ไอวี่และตีนตุ๊กแก
สำหรับชาวต่างประเทศแล้วความนิยมตกแต่งบ้านด้วยไม้ดอกไม้ประดับเป็นเรื่องจำเป็น
สำหรับชาวต่างประเทศแล้วความนิยมตกแต่งบ้านด้วยไม้ดอกไม้ประดับเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งภายในอาคารด้วยพืชเขตร้อนต่างๆ ดูเป็นที่นิยมกันมาก แต่จะว่าไปชาวเอเชียยุคปัจจุบันก็ให้ความนิยมกับการทำสวน การตกแต่งบ้านทั้งภายนอก ภายในด้วยพืชพรรณไม้ ดอกไม้ประดับอยู่ไม่น้อย
สำหรับฉบับนี้ผู้เขียนจึงนำเอาเรื่องของไม้เลื้อยประดับบ้านสักสองสามชนิดมาพูดถึง โดยจะขอกล่าวถึงเรื่องของไอวี่ ซึ่งเป็นไม้เถาเลื้อยจากเขตอบอุ่น แต่กลับมาขึ้นอยู่ได้ดีตามสมควรในเขตร้อนหรือเขตที่สูงซึ่งมีอากาศเย็นชื้น เช่น เพชรบูรณ์ เลย เชียงใหม่ เชียงราย ฯลฯ ไอวี่ในที่นี้หมายถึงทั้งอิงลิชไอวี่ (Hedera helix) และคานารี ไอวี่ (H.canariensis) ซึ่งมีพันธุ์ใบด่างออกมาแปลกๆ ใหม่ๆ มากมาย แต่ส่วนใหญ่มักมีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กัน คำว่าไอวี่นั้นมีชื่อสกุล (genus) ว่า Hedera อยู่ในวงศ์เดียวกับหนวดปลาหมึกหรือหนุมานประสานกาย (Scheffleras) และต้นเล็บครุฑ (Polyscias) ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
ไอวี่จัดเป็นไม้เถาเลื้อย (climbing vines) ซึ่งส่งรากมายึดเกาะกับผิวก้อนหิน ผาผนังปูน กำแพงอิฐ หรือลำต้นไม้ใหญ่ได้ดี เถาของไอวี่นี้หากเราให้ยึดเกาะกับหลักไม้ระแนงสูงและมัดให้แน่นหนา ปลูกจากลำต้นเถาเดียวอาจเติบโตขึ้นสูงและแตกสาขาจากการช่วยตัดยอด กลายเป็นต้นไม้ลำต้นเดียวขนาดใหญ่ได้ไม่ยากนัก เถาของไอวี่ดังกล่าวอาจดัด จัด หรือตัดแต่งให้กลายเป็นรูปทรงแฟนซีอย่างไรก็ได้ โดยจะต้องทำโครงตาข่ายให้เป็นรูปร่างที่เราต้องการเสียก่อน จากนั้นจึงยึดกรุภายในด้วยใยมะพร้าวตามด้วยขุยมะพร้าวอีกครั้งจนเต็ม ในต่างประเทศที่เขามีสแปคนัมมอสมากๆ เขามักกรุด้วยวัสดุปลูกธรรมชาติเช่นนี้ แต่สำหรับในเมืองไทย ผู้เขียนไม่แนะนำให้ใช้ เพราะแม่ค้าพ่อค้าชอบไปเก็บมาจากยอดเขาสูงๆ เช่น จากภูหลวง ภูเขียว ภูกระดึง และป่าเขาใหญ่ นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติ
แต่การปลูกไอวี่ที่นิยมที่สุดน่าจะเป็นการปลูกลงในกระถางพลาสติกแขวนให้ห้อยย้อยลงมาตามแนวข้างกระถาง
คานารีไอวี่ที่ได้รับความสนใจปลูกกันแพร่หลายทางภาคเหนือน่าจะได้แก่คานารีไอวี่ใบด่าง (H.canariensis variegata) ซึ่งมีใบกว้างถึง 2 นิ้วครึ่งทีเดียว
อิงลิชไอวี่ที่เห็นกันทั่วไปมีชื่อพันธุ์ว่า H.helix “Silver King” ซิลเวอร์คิง และพันธุ์ที่มีใบเขียวรูปร่างคล้ายว่าวจุฬา มีชื่อว่า H.helix “Caernwoodiana” และ H.helix “Jubilee” ซึ่งมีสีเหลืองอยู่ตรงกลางใบจึงเรียกกันอีกชื่อว่า “Golden Heart”
การปลูกไอวี่นั้น ถ้าจะให้ดีควรให้ได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะให้ดีแล้วควรให้ได้รับแสงแดดที่ผ่านการพรางให้ 50-60 เปอร์เซ็นต์ หรือหากจะให้แสงจากหลอดนีออนและหลอดกรอลักซ์ ก็ควรให้แสงอย่างต่ำ 800 ฟุต-เทียน เครื่องปลูกไอวี่ก็ไม่ยากนัก หากต้องการดินผิวหรือดินร่วม ส่วนใบไม้ผุ 1 ส่วน และทรายหยาบ 1 ส่วน โดยใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ให้ประมาณ 2 ช้อนชาต่อเครื่องปลูกกระถาง 16 นิ้ว การขลิบยอดลำต้นออกบ่อยครั้งจะทำให้ไอวี่แตกกิ่งก้านสาขาได้ง่ายและดูเป็นพุ่มสวย
ไม้เถาเลื้อยที่เรียกกันว่าตีนตุ๊กแกหรือมะเดื่อเถานับว่าได้รับความนิยมปลูกให้เกาะกำแพงบ้านหรือรั้วอิฐมอญหรือคอนกรีต บล็อก เช่นเดียวกัน ตีนตุ๊กแกนี้เป็นพืชในวงศ์ไทรหรือมะเดื่อมีชื่อว่า Ficus pumila วงศ์ MORACEAE จัดเป็นไม้เถาเลื้อย มีลำต้นเล็ก ใบเล็กขนาดเท่านิ้วก้อยเห็นจะได้ ใบรูปไข่ โคนใบสองซีกไม่เท่ากัน ออกรากเกาะยึดกำแพงได้ดี เติบโตรวดเร็วในภูมิอากาศร้อนชื้น ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในจีนตอนใต้และอินเดีย ใช้ปลูกแทนไอวี่ได้ดีในพื้นที่อากาศร้อน ตีนตุ๊กแกจะส่งเถาแนบกับสิ่งที่มันจะเกาะยึดขึ้นไป โดยรากของมันจะปล่อยสารเหนียวออกมาช่วยในการเกาะ สารเหนียวนี้จะมีฤทธิ์เป็นกรดช่วยละลายผิวของหินซีเมนต์หรือแม้แต่ไม้ ถ้ากิ่งก้านของตีนตุ๊กแกยาวขึ้นประมาณ 3 เมตร ใบจะขยายขนาดใหญ่ขึ้น ใบหนาหยาบดูเกือบไม่ออกว่าเป็นพืชชนิดเดียวกับเถาตีนตุ๊กแกที่มีอายุน้อย ใบแบบที่สองนี้เราเรียกว่าเป็นใบแบบที่แก่แล้ว เป็นใบของต้นที่พร้อมจะเข้าสู่ช่วงเจริญพันธ์ุ ระยะนี้มันจะสร้างผลมะเดื่อรูปร่างคล้ายลูกแพรหรือน้ำเต้าขนาดเล็กสีเขียวอ่อนออกมามากมาย ผลของมะเดื่อเถาหรือตีนตุ๊กแกนี้มีความจริงคือ ส่วนฐานรองช่อดอกที่โอบล้อมเอาดอกจิ๋วจำนวนมากไว้ภายใน นับเป็นลักษณะอันโดดเด่นของพืชสกุลไทรและมะเดื่อ (Ficus) วงศ์ MORACEAE ทั้งสิ้น
ต้นตีนตุ๊กแกนี้ทนทรหดได้ดีมาก เพราะแม้แต่ในเมืองเยรูซาเลม เรายังได้เห็นมะเดื่อเถาตีนตุ๊กแกไต่อาคารที่ทำการรัฐบาล ซึ่งเป็นตึกสูง ก่อด้วยหินสีเทาสกัดจากภูเขาในทะเลทรายจูเดียน อาคารที่นั่นเขาไม่ให้ทาสีอะไรต่อมิอะไรให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเช่นที่อื่น เราชื่นชมกับความงามสงบอันเป็นเอกลักษณ์ของนครเก่าแก่แห่งนี้ยิ่งนัก เสียดายที่จะไม่ได้เห็นและซึมซับกับบรรยากาศเช่นนั้นอีก
ต้นตีนตุ๊กแกขยายพันธุ์ได้โดยการตัดยอดมาปักชำในถุงพลาสติกและวางไว้ในกระบะพ่นหมอก ใช้ทรายหยาบและขี้เถ้าแกลบ (แกลบดำ) ในอัตราส่วน 1:1 เป็นวัสดุปักชำ


