กระป๋องสังกะสีหลากสีสัน สุดรัก ของ ภาคภูมิ ปฐมสาคร
ถ้าพูดถึงของเก่าหรือของโบราณแล้ว ก็คงจะนึกไปถึงคนเก่าคนแก่หรือมีอายุมากแล้วเท่านั้น
ถ้าพูดถึงของเก่าหรือของโบราณแล้ว ก็คงจะนึกไปถึงคนเก่าคนแก่หรือมีอายุมากแล้วเท่านั้น แต่ โบ๊ท-ภาคภูมิ ปฐมสาคร แม้อายุเพียง 31 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวถึง 2 ร้าน คือร้านอาหาร “บาร์ขุนนนท์” ย่านถนนบางขุนนนท์ และร้านกาแฟ “ม้าไม้ คอฟฟี่” ย่านจรัญ 35 ก็มีงานอดิเรกสุดรัก คือ การสะสมกระป๋องสังกะสีที่เก็บไว้มากถึง 100 ใบ เช่น ยี่ห้อ ฮอลล์ แฮ็คส์ เฮโล โบตัน โอเล่ เทนโซพล๊าส ซิเครท ซูกัส วัน-วัน หมากหอมเยาวราช ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมของนักสะสมทั้งสิ้น หากให้จัดอันดับนิยมเก็บอันดับหนึ่ง คือ ฮอลล์ อันดับสองคือ เฮโลลูกอม แฮ็คส์ พวกตระกูลยาอมโบตัน เป็นต้น ซึ่งอายุบางใบมากกว่า 40-50 ปี รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์เก่าซึ่งบางชิ้นอายุมากกว่าเขาเสียอีก เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อกลับจากการทำงานเหนื่อยๆ แล้วกลับมาบ้าน นั่งเล่นในห้องนั่งเล่นแล้วนั่งมองของเก่าที่ตัวเองสะสมไว้
ย้อนกลับไปในเรื่องรสนิยมชื่นชอบของเก่า ภาคภูมิเล่าว่า เขาชอบของเก่ามาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มตั้งแต่สะสมแสตมป์ จนมาถึงปัจจุบันก็ยังคงเก็บอยู่ เก็บจนกลายเป็นความสุขในการเก็บ
“แรงบันดาลใจในการเก็บสะสมของโบราณของผมเริ่มขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เหตุเพราะตอนเด็กๆ ผมชอบเก็บเหรียญและแสตมป์ เมื่อโตขึ้นมาผมได้ไปเห็นร้านที่เอาของโบราณมาตกแต่งร้านสวยงาม ผมจึงเริ่มตามหาของโบราณอีกครั้ง โดยเดินหาของตามตลาดทั่วไป เริ่มซื้อจากตลาดทั่วไป ซึ่งผมคิดว่าบรรยากาศย้อนยุคของกระป๋องสังกะสีโบราณนั้นมีเสน่ห์ พอเก็บแล้ว ผมยิ่งลงลึกในรายละเอียดคือสอบถามจากผู้รู้ ทำให้ผมรู้ลึกลงไปในรายละเอียดมากขึ้น”
ปัจจุบันสิ่งที่ภาคภูมิเฟ้นหา คือ แผ่นป้ายน้ำอัดลม กระป๋อง ขวด ลังไม้ เป็นต้น โดยเฉพาะกระป๋องสังกะสีฮอลล์ 10 แบบที่นิยมเก็บ ก็เสาะแสวงหาทั้งหมด แล้วก็ตามเก็บจนครบ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่ถูกใจเขามากที่สุด คือ งานกระป๋อง เพราะงานกระป๋องมีเสน่ห์ตรง เมื่อเขาไปหากระป๋องหายากมาได้เยอะๆ โดยอาศัยหาตามเว็บไซต์ขายของเก่าบ้าง ไปเสาะแสวงหาเจอเองบ้าง รวมทั้งตลาดรถไฟ แต่โชคไม่ดีตรงเขามาเริ่มเก็บตอนกระป๋องสังกะสีมีราคาค่อนข้างแพงแล้ว กระป๋องบางรุ่นเงินแสนก็ซื้อไม่ได้ เพราะมันเป็นความชอบเฉพาะบุคคล
สำหรับกระป๋องใบแรกที่ภาคภูมิได้มาจากความขยัน คือ กระป๋องเฮโล ที่เข้าขั้นหายากพอสมควร ด้วยเหตุผลนี้จึงเกิดความประทับใจหลายครั้ง ที่กว่าจะได้กระป๋องแต่ละใบมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ใบนี้ผมจำได้ว่าได้มาตอนไปอุตรดิตถ์ โดยผมไปเห็นกระป๋องเฮโลในร้านถ่ายเอกสารที่หนึ่ง เขาวางโชว์กระป๋องเฮโลที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์มากๆ และวางตั้งโชว์ไว้มานานกว่า 40 ปี เห็นตั้ง 3 ใบเรียงกันเลย คือ ชมพู เหลือง และส้ม ครั้งแรกผมติดต่อขอซื้อเขาไม่ยอมขาย ผมก็สานสัมพันธ์มาเรื่อยๆ ว่าหากคิดจะขายให้คิดถึงผมนะ ครั้งแรกให้พ่อตาโทรคุย บางครั้งผมก็แวะไปหา เรียกว่าผมจีบอยู่ 2 ปี จนเจ้าของตัดสินใจขายให้ผมในราคาไม่สูงนัก ทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ต้องให้พ่อตารีบขับรถไปเอา ที่ผมรักและปลื้มมากๆ อีก 3 ใบ คือ ฮอลล์กระป๋องจิ๋ว เพราะผลิตน้อย ผลิตหลังจากใบใหญ่นานมาก โดยเขาจะมีรุ่นเดือนปีที่ผลิต เช่น ผลิตปี 03 เดือน 9 วันที่ 11 พิมพ์อยู่ที่กระป๋องด้วย ซึ่งคนนิยมเก็บกัน มีหลากสี เช่น สีแดงรสเชอร์รี่ สีม่วงรสส้ม ผมมีร่วมหลากยี่ห้อประมาณ 30 ใบ มีคนเสนอขายผมใบละ 4,000 บาท ผมไม่ขาย” เขาบอกว่า ใครอยากลองเก็บ ต้องเริ่มจากการลองผิดลองถูก แบ่งปันจากแหล่งที่เราไปหา แหล่งนี้อยู่มากี่ปี ต้องศึกษาหาความรู้ว่ามีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างไร นี่คือความท้าทายที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจ เพราะกระป๋องเฮโล 3 ใบ และกระป๋องใบจิ๋วนี้หายากมากๆ ไม่ใช่ใครมีสตางค์แล้วจะมีได้ง่ายๆ เมื่อได้มาแล้วเขาเก็บรักษาไว้อย่างดี ขนาดหุ้มพลาสติกไว้เลย
อะไรทำให้นักสะสมกระป๋องชื่นชอบในงานกระป๋องสังกะสีนี้ ภาคภูมิบอกว่า คือ ความมีเสน่ห์ เสน่ห์ของงานกระป๋องคือสีสัน ซึ่งถือเป็นงานศิลปะที่มีดีไซน์ มีการวางรูปแบบตกแต่งได้สวยงาม แต่ถ้าให้ดีสำหรับนักสะสมรุ่นใหม่ๆ ภาคภูมิแนะนำว่า ควรเก็บสะสมเป็นคอลเลกชั่น อย่าเก็บสะเปะสะปะ เก็บให้ครบเรียงสีเรียงขนาดเอาไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบ ก็จะเกิดความสวยงาม น่ามอง ซึ่งสังคมคนเล่นกระป๋องสังกะสีก็มีเหมือนกัน มีร่วมประมาณ 10 คน ไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งของเรื่องเล่าและประสบการณ์
“สังคมคนเล่นของสะสมเหมือนกัน คือจะคุยเรื่องใบนั้นมี แต่ของเราไม่มี เรามีเขาไม่มี มันเป็นเสน่ห์ที่ได้นั่งคุยกัน ใครมีใบไหนอยากขายก็มาแลกเปลี่ยนกัน เหมือนสมบัติผลัดกันชม ผมมองว่าอนาคตของกระป๋องอาจแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ บางใบถึงกับต้องรอเนื้อคู่ ถ้าใบไหนไม่ใช่ของเราก็ไม่ใช่ แต่ผมตั้งใจจะเก็บรักษาไปเรื่อยๆ”
กระป๋องสังกะสีใบที่เป็นโจทย์ให้เขาต้องหามาให้ได้ คือ ฮอลล์รสขิง เฮโลใบจิ๋ว คิงส์และคลูส์ ซึ่งเป็นยี่ห้อลูกอมในยุค 50 ปีที่แล้ว
“กระป๋องพวกนี้รุ่นพี่รุ่นแม่เราเคยเก็บ กระป๋องคลูส์เป็นรูปผู้หญิงฝรั่งสวยมาก ซึ่งผมกำลังหาอยู่ แต่ยังหาซื้อไม่ได้ เพราะผมชอบเก็บกระป๋องสภาพสวยๆ เก็บทั้งทีก็อยากได้สภาพดีๆ ไม่ต้องหาซื้อบ่อยหลายๆ รอบ”
สำหรับนักสะสมหน้าใหม่ๆ ภาคภูมิแนะนำถึงแหล่งหาซื้อกระป๋องโบราณ คือ ในยุคแรกๆ เขาหาซื้อตามร้านยาโบราณ ร้านชำตามต่างจังหวัด ตลาดขายของเก่าที่พ่อค้านำมาวางขาย ยุคนี้ลองไปที่ตลาดรถไฟ จตุจักรกรีน สนามหลวง 2 หรือคลองถม เป็นต้น
“ทุกวันนี้หาของยากมากๆ เมื่อก่อนเคยซื้อใบละ 10 บาท ยังเคย แต่ตอนนี้คนให้ราคา 500/1,000 บาทยังมี เรียกว่าเป็นการปั่นราคากันสูงขึ้น แต่ละใบจึงไม่มีราคาตายตัว พอยุคนี้ไปซื้อที่ตลาดรถไฟเหมือนเดิมแต่ของหายากมากขึ้น เพราะรุ่นพี่เราก็เอาไปแล้ว บวกกับกระป๋องผุสูญหายไปก็มาก เพราะทำจากสังกะสี หากจะหาซื้อผ่านเว็บไซต์ก็ได้ เช่น ไทยสกูตเตอร์ หรือในเฟซบุ๊กคนค้าของเก่า ซึ่งผมก็ได้ของสะสมมาเยอะจากเว็บไซต์เหล่านี้”
เมื่อกระป๋องสังกะสีมีจำนวนจำกัด นักสะสมหน้าใหม่ๆ ก่อนจะเล่นจึงต้องถามใจตัวเองให้ดีก่อนว่า รักชอบในการสะสมงานกระป๋องสังกะสีจริงๆ หรือเปล่า เพราะเมื่อลงทุนไปแล้ว ของเหล่านี้ไม่ใช่ของทำเงิน บางใบอยากได้ก็หาไม่พบ
“อีก 50 ปี ผมอาจจะส่งต่อเปลี่ยนมือให้คนอื่นเก็บต่อก็ได้ ผมคิดว่านักเล่นกระป๋องรุ่นใหม่อย่าเก็บเพราะอยากมี แต่ให้เก็บเพราะความรัก ความชอบจริงๆ บางคนเพิ่งมาเริ่มมีตังค์กว้านซื้อมาเก็บ แต่เขาไม่มีความผูกพัน เงินเราไม่ได้เป็นถุงเป็นถัง อย่างผมเก็บแล้วแต่ละใบมีเรื่องเล่า แต่บางคนใช้เงินซื้อ ก็ไม่มีความสนุก เพราะไม่มีเรื่องราวและเรื่องเล่า ผมอยากฝากบอกคนเก็บรุ่นใหม่ให้เก็บเฉพาะของที่ชอบจริงๆ ไม่ใช่เก็บตามกระแส และเก็บต้องมีที่มา บางใบอยากได้แต่ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปซีเรียส ให้คิดเสียว่าของบางอย่างเราไม่ได้ครอบครองเสียทุกชิ้น ดังนั้นควรเก็บด้วยความสุข เก็บเพราะรัก แต่สำหรับผมไม่ขาย เพราะเริ่มต้นเก็บใหม่เป็นเรื่องที่ยากมากๆ”
วิธีการดูแลกระป๋องให้สวยนาน
เนื่องจากกระป๋องเป็นงานสังกะสี ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วตามด้วยผงซักฟอก จากนั้นเอาฟองน้ำนุ่มบวกกับน้ำยาคาร์วอชเพื่อขัดลบเมจิกและคราบสกปรกออกให้ได้มากที่สุด ล้างเสร็จทำการเช็ดให้แห้ง แล้วจึงเก็บให้เรียบร้อย นักสะสมบางคนรักมาก ถึงกับนำถุงพลาสติกมาห่อ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เกาะ
“กระป๋องบางใบด้วยอายุกว่า 50 ปีแล้วสนิมก็ต้องเกิดมาตามกาลเวลา แต่หากเราเก็บในตู้ไม่ได้โดนแสงแดด สีก็จะไม่ซีดจาง ถ้าไม่โดนความชื้นสนิมก็ไม่มา ถามว่าจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องดูแลกระป๋องให้สวยนาน แต่ผมว่าจำเป็นมากกว่าที่ต้องล้างฝุ่นออกจากกระป๋องให้หมดก่อนเก็บ ล้างให้ดูผ่องใส ล้างคราบน้ำมัน เพราะล้างปุ๊บเราจะได้ผิวเดิม ล้างเก็บให้ดี เพื่อเราจะได้ของสวยๆ เพื่อใส่ตู้โชว์สวยงาม”
สำหรับข้อควรระวัง คือ อย่าโดนความชื้น ถ้าล้างต้องเช็ดให้แห้งสนิท ไม่อย่างนั้นจะเป็นสนิม เมื่อเข้าตู้แล้วก็อยู่สวยนาน
แม้อายุกระป๋อง 50 ปีแล้ว หากดูแลดีๆ ก็สวยไปอีกนาน อย่าโดนฝน หลีกหนีน้ำท่วม เพราะช่วงน้ำท่วมของก็เสียหายไปเยอะ
“เราอยากปลุกกระแสให้คนหันมาอนุรักษ์งานกระป๋องและของเก่าทุกอย่าง เพื่อตกแต่งไว้โชว์ บางทีคนแก่มาเห็นแล้วบอกว่าฉันเคยกิน ฉันเคยเห็น ก็เป็นความสุขของคนเก็บ เราจะเก็บก็ขายได้ บางตัวที่หายากๆ” เขากล่าวทิ้งท้าย


