ขนมกับธรรมชาติ ของ อรณิชา ชุณหศรี
เชฟนัยน์ตาหวานคม “อรณิชา ชุณหศรี” หรือ เชฟหวาน มิเพียงสวยน่ารักเท่านั้น แต่ฝีมือการทำขนมของเธอช่างอร่อยเลิศเหลือ
เชฟนัยน์ตาหวานคม “อรณิชา ชุณหศรี” หรือ เชฟหวาน มิเพียงสวยน่ารักเท่านั้น แต่ฝีมือการทำขนมของเธอช่างอร่อยเลิศเหลือ เชื่อว่าใครได้ชิมแล้วระวังจะถอนตัวไม่ขึ้น (ขอบอก)
ก็จะไม่ให้อร่อยได้อย่างไร ในเมื่อที่บ้านคุณแม่ (สุวรรณา ชุณหศรี) ทำขนมขายมา 30 กว่าปี ถ้าเอ่ยชื่อ “ร้านขนม” (ชื่อร้านนี้เลย) คอขนมย่อมรู้จักดีในรสชาติความอร่อยและสะอาดตั้งแต่ร้านอยู่สุขุมวิท 71 กระทั่งย้ายมาปักความหวานที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านสัมมากร รามคำแหง 110 ปัจจุบันลูกค้าเก่าก็ยังตามมาอุดหนุน ลูกค้าใหม่ก็เพิ่มพูนจนต้องขยายสาขาที่ 2 ที่เมกาบางนา ขณะเดียวกันรายการทีวีดังๆ เช่น เปรี้ยวปาก วีไอพี ยังมาถ่ายทำสัมภาษณ์ที่ร้านการันตีความอร่อย
ขณะเชฟหวานเองก็ใช่ย่อย ทำขนมเป็นตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนจากสถาบันหรือโรงเรียนสอนทำขนมชื่อดังมาก่อน แต่เริ่มจากความชอบส่วนตัวและรักที่จะทำขนมด้วยวิธีที่เรียกว่า ครูพักลักจำบ้าง คุณแม่สอนบ้าง แต่วิธีที่สำคัญคือ การหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการทำขนมจากหนังสือและค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นพรแสวงของเธอ
เมื่อถามว่าเริ่มทำจริงจังตอนไหน เชฟบอกว่า ตั้งแต่ช่วงใกล้จบมหาวิทยาลัยจนถึงวันนี้ ความรู้ก็มาจากหนังสือ ในอินเทอร์เน็ต บางทีคุณแม่สอน อันไหนที่ทดลองทำแล้วไม่ได้ก็ไปเข้าคอร์สสั้นๆ วันเดียวจบ จากนั้นก็มาฝึกทำบ่อยๆ ปัจจุบันกำลังจะมีร้านขนมของตัวเอง ชื่อร้าน “Flowerpot Cafe” อยู่ที่ทาวน์อินทาวน์ ในซอยนวศรี ตรงข้ามสถาบันรัชต์ภาคย์ ถนนรามคำแหง 21 เป็นร้านสไตล์คาเฟ่ที่มีพื้นที่ให้ลูกค้าได้มานั่งจิบกาแฟและรับประทานขนมอร่อยๆ ในบรรยากาศร้านที่เป็นธรรมชาติ เพราะร้านจะอยู่ในร้านที่ขายดอกไม้ต้นไม้ คาดว่าจะเปิดร้านได้ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ. 2558
“หวานจบการโรงแรมและท่องเที่ยว อินเตอร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มา 5 ปีแล้ว เลือกด้านนี้เพราะคิดอยากจะทำรีสอร์ท ปัจจุบันความคิดนี้ยังอยู่นะ แต่มองว่ายังไม่ถึงเวลา จึงขอทำสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนก็คือทำขนม ตอนนี้ดูแลร้านของครอบครัว ขณะเดียวกันก็ทำขนมในแบบที่ตัวเองชอบและถนัด แตกไลน์ออกไปทำร้านขนมคนละสไตล์กับร้านเดิมซึ่งก็คือร้าน Flowerpot Cafe ที่จะเปิดในช่วงต้น ก.พ. 2558”
ทายาทร้านขนม เล่าต่อว่า เดิมร้านมีเมนูขนมมากถึง 60-70 รายการ มีทั้งเมนูที่เป็นของหวานและของคาว แต่ส่วนใหญ่ออกแนวของคาว เช่น ค็อกเทลกุ้ง พายไก่ ทูน่า และอื่นๆ ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 12 บาทขึ้นไป แต่เมื่อเพิ่มในส่วนขนม ซึ่งจะแตกต่างจากขนมในร้านในด้านของราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากใช้วัตถุดิบราคาแพงและลูกค้าก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง
เธอยอมรับว่า ความผิดพลาดในการทำขนมเคยเกิดขึ้นบ่อยในช่วงแรกๆ เช่น บางครั้งทำไม่ได้ตามออร์เดอร์เพราะลืมขั้นตอนบางอย่างทำให้ต้องทิ้งไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลถือเป็นประสบการณ์ให้ได้เรียนรู้และระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำสอง
ท้ายของการพูดคุยกันวันนี้ เชฟหวานได้ฝากเมนูอร่อยๆ และขายดีมากในตอนนี้คือ “เค้กกระถาง” มาให้ท่านผู้อ่านได้นำไปทดลองทำกินที่บ้าน แต่ถ้าขี้เกียจทำอยากชิมฝีมือของเชฟคนสวยโดยตรง ก็ต้องไปที่ร้านขนม หรือไม่ก็รอเธอเปิดร้านใหม่ค่อยไปอุดหนุน บอกได้เลยว่า เค้กกระถางนี้บอกถึงตัวตนของเธอที่เป็นคนรักธรรมชาติเป็นอย่างดี แม้ร้านที่จะเปิดใหม่ก็อยู่ในร้านขายต้นไม้ ตกแต่งด้วยสไตล์ธรรมชาติกกระถาง
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงโกโก้ 25 กรัม
- โซดา 1/2 ช้อนชา
- ผงฟู 1/4 ช้อนชา
- ไข่แดง 2 ฟอง
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- น้ำตาล (1) 90 กรัม
- น้ำตาล (2) 45 กรัม
- น้ำมันพืช 70 กรัม
- นมข้นจืด 75 กรัมทำ
1.นำแป้ง โกโก้ โซดา ผงฟูร่อนรวมกัน 2 รอบ
2.ตีไข่แดง+น้ำตาล 90 กรัม ให้ขึ้นฟูระดับหนึ่งแยกไว้
3.เติมน้ำมัน นมข้นจืด ลงในส่วนผสมในข้อ 2
4.ตีไข่ขาว+น้ำตาลทราย 45 กรัมให้ฟูเป็น Soft Peak
5.นำส่วนผสมของไข่ขาวตีขึ้นฟูแล้วตะล่อมลงในส่วนผสมของไข่แดงผสมจนเข้ากันดี เทใส่พิมพ์อบ 175 องศา 25 นาที
ส่วนประกอบ ครีม Fudge
- นมข้นจืด 200 กรัม
- น้ำเปล่า 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- ผงโกโก้ 50 กรัม
- ผงวุ้น 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 40 กรัม
- นมข้นจืด 150 กรัม
- เนยจืด 150 กรัม
1.นำส่วนผสม นมข้นจืด น้ำเปล่าน้ำตาลทราย ผงโกโก้ ผงวุ้น ไปตั้งไฟคนจนละลาย
2.ผสมแป้งข้าวโพด นมข้นจืดให้
เข้ากันแล้วเทลงไปในข้อ 1
3.กวนจนส่วนผสมข้นขึ้น ยกลงจากเตา
4.ใส่เนยจืดคนให้เข้ากัน
การประกอบเค้กลงกระถาง
1.ใส่เนื้อเค้กลงไปในกระถาง
2.เสร็จแล้วเทน้ำ Soft Fudge ลงไป
3.โรยหน้าด้วยโอริโอ้บดและตกแต่งให้สวยงามด้วยดอกไม้


