posttoday

ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ อาศัยศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิต

13 มกราคม 2558

หลังจากเรียนจบปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เหมือนชีวิตของ ป้อง-ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา

หลังจากเรียนจบปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เหมือนชีวิตของ ป้อง-ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า และผู้บริหารแบรนด์ฮ็อทสตาร์ เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ที่ต้องตัดสินใจระหว่างกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว หรือไปต่อในสายงานด้านที่ปรึกษา วางกลยุทธ์ ซึ่งเป็นอีกงานที่รัก แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเดินหน้าทำงานที่รักภายใต้ธุรกิจของครอบครัว

“จริงๆ ที่บ้านผมไม่ได้บังคับนะว่าต้องเรียนอะไร หรือเรียนแล้วต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน แต่เพราะตอนที่ผมเรียนจบปริญญาโท พี่สาว 2 คนของผม ซึ่งเข้ามาช่วยบริหารงานกิจการของที่บ้านแล้ว ชักชวนให้ผมเข้ามาช่วยงาน โดยให้ผมเข้ามาดูแลในส่วนวิจัยและพัฒนาสินค้า (อาร์แอนด์ดี) ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพมาตรฐานของแบรนด์และมองหาแบรนด์ใหม่ๆ มาเสริมทัพให้กับบาร์บีคิวพลาซ่า ผมโอเคกับส่วนงานที่จะเข้ามาดูแล เพราะตอนเรียนปริญญาตรี ผมจบด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Science) มาอยู่แล้ว ส่วนสายงานด้านวางกลยุทธ์ เป็นที่ปรึกษาให้กับแบรนด์ที่ผมสนใจ ผมก็ยังได้ทำ”

ด้วยหน้าที่ที่ต้องมองหาแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาขยายธุรกิจของบาร์บีคิวพลาซ่านี้เอง เมื่อเร็วๆ นี้ ป้องเลยสวมอีกบทบาทในฐานะผู้บริหารแบรนด์ฮ็อทสตาร์ แบรนด์ไก่ทอดจากไต้หวันที่มีไฮไลต์คือ ขนาดของไก่ไซส์บิ๊ก ป้องบอกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เขามองหาแบรนด์ที่น่าสนใจ เข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทย และมาเติมเต็มธุรกิจของบาร์บีคิวพลาซ่า ในที่สุดมาลงตัวที่แบรนด์นี้

ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ อาศัยศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิต

 

“ผมหาแบรนด์จากทั้งญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย แต่สุดท้ายมาจบที่ไต้หวัน ถามว่ารู้จักแบรนด์นี้มาก่อนมั้ย เคยได้ยินครับ มีเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า ถ้ามาไต้หวันต้องมากินที่นี่ เป็นแบรนด์ที่ขายตามศูนย์รวมวัยรุ่นของเขา อารมณ์เหมือนสยามสแควร์บ้านเรา เป็นสตรีท ฟู้ด ซึ่งเรายังรักษาคอนเซ็ปต์นั้นไว้ ควบคู่กับการทำให้เป็นไลฟ์สไตล์ คาเฟ่ สำหรับมานั่งกินสแน็ก หรือแฮงเอาต์กับเพื่อน”

แน่นอนว่าการดูแล 2 แบรนด์ไปควบคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ป้องบอกว่ามาถึงตรงนี้ก็พอใจ เพราะช่วงที่เรียนถึงจะไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งต้องกลับมาช่วยที่บ้าน แต่ในฐานะคนที่โตมากับธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า ทำให้เขารู้ศักยภาพของแบรนด์ และมีหลายอย่างที่คิดว่าสามารถปรับปรุงและช่วยพัฒนาแบรนด์ต่อไปได้ ดังนั้นพอต้องเข้ามาทำงานจริง จึงไม่ต้องปรับตัวมากเพราะรู้จักแบรนด์ดี

“ด้วยภาระงานตอนนี้ เวลาว่างก็หายากครับ แต่ผมพยายามจะแยกงานคืองาน เวลาส่วนตัวคือเวลาส่วนตัว ไม่เอามาปะปนกัน ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาช่วยงานที่บ้าน ด้วยความที่บ้านเราอยู่ใกล้กับบริษัท เราพี่น้องทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็น กลับมาบ้านบนโต๊ะอาหารก็ยังคุยงานกันต่อ จนมาถึงจุดหนึ่ง ผมคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพของทุกคนในบ้านแน่ เลยคุยกันใหม่ว่าเรื่องงานให้จบในเวลางาน ผมว่าคนเราถ้าคิดเรื่องงานตลอดเวลา พักผ่อนไม่เต็มที่ ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เหมือนกัน”

ถามถึงหลักการทำงาน ป้องบอกว่า แค่ยอมรับความเห็นที่แตกต่างของทุกฝ่าย เวลามีปัญหา เขาจะบอกกับตัวเองว่า ทุกปัญหามีทางออก ถึงไม่ใช่ทางที่เราคิดหรือวางแผนไว้แต่ต้นก็ตาม เพียงแค่เราไม่ท้อ มองหาทางออกไปเรื่อยๆ ย่อมเจอในที่สุด

ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ อาศัยศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิต

 

“ไอดอลในชีวิตผม ยกให้คุณพ่อคุณแม่ แต่ก่อนตอนเป็นเด็ก บางครั้งผมอาจไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านสอน แต่พอโตขึ้นเข้ามาทำงาน ผมชื่นชมคุณพ่อคุณแม่นะ ท่านสร้างธุรกิจของครอบครัวขึ้นมาได้ แถมยังแบ่งเวลาทั้งทำงาน บริหารลูกน้องและเลี้ยงดูลูกได้อย่างไม่บกพร่อง

พูดถึงไลฟ์สไตล์วันว่าง ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง บอกว่า ถึงจะดูเป็นหนุ่มนักบริหาร เรียนสายวิทย์ แต่ตั้งแต่สมัยเรียน เขาชอบบาลานซ์ระหว่างศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน บางคนมาสายเรียนก็เอาดีทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ แต่ของเขา 3 วิชาที่ทำคะแนนได้ดีคือ อะนาโตมี (กายวิภาคศาสตร์) ดนตรี วิชาปั้น  

“ผมฉีกแนวเอาทั้งวิทย์และศิลป์ ผมว่าสองอย่างนี้พอมารวมกัน เป็นประโยชน์มากนะ ทุกวันนี้ มีเวลาว่าง ผมจะวาดรูปสีน้ำ การเขียนอักษรวิจิตร (Calligraphy) ด้วยพู่กันจีน หรือใช้ปากกาคอแร้ง ผมว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้ผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ แต่ถ้ามีเวลาจริงๆ ผมจะไปดำน้ำ อย่างปีที่แล้วก็ไปดำที่มัลดีฟส์ ทุกครั้งที่ลงไปใต้น้ำ ผมรู้สึกเหมือนเราได้หลุดไปอีกโลกหนึ่ง”

สำหรับเป้าหมายในอนาคต นอกจากรับผิดชอบงานในภาระหน้าที่ให้ดี บาลานซ์เรื่องงานและส่วนตัวได้อย่างลงตัวแล้ว อีกหนึ่งความฝันที่อยากทำให้เป็นจริง คือ อยากทำโปรเจกต์เกี่ยวกับการศึกษา

“ช่วงเรียนปริญญาโท ผมมีโอกาสได้สอนพิเศษ เป็นติวเตอร์น้องๆ ประถมถึงมัธยม ผมมีความสุขมาก ชอบนะ ผมชอบสอนคนอื่น ผมภูมิใจที่ได้เห็นนักเรียนของเราพัฒนาตัวเอง เรียนดีขึ้น เสียดายที่ช่วงหลังๆ ไม่มีเวลาเลยไม่ได้สอนแล้วครับ ส่วนโปรเจกต์ที่อยากทำด้านการศึกษา ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างคิดโมเดลครับ” ป้องกล่าวทิ้งท้าย

ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ อาศัยศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิต