posttoday

รู้จัก ‘สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์’ ศูนย์กลางผลิตแพทย์แห่งใหม่

10 มกราคม 2558

อาคารขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 319 ไร่ ริมถนนคู่ขนานคลองชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการ

อาคารขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 319 ไร่ ริมถนนคู่ขนานคลองชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการ กำลังจะถูกเนรมิตขึ้นเป็น “สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์” โครงการใหม่ของคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี ซึ่งจะเป็นทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อรองรับประชากรใน จ.สมุทรปราการ และภาคตะวันออกทั้งหมด รวมถึงเป็น “โรงเรียนแพทย์” ผลิตหมอออกรับใช้สังคมไทยเพิ่มเติม

ศ.นพ.วินิต พัวประดิษฐ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี เล่าให้ฟังว่า แนวคิดสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เกิดขึ้นจากพระราชปรารภและพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้มีสถานพยาบาลขนาดใหญ่ ระดับโรงเรียนแพทย์ ที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้บริการประชาชนที่ย้ายถิ่นฐานจากต่างจังหวัดมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่มากกว่า 1,000 โรงงาน โดยโครงการดังกล่าวมีศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นฐานะประธานที่ปรึกษาฯ

คุณหมอวินิต ให้ภาพง่ายๆ ว่าสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ใหญ่ประมาณ 1 เท่า ของอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ หรือเมื่อเทียบขนาดอาคารแล้วก็ประมาณ 2 แสน ตร.ม. หรือใหญ่เท่ากับสยามพารากอน โดยจะมีส่วนของโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ อย่างบูรณาการ อาทิ ส่วนบริการผู้ป่วยนอกผู้ป่วยฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องคลอด ห้องสวนหัวใจ หอผู้ป่วยหนัก รวมถึงหอผู้ป่วยในจำนวน 400 เตียง และส่วนสนับสนุนต่างๆ ครบถ้วน ขณะเดียวกันก็จะมีส่วนการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ เพื่อรองรับการเรียนการสอน ซึ่งนักศึกษาแพทย์จากรามาธิบดีจะย้ายมาเรียนที่นี่กว่า 80%

“นอกจากนี้ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ยังดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาและการวิจัย เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพสาขาต่างๆ ที่มีศักยภาพที่สุดในประเทศไทย 2.ศูนย์การแพทย์และเครือข่ายบริการทางการแพทย์ เพื่อให้บริการทางการแพทย์ทุกระดับ 3.อุทยานการเรียนรู้และศูนย์สุขภาพชุมชนต้นแบบ” ศ.นพ.วินิตเล่าให้ฟัง

ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์จะช่วยโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชนในเขตสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้เริ่มหนาแน่นไม่เพียงพอต่อการรับรองผู้ป่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นจำนวนมากจากโรงงานอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็จะเป็นศูนย์เครือข่ายส่งต่อ 8 จังหวัดของจังหวัดชายทะเลภาคตะวันออก และยังเป็นศูนย์กลางวิชาการหรือเป็นโรงพยาบาลพี่เลี้ยงให้กับโรงพยาบาลโดยรอบ

“ขณะนี้เรามีกรอบอัตราบุคลากร 1,600 คน มีหมออยู่กว่า 100 คน เทียบเท่าโรงพยาบาลจังหวัด โดยเราเตรียมจัดตั้งศูนย์อุบัติเหตุ ศูนย์ผู้สูงอายุ ศูนย์โรคหัวใจและศูนย์บริการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการสร้างภาพเหมือนจริง แต่ศูนย์เฉพาะทางในการรักษาโรคยากๆอย่างผ่าตัดเปลี่ยนตับ-ไต ไขกระดูก ก็จะอยู่ที่พระราม 6เหมือนเดิม ซึ่งหากโรงพยาบาลรามาฯ คนไข้แน่น ก็อาจจะย้ายไปดูแลรักษาที่นี่ได้” คุณหมอวินิตเล่าให้ฟัง

ส่วนใครที่หวังจะรับบริการ “คลินิกพรีเมียม” นั้น คุณหมอบอกว่า สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จะไม่เน้นในส่วนนั้น โดยอาจจะกันพื้นที่แค่ประมาณ 1 ใน 10 ของโรงพยาบาล โดยจะใช้คำว่า “คลินิกอาจารย์แพทย์” แทนพรีเมียม ซึ่งเหตุที่ต้องทำเพราะส่วนหนึ่งก็จำเป็นต้องหารายได้เข้าโรงพยาบาลและรักษาบุคลากรไม่ให้ไหลไปยังโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการบริการที่สูงกว่าปกติ พร้อมกับยืนยันว่า บริการพิเศษเหล่านี้จะมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดไม่ให้กระทบกับคนไข้สามัญแน่นอน

“ในอนาคตภูมิภาคตะวันออกจะกลายเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อมีการเปิดตลาดการค้าเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียน ปี 2558 สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จึงคาดหวังในการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนให้มีมาตรฐานคุณภาพสูงสุด โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการแก่ประชาชนได้ในปี 2560” ศ.นพ.วินิต ระบุ

ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ใช้งบประมาณในการจัดสร้างทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินแล้ว 4,000 ล้านบาท และยังได้รับสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกกว่า 3,000  ล้านบาท คุณหมอจึงชวนผู้ใจบุญทั้งหมดร่วมกันบริจาคเพื่อช่วยให้อาคารแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์อีก 5,000 ล้านบาทโดยผู้ที่สนใจสามารถบริจาคได้ที่มูลนิธิรามาธิบดีฯโทร.  02-201-1111 และเว็บไซต์ www.ramafoundation.or.th

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"