posttoday

อีกก้าวที่สวยงาม ดิออนน์ วอร์วิค

20 มกราคม 2558

53 ปีบนถนนดนตรี ดิออนน์ วอร์วิค เป็นเจ้าของ 5 รางวัลแกรมมี่ เธอขายผลงานได้มากกว่า 150 ล้านแผ่น มีเพลงเกือบ 60 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นชาร์ตความนิยม ศิลปินหญิงผู้นี้อยู่ยงคงกระพันมาถึงปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องเดินตามเทรนด์ดนตรีของโลก สำหรับอัลบั้มชุดใหม่ของเธออาจจะเป็นงานตามเทรนด์มากที่สุดเท่าที่เคยทำ ด้วยการจับมือกับน้องๆ ลูกๆ หลานๆ มาทำ Feels So Good ด้วยกัน

53 ปีบนถนนดนตรี ดิออนน์ วอร์วิค เป็นเจ้าของ 5 รางวัลแกรมมี่ เธอขายผลงานได้มากกว่า 150 ล้านแผ่น มีเพลงเกือบ 60 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นชาร์ตความนิยม ศิลปินหญิงผู้นี้อยู่ยงคงกระพันมาถึงปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องเดินตามเทรนด์ดนตรีของโลก สำหรับอัลบั้มชุดใหม่ของเธออาจจะเป็นงานตามเทรนด์มากที่สุดเท่าที่เคยทำ ด้วยการจับมือกับน้องๆ ลูกๆ หลานๆ มาทำ Feels So Good ด้วยกัน

ชื่อของ ดิออนน์ วอร์วิค นั้นอยู่คู่กับวงการดนตรีมานานกว่า 5 ศตวรรษ เธอมาจากครอบครัวนักร้อง ทั้งแม่ ป้า และลุงต่างก็เป็นสมาชิกของคณะนักร้องกอสเพลซึ่งมีผลงานบันทึกเสียงและมีชื่อเสียงในนิวยอร์ก ตัวดิออนน์เองเธอแสดงเดี่ยวครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบที่โบสถ์ในนิวเจอร์ซีย์ ก่อนจะเข้าร่วมวงกับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ

ในปี 1958 เธอกับพี่น้องตั้งคณะนักร้องขึ้นมา หลังมีงานแสดงและชนะการประกวดมาบ้าง พวกเธอมีโอกาสไปแบ็กอัพให้กับศิลปินดังมากมาย ไม่ว่าจะ ดริฟเตอร์ส, เจอร์รี บัตเลอร์, เอลวิส เพรสลีย์, อะรีธา แฟรงคลิน, โซโลมอน เบิร์ก ฯลฯ เสียงร้องของ ดิออนน์ วอร์วิค ไปสะดุดหูนักแต่งเพลงดัง เบิร์ต บาคารัค เข้า เขาจึงชักชวนเธอมาร้องเพลงตัวอย่างให้สังกัดฟัง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเธอคนนี้

ในปี 1971 เธอเซ็นสัญญามูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อย้ายไปอยู่ค่ายวอร์เนอร์ นับเป็นสัญญาที่มูลค่าสูงสุดของนักร้องหญิงในเวลานั้น ตลอดหลายทศวรรษต่อมา ดิออนน์ วอร์วิค ทำงานร่วมกับ เบิร์ต บาคารัค และ ฮัล เดวิด นักเขียนเนื้อเพลงคู่ใจ สร้างสรรค์เพลงฮิตเพลงดังออกมามากมาย คนอื่นๆ ที่เธอมีโอกาสทำงานด้วยก็รวมถึง แบร์รี มานิโลว์, แอนดี้ กิบบ์, ลูเธอร์ แวนดรอสส์, กลอเรีย เอสเตฟาน, โอลิเวีย นิวตัน-จอห์น, ไวนอนนา จัดด์, รีบา แม็คเอ็นไทร์ เป็นต้น

Feels So Good งานชุดที่ 28 ของ ดิออนน์ วอร์วิค วัย 73 ปี เกิดจากไอเดียของ เดมอน เอลเลียต ลูกชายคนที่ 2 ของ ดิออนน์ วอร์วิค ซึ่งทำหน้าที่โปรดิวเซอร์งานชุดนี้ด้วย จะเรียกอัลบั้มนี้ว่าเป็นงานครอบครัวก็อาจจะไม่ผิด เพราะลูกชายอีกคนของเธอคือ เดวิด มาร้องกับเธอในเพลง Windows of the World แถมยังมี ไชแอนน์ หลานสาวมาดูเอคในเพลง Let There Be Love

ศิลปินอื่นๆ ที่มาร่วมงาน เธอก็รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเป็นเด็กๆ ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น นี-โย, ไมอา, ซี-โล กรีน, ซินดี ลอเปอร์, บิลลี เรย์ ไซรัส, แกลดีส์ ไนท์, ซิกกี มาร์ลีย์ ฯลฯ งานอัลบั้มนี้เริ่มต้นที่เด็กๆ เลือกเพลงของ ดิออนน์ วอร์วิค ที่พวกเขาโปรดปราน “พวกเขาสามารถเลือกเพลงและเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆ เข้าไป” คุณย่าดิออนน์ บอกว่า “ยอดเยี่ยม” ที่ได้ทำงานกับเด็กๆ “มันยอดเยี่ยมที่พวกเขารู้ว่า ดิออนน์ วอร์วิค เป็นใคร พวกเขารู้จักเพลงดีๆ และรู้ว่าฉันเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดนตรีอย่างไร”

นี่นับเป็นงานชิ้นแรกที่เธอทำกับค่ายไบร์ท มิวสิค/คาโรไลน์ “ดนตรีทำให้โลกของฉันและโลกของดนตรีหมุนไป” ถ้าหากไม่ออกทัวร์หรือทำงานเพลง ดิออนน์ วอร์วิค ก็มีงานในบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งเธอกับคู่ชีวิต บรูซ การ์ริค ทำมานาน 30 ปีแล้ว “นั่นเป็นความลับที่ถูกเก็บไว้อย่างดี เป็นด้านที่แตกต่างของ ดิออนน์ วอร์วิค ซึ่งผู้คนจะได้รู้จัก”

เธออยากให้คนฟังได้สัมผัสกับความรู้สึกดีๆ ในงานนี้ด้วย “ฉันอยากให้คนรู้ว่า ไม่มีความแตกต่างในดนตรี ทุกๆ คนสามารถที่จะสัมผัสเข้าถึงดนตรีได้ ทุกๆ เพลงจะมีแค่ 8 บาร์ และทุกๆ คนก็ใช้มัน”

งานชุดนี้มีทั้งหมด 14 แทร็ก ส่วนใหญ่เป็นผลงานการประพันธ์ของนักแต่งเพลงคู่ขวัญ เบิร์ต บาคารัค และ ฮัล เดวิด ถึงจะร้องเพลงเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดิออนน์ก็ยังรู้สึกเสมอว่า เพลงของ เบิร์ต บาคารัค นั้นร้องยากมาก “โชคดีที่ฉันเรียนดนตรีมา และมีความสามารถ ขอบคุณพระเจ้า” นักร้องหญิงผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้เคยให้สัมภาษณ์ไว้

เสียงร้องของ ดิออนน์ วอร์วิค ในอัลบั้มนี้ยังคงอ่อนนุ่ม แสนหวาน และมีเสน่ห์ เธอร้อง Deja Vu กับ เจมี่ ฟอกซ์ ได้อย่างน่าหลงใหล หนึ่งในเพลงเด่นคือ The Windows of the World ซึ่ง ดิออนน์ วอร์วิค ยกย่องให้เป็นผลงานการเขียนเนื้อที่ดีที่สุดของ ฮัล เดวิด “เขามีมนต์ในถ้อยคำ และสามารถแปลความคิดและความรู้สึกออกมา ทำให้ง่ายสำหรับคนอื่นๆ ที่จะรู้สึกและคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่พิเศษมากๆ” ขณะที่อารมณ์สนุกอยู่ในเพลง Raindrops Keep Falling on My Head ซึ่งเธอร้องร่วมกับ ซิกกี้ มาร์ลีย์ ลูกชายของ บ็อบ ผู้ล่วงลับซึ่งเป็นเพื่อนของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ดิออนน์ได้ทำงานกลิ่นอายเร็กเก้

Feels So Good เป็นงานที่ทำให้เส้นทางดนตรีของชาว “(เบบี้) บูมเมอร์” และเจเนอเรชั่นต่อๆ มาได้พาดผ่านมาพบเจอกัน การได้ทำงานกับเด็กๆ ก็เปิดโลกของเธอให้กว้างขึ้น ศิลปินรุ่นหลังบางคนนั้นทำให้นักร้องดังถึงกับเซอร์ไพรส์ และงานชุดนี้ก็บอกกับเราว่า ดิออนน์ วอร์วิค กำลังจะผ่านอีกหนึ่งทศวรรษแห่งชีวิตและการทำงานของเธอไปแบบสวยๆ เก๋ๆ

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย