น้ำตกห้วยหลวง สายน้ำนอกสายตา
เคยไหม เล่นน้ำตกริมชายหาดที่ “น้ำตกห้วยหลวง” อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี
เคยไหม เล่นน้ำตกริมชายหาดที่ “น้ำตกห้วยหลวง” อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี น้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง
ถือว่าเป็นโชคชะตาที่ได้มาเจอะเจอน้ำตกห้วยหลวง เพราะตามแผนเดิมไม่มีบรรจุอยู่ในกำหนดการ แต่หลังจากอกหักจากผามออีแดงที่ปิดถนนจัดงานก็หันหัวเรือมาที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ตอนนั้นเป็นช่วงเช้าตรู่ อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลย เจ้าหน้าที่ยังไม่เข้าประจำการ ยังดีที่มีคนเปิดทางให้เข้าชมน้ำตกพอให้ผู้มาเยือนที่เพิ่งผิดหวังมาหมาดๆ พอได้กระชุ่มกระชวยใจแม้ว่าจะเป็นการต้อนรับอย่างไม่เป็น
ทางการก็ตาม
ภาพน้ำตกห้วยหลวงไม่เคยมีอยู่ในเมโมรี แต่จากที่ได้เห็นจากภาพนิทรรศการตรงทางลงน้ำตกแล้วทำให้เกิดความคาดหวังขึ้นมาทันใด ข้อมูลบันทึกไว้ว่า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำน้ำห้วยหลวงไหลผ่านหน้าผาที่มีความสูงประมาณ 45 ม. (หรือตึก 15 ชั้น) สู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีหาดทรายขาวและปลาชุกชุม สายตาหยุดชะงักแล้วกลับไปอ่านประโยคก่อนหน้าอีกรอบ “หาดทรายขาว” อ่านได้เพียงเท่านั้นก็ไม่อยากรู้ต่อเพราะขาทั้งสองไม่ยอมหยุดแค่ปากทางเข้าแล้ว
น้ำตกห้วยหลวงอยู่ด้านล่างของที่ทำการอุทยานฯ ทางลงถูกทำเป็นขั้นบันไดหินไล่ระดับตามความชัน แต่เดินไปไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ยินเสียงคนตะโกนแว่วมาว่า “เห็นน้ำตกแล้ว” แวบแรกที่คิด “น้ำตกผาสูง 45 ม. อยู่ใกล้แค่นี้เองหรือ” แต่ก็เป็นไปตามนั้น จากจุดชมวิวมองเห็นน้ำตกห้วยหลวงแล้วจริงๆ แต่อยู่ไกลสุดสายตาขนาดว่าเห็นน้ำตกทั้งสายเท่าน้ำก๊อก ไม่เพียงเท่านั้นจากจุดที่ยืนเล่นทำขาสั่น ไม่ใช่เพราะสูงหรืออย่างไร แต่เพราะหนทางยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงหาดทรายขาวที่ฝันถึง
สองเท้าก้าวลงบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า ขั้นแล้วขั้นเล่า แข้งขายังเป็นมิตรกับความนึกคิด อยากลงเร็วแค่ไหนก็ก้าวจ้ำๆ ระหว่างทางจะผ่านถ้ำบักเตว ตามตำนานชายชื่อเตวมาตีผึ้งที่น้ำตกแต่ไม่ขอเจ้าที่ จึงเกิดอาเพศตกน้ำตกตาย เมื่อเลยถ้ำไปจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความชื้นของป่า เวลาก้าวขาก็ต้องหนักแน่นไม่ให้เสียท่าตะไคร่น้ำ
บันไดขั้นสุดท้ายคือ ต้นทางสู่หาดทรายสีไม่ขาว และน้ำตกขนาดใหญ่แต่น้ำน้อย ทุกสิ่งดูไม่เหมือนในภาพที่อุทยานฯ ชวนให้เชื่อ แต่ก็ไม่เจ็บใจหรือเสียใจ แค่เสียดายที่มาผิดฤดูกาล น้ำตกห้วยหลวงในวันนั้นสวยงามไปอีกแบบ แบบน้ำตกหน้าแล้งที่ยังมีความสุข ส่วนหาดทรายขาวที่ฝันถึง ถึงแม้จะไม่ขาวสมชื่อแต่ก็เป็นหาดทรายตามธรรมชาติของแท้ เป็นทัศนียภาพที่ขัดกับชุดความคิดที่ว่าทรายต้องคู่กับทะเล ซึ่งดูเหมือนว่าน้ำจืดจากยอดเขาจะให้ความรู้สึกสดชื่นกว่าน้ำเค็มด้วยซ้ำ
เมื่อตักตวงบรรยากาศและรับความชุ่มชื้นของไอน้ำที่คลุ้งอยู่ในอากาศจนเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลากลับไปชดใช้ในสิ่งที่ทำมา “เดินขึ้นบันได” เส้นทางไป-กลับคือเส้นเดียวกันนั่นคือลงมาทางใด ก็กลับไปทางนั้น แวบแรกที่เข้ามาในหัวคือคำพระท่านว่า “กรรมคือผลของการกระทำ”ตอนนี้ได้ปรากฏชัดแจ้งแล้วกับตัวเองแล้ว ขาลงใช้เวลาเพียง 15 นาที แต่ขาขึ้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว พร้อมความสั่นรัวของแข้งขาและปริมาณเม็ดเหงื่อใต้ร่มผ้าที่กำลังไหลย้อยเหมือนน้ำตก
เรื่องที่เกิดขึ้นนอกแผนการมักสนุก เพราะมันเป็นสิ่งที่ปราศจากความคาดหวังใดๆ สิ่งที่ได้รับจึงเหมือนเป็นความโชคดีในโชคร้าย บ้างอาจพบสุข บ้างอาจเจอทุกข์ แต่มันก็เป็นรสชาติของการเดินทาง
และการท่องเที่ยวมิใช่หรือ


