ล่องยาง กลางคลองศก
ห่วงยางพร้อม ชูชีพพร้อม คลองศกก็พร้อมต้อนรับสู่การผจญภัยเหนือสายน้ำบนยานพาหนะที่ไร้ทิศทาง
ห่วงยางพร้อม ชูชีพพร้อม คลองศกก็พร้อมต้อนรับสู่การผจญภัยเหนือสายน้ำบนยานพาหนะที่ไร้ทิศทาง การล่องห่วงยาง หรือทูบิ้ง(Tubing) เป็นการนั่งบนห่วงยางวงใหญ่แล้วลอยไปตามกระแสน้ำ สายน้ำที่ดังในเรื่องนี้คือ แม่น้ำซอง ที่วังเวียง ประเทศลาว ภาพฝรั่งนั่งบนห่วงยาง จิบเครื่องดื่ม อ่านหนังสือ แล้วลอยไปตามกระแสน้ำไหลเอื่อย เป็นภาพโฆษณาที่ใครมาก็ต้องทำ แต่ห้าม! ใช้ภาพนี้กับคลองศก จ.สุราษฎร์ธานี เพราะมันเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป
คลองศกเป็นสายน้ำสายสำคัญไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาสก (ชื่ออุทยานฯเขาสกใช้ ส. ส่วนคลองศกใช้ ศ. ซึ่งอย่างหลังคือชื่อดั้งเดิม) ผ่านแหล่งชุมชนในเขต ต.คลองศก ที่ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งน้ำอุปโภค และอีกหนึ่งบทบาทคือ เป็นเส้นทางล่องห่วงยาง โดยมีจุดเริ่มต้นบริเวณใต้สะพานก่อนถึงทางเข้าอุทยานฯ ล่องไปตามทางน้ำระยะทางประมาณ 2 กม. ไปขึ้นที่จุดขึ้นฝั่งของแต่ละเจ้าที่ได้เช่าห่วงยางไว้
นักท่องเที่ยว 5 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน คือจำนวนที่พอดูแลไหว ก่อนล่องจะมีการสาธิตวิธีการนั่งซึ่งมี 2 ท่า คือ หย่อนหลังลงห่วงยาง และคว่ำหน้าหาห่วงยาง แต่สำหรับเส้นทางคลองศกแนะนำให้ทำตามท่าแรก คลองศกนั้นเป็นคลองคดเคี้ยว สองฟากฝั่งเป็นทั้งป่าและเขตบ้านเรือน ระดับน้ำมีทั้งตื้น 80 ซม. จนถึงเกิน 150 ซม. โดยระหว่างทางจะมีเกาะแก่งหิน บางจุดเป็นทางลาดซึ่งทำให้กระแสน้ำเชี่ยวกว่าปกติ คำแนะนำให้หงายตัวขึ้นก็เพราะจุดนี้ที่กระแสน้ำตื้น ไหลแรง และเสี่ยงต่อการถูกหินกระแทกร่างกาย
เทคนิคการล่องห่วงยางมีอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่ง หันหน้าไปตามกระแสน้ำ เพราะด้านหน้าอาจเจอกับหินหรือพุ่มไม้ได้ตลอดเวลา สอง หากต้องการหันซ้าย-ขวา ให้วาดแขนควักน้ำมาด้านหน้าในฝั่งตรงข้าม เช่น ถ้าอยากหันขวาให้วาดแขนข้างซ้าย สาม หากถูกกระแสน้ำพัดอย่างรวดเร็วให้ปล่อยไปตามธรรมชาติแล้วเก็บแขนขาให้อยู่ในห่วงยาง กระแสน้ำจะพาไปเรื่อยๆ เหมือนเรามองใบไม้ลอยน้ำแบบนั้น สี่ สติ หากห่วงยางไปติดตามแก่งหรือพุ่มไม้อย่าตกใจกลัว ให้รวบรวมสติแล้ว “ยืน” ขึ้น ลากห่วงออกมาแล้วล่องต่อได้เลย เกือบตลอดเส้นทางระดับน้ำจะอยู่ในระดับที่สามารถยืนได้ พิสูจน์ได้จากเจ้าหน้าที่ที่จะเดินในน้ำเกือบตลอดเพื่อช่วยดันห่วงยางของคนรั้งท้ายให้ไปเร็วขึ้น
กิจกรรมล่องห่วงยางคลองศกไม่ใช่กิจกรรมพักผ่อน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นกิจกรรมผจญภัยน้องๆ ล่องแก่ง ที่จะทำให้ตื่นเต้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่มาอุทยานฯ
อุทยานฯ เขาสก ขึ้นชื่อว่าเป็น “ขุนเขาแห่งป่าฝน” ป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสันยางร้อยระยะทาง 2 กม.น้ำตกโตนกลอย น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกสิบเอ็ดชั้น น้ำตกบางเลียบน้ำ ดูกระทิง และตามหาบัวผุดที่ กม.111 และที่เขาสองน้อง ช่วงเดือน พ.ย.-เม.ย.
ป่าดิบชื้นเป็นความสวยงามอีกอย่างนอกจากทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ที่น้อยนักจะอยู่ในแผน แต่ถึงอย่างไรก็มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่หลงใหลธรรมชาติ เห็นความสมบูรณ์ของป่าเขา และชอบตามเงาสัตว์ป่าลึกลับเดินทางมาศึกษาธรรมชาติอยู่ทั้งปี เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ทำให้ชาวบ้านแถวอุทยานฯ มีรายได้จากการให้บริการห้องพัก ร้านอาหาร และร้านค้า และมีทักษะใหม่ด้วยการ “สปีคอิงลิช” เพราะเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ที่เขาสกมานานแรมเดือน และหลงใหลป่าไพรจนไม่คิดจากไปอีกแรมปี


