โฮลอินวัน เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ
เปิดประตูสู่วัฒนธรรมร่วมสมัยของเลอ เมอริเดียน ที่กอล์ฟรีสอร์ทแห่งแรกของแบรนด์
เปิดประตูสู่วัฒนธรรมร่วมสมัยของเลอ เมอริเดียน ที่กอล์ฟรีสอร์ทแห่งแรกของแบรนด์ “เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา” รีสอร์ท 5 ดาวแห่งแรกที่อยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมากที่สุด
วัฒนธรรมของเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ รับรู้ได้ตั้งแต่ก้าวแรกกับล็อบบี้ที่ถูกตีความใหม่ให้เป็น “เลอ เมอริเดียน ฮับ” สถานที่พบปะทางสังคม และต้อนรับแขกด้วยวัฒนธรรมกาแฟ โดยมี “มาสเตอร์ บาริสต้า” ทูตวัฒนธรรมกาแฟ ผู้ริเริ่มกิจกรรมกาแฟและให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์กาแฟที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น บริเวณฮับมีบาร์เครื่องดื่มชื่อเก๋ ละติจูด 13 องศา 39 ลิปดา เป็นบาร์แบบทูอินวัน คือแปลงโฉมร้านกาแฟสไตล์ยุโรปในช่วงกลางวันให้เป็นบาร์สำหรับเครื่องดื่มประเภทสปาร์กกลิ้งในช่วงกลางคืน ซึ่งจะมีเครื่องทำกาแฟดริปเย็นที่ไม่เคยพบที่ไหนให้บริการกาแฟเย็นแบบไม่ต้องใส่น้ำแข็งให้ลิ้มลอง
รีสอร์ทยังประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง ได้แก่ งานศิลปะขนาดใหญ่ในบริเวณสำคัญๆ ซึ่งโครงสร้างอาคารเองก็ถือว่าเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งเป็นลักษณะของเรือสำเภาที่กำลังลอยลำบนน้ำที่ล้อมรอบตัวรีสอร์ท ประสบการณ์น่าประทับใจทั้งในรูปของประติมากรรม เสียง และแสง โปรแกรมอันล็อก อาร์ต ชื่อเรียกการ์ดเข้าห้องพักที่ออกแบบโดยศิลปิน และเพลงประกอบ 24 ชม. ซึ่งรวบรวมโดยวงบอสซาโนวาจากฝรั่งเศส ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้เลอ เมอริเดียน มีวัฒนธรรมของตัวเอง
โรงแรมตั้งอยู่ริมสนามกอล์ฟ 18 หลุม ซัมมิท วินด์มิลล์ กอล์ฟ คลับ ระดับไฮเอนด์ ทำให้มีทัศนียภาพของสนามหญ้าเขียวตลอดปี ทะเลสาบ เนินเขา และสนามทราย โดยห้องพักทั้ง 223 ห้องจะหันหน้าออกสู่สนามกอล์ฟ ห้องพักแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ แกรนด์ ดีลักซ์ห้องพักระดับเริ่มแรกที่มีขนาด 48 ตร.ม. ภายในห้องมีห้องน้ำขนาดใหญ่ อ่างอาบน้ำ ห้องนอน โต๊ะทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน แกรนด์ เอ็กเซ็กคิวทีฟ, แกรนด์ สวีท และเพรสซิเดนเทรียล สวีท ที่ใหญ่ถึง 220 ตร.ม. มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และระเบียงกว้างพร้อมสวนหย่อมริมธารน้ำของสนามกอล์ฟ
นอกจากนี้ รีสอร์ทยังเน้นไปที่การประชุมสัมมนาด้วยทำเลที่ตั้งกลางเมืองใหม่ที่คึกคักไปด้วยหน่วยงานและบริษัทขนาดใหญ่ รองรับด้วยห้องประชุมในร่ม 7 ห้องซึ่งหากรวมกันจะมีขนาด 740 ตร.ม. และยังมีบริการบิซิเนส เซ็นเตอร์ ที่พร้อมใช้งานตลอด 24 ชม. ส่วนห้องอาหารมีทั้งอาหารอิตาเลียนที่ ฟาโวร่า (Favola) โดยเชฟที่ได้รับรางวัลชาวอิตาลี และอาหารนานาชาติที่ เลตเทสต์ เรสสิพี (Latest Recipe) ให้บริการตลอดวันโดยเน้นไปที่อาหารไทยแบบดั้งเดิมโดยพ่อครัวใหญ่ชาวไทย
สำหรับใครที่กำลังคิดถึงเสียงเครื่องบินอันน่ารำคาญ ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ อยู่ใกล้สนามบินก็จริง แต่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินเลยจริงๆ


