมณ์หลวงโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพระราชครูวามเทพมุนี พระครู หรือพราหมณ์หลายๆ ท่าน ผมไปหน้างานก็ไปถาม ไปศึกษา ไปเรียนรู้ ศาลพระภูมิแบบเดิมเราก็ขายมาตลอดเป็นหลายสิบปี เป็นพิมพ์นิยม ใครมาก็ต้องซื้อศาลรูปแบบนี้ ทุกวันนี้ก็ขายได้อยู่ ขายดีด้วย แต่ถามว่าทำไมเราต้องเปลี่ยนรูปแบบ จริงๆ แล้วก็เพราะความต้องการของลูกค้านั่นแหละ เราก็ต้องทำศาลพระภูมิโมเดิร์นขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่
“ศาลพระภูมิของเรายังอิงกับความเชื่อของศาลพระภูมิสมัยก่อนอยู่ ยังมีเสมา โคมไฟ มีจั่วของศาลพระภูมิ และยังมีเสาและความสูงที่ได้มาตรฐาน ยังมีรั้วล้อมรอบ ถ้าเป็นศาลพระภูมิก็ต้องมีประตูด้านหน้า แล้วก็มีหน้าต่างด้านข้าง ด้านหลังก็จะตันปิดทึบ เพราะฉะนั้นศาลพระภูมิโมเดิร์นของทางร้านก็ยังอยู่ในพื้นฐานความเชื่อของสูตรสร้างศาลพระภูมิสมัยก่อนอยู่ครบ และมีความเป็นไทยบ้างนิดหน่อย ทั้งสีและรูปแบบ ซึ่งส่วนสูงของศาลพระภูมิต้องสูงกว่า 2.6 เมตรขึ้นไป เพราะเวลายืนไหว้ พระบาทหรือเท้าของพระไชยมงคลก็ต้องอยู่เลยปากของคนไหว้ขึ้นไป อิงอยู่กับความเชื่อโบร่ำโบราณ ซึ่งบางร้านเขาไม่ถือตรงจุดนี้ แล้วศาลพระภูมิโมเดิร์นของเราก็จำหน่ายดีมาก”
ภูมิพงศ์ ยอมรับว่าไม่ใช่ร้านแรกที่คิดทำศาลพระภูมิโมเดิร์น แต่ศาลพระภูมิก็มีวิวัฒนาการมาอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง จากไม้มาเป็นปูน มาเป็นหินอ่อน แกรนิโต้ ศาลพระภูมิกระจกแวววาวก็มี เรื่องรูปแบบก็สืบทอดกันมา มียุค 4-5 ปีหลังที่แหวกแหกออกไปอยู่เช่นกัน
“ศาลพระภูมิสมัยใหม่นั้น อยู่ที่ความเชื่อความศรัทธา คนที่เขาผลิตเขาอาจจะเชื่อตรงนั้น ศาลพระภูมิถ้าคุณตั้งแล้วคุณไม่ไหว้ก็เป็นปูนอย่างหนึ่ง รูปแบบศาลพระภูมิทุกอย่างที่ออกแบบมาเป็นคอนโดบ้าง เป็นทาวน์เฮาส์ เป็นบ้านสมัยใหม่บ้าง ไม่ผิด แต่เป็นความเชื่อของเขา ศาลพระภูมิสมัยใหม่ขายดีมาก ผมสามารถดึงลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งมา เพราะรุ่นเก่าขายดีอยู่แล้ว ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่คิดว่าจะตั้งศาลพระภูมิ หรือหาที่ถูกใจยังไม่ได้ ผมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก มีเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานและมีข้อมูลแน่นถูกต้อง มีการสื่อสารทุกทาง คนไทย 100 คน ไม่ต่ำกว่า 50 คน ที่ไม่รู้เรื่องศาลพระภูมิ ศาลพระภูมิคือที่อยู่ของภูมิเทวดา รุกขเทวดา บูชาพระไชยมงคล ภูมิแปลว่าพื้นดิน ต้องตั้งศาลบนพื้นดินเท่านั้น ส่วนศาลพระพรหมคือศาลเทพ ต้องเปิด 4 ด้านเท่านั้น ไม่สามารถปิดด้านใดด้านหนึ่ง สำหรับศาลเจ้าที่กับศาลตายายคืออันเดียวกัน ส่วนใหญ่ผมจะทำ 4 ขา เจ้าที่เจ้าทางไม่ได้ต่างจากวิญญาณ แต่เราไหว้วิญญาณที่อยู่ในที่ของเรา ซึ่งสิงสถิตอยู่ไม่ได้ไปไหน คุ้มครองที่ตรงนี้อยู่ ถ้ามีบ้านผมก็แนะนำให้ตั้งพระภูมิและเจ้าที่ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเป็นโรงงาน ห้างร้าน หรือห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่มีธุรกิจใหญ่ๆ ก็แนะนำให้ตั้งศาลพระพรหมและเจ้าที่ หรือตั้งทั้ง 3 ศาลเลย ศาลเล็ก ศาลใหญ่อลังการอย่างไร อาจารย์ที่มาตั้งดังหรือเปล่า ยังไม่เท่าตัวเจ้าของไหว้ศาลทั้ง 3 ศาลหรือเปล่า อย่าเห่อแค่ 1 ปีแรก ต้องไหว้และดูแลให้สม่ำเสมอ”
ธุรกิจศาลพระภูมิของภูมิพงศ์ ในแต่ละปีมีรายได้หลายล้านบาท แบบทุกแบบรวมทุกขนาดมีให้เลือกกว่า 100 แบบ ไม่เฉพาะในไทย แต่ส่งออกศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ศาลเจ้าที่ไปทั่วโลก
“คนไทยอยู่ที่ไหนก็ส่งไปที่นั่น ศาลพระพรหมไม่เฉพาะคนไทย คนจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ก็เชื่อและศรัทธา เราส่งออกไปทั้งอเมริกา จีน ออสเตรีย ออสเตรเลีย มาเก๊า พม่า เวียดนาม การแข่งขันสูง พ่อตาผมบอกว่า จำไว้นะ ธุรกิจนี้บางคนเขาก็ดูถูก คนจะมองเราอีกแบบหนึ่ง ทำธุรกิจศาลพระภูมิมันน่าเบื่อต้องรอลูกค้า เฝ้าลูกค้า ต้องอยู่กับที่ ผมเอาสิ่งลบๆ เหล่านี้มาดัดแปลงให้เป็นด้านบวก สร้างแบรนด์ยกระดับให้น่าเชื่อถือมากขึ้น ดูแลและบริการลูกค้าอย่างดี
“ผมต้องบอกว่าผมไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ว่า คุณควรจะไหว้หรือไม่ไหว้ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณเชื่อและศรัทธาหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เชื่อและศรัทธา ผมแนะนำว่าไม่ต้องซื้อมาตั้งที่บ้าน ถ้าตั้งไปแล้วไม่ดูแลเอง มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับชีวิตคุณ หรืออาจจะแย่ลงก็ได้ หากเชื่อและศรัทธาบอกไว้ว่า ศาลพระภูมิจะถูกหรือจะแพง อาจารย์ตั้งศาลจะดังหรือไม่ดัง เครื่องบวงสรวงจะเยอะหรือไม่เยอะ ยังไม่เท่ากับตัวของลูกค้าไหว้ศาลหรือเปล่า คุณหมั่นไหว้ เปลี่ยนน้ำเปลี่ยนท่าไหม เช็ดศาลให้ท่านหรือเปล่า บูรณะศาลไหม ทำตรงนี้ก่อนแล้วสิ่งดีๆ จะตามมาเอง…”


