posttoday

ลูกซน-ลูกซึม สัญญาณ ‘สมาธิสั้น’

01 พฤศจิกายน 2557

ธรรมชาติของเด็กกับลักษณะของโรค ผสานกลมกลืนกันชนิดที่ยากจะแยกออก

ธรรมชาติของเด็กกับลักษณะของโรค ผสานกลมกลืนกันชนิดที่ยากจะแยกออก

อาการซน ดื้อ โหวกเหวกโวยวาย ปีนป่าย ไม่มีระเบียบ มุมหนึ่งคือความปกติของเด็ก

พฤติกรรมเดียวกันนี้ อีกมุมหนึ่งกลับเป็นความผิดปกติร้ายแรง

ADHD-Attention deficit hyperactivity disorder คือชื่อโรคอย่างเป็นทางการ แต่คงไม่คุ้นชินเท่ากับชื่อ “โรคสมาธิสั้น”

ด้วยความยากในการจำแนก “โรค” ออกจากความ“ปกติ” ของเด็กบ่อยครั้งที่ผู้ปกครองเพิกเฉยเพราะรู้ไม่เท่าทัน

โรคสมาธิสั้น นอกจากจะสำแดงในทางไฮเปอร์อยู่นิ่งไม่ได้ ยังนับรวมถึงเด็กที่มีอาการเฉื่อยชา หรือควบคู่กันทั้งสองขั้ว

มักแสดงอาการในเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ขวบ ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า ส่วนใหญ่ปรากฏกับเด็กที่อยู่ในวัยเรียนแล้ว ผลกระทบจึงจับต้องได้จากผลการเรียนที่ค่อนข้างตกต่ำ-ย่ำแย่

เด็กสมาธิสั้นมีปัญหาในการเข้าสังคมเกิน 50% ของผู้ป่วยถูกปฏิเสธจากวงสนทนาหรือเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้หากไม่ได้รับการดูแลจะขยายผลไปสู่ความ
ก้าวร้าว ความรุนแรง และนำไปซึ่งความสูญเสียเกินกว่าจะประเมินค่า

แม้สาเหตุของโรคสมาธิสั้นจะไม่แน่ชัด แต่ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากพันธุกรรมและระบบประสาทที่ผิดปกติ

คำแนะนำของแพทย์จึงพุ่งเป้าไปที่ “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” ของบุตรหลาน โดยความใส่ใจอย่างใกล้ชิดจากผู้ปกครอง

ไม่ว่าจะเป็นการปรับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ให้อยู่ใกล้สิ่งเร้า การเพิ่มสมาธิ เช่น การสอนการบ้านตัวต่อตัว การพูดจาและคำชื่นชมเมื่อทำดี ฯลฯ

คู่มือการเลี้ยงลูกสมาธิสั้นเล่มหนึ่งที่อยากแนะนำคือ “หนังสือครอบครัวรักมหัศจรรย์” ที่ลงลึกในรายละเอียดและสร้างแรงบันดาลใจแก่พ่อแม่ได้อย่างมหัศจรรย์

“อยากฝากให้คนที่ใกล้ชิดกับเด็กพิเศษว่า คำพูดของท่านเพียงคำเดียวไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวชมหรือคำติเตียน อาจมีอิทธิพลในการพลิกชีวิตของเด็กเหล่านี้จากดำเป็นขาว หรือขาวเป็นดำได้ ทุกวันนี้ลูกยังจำ
คำชมของครูบางท่านได้จนถึงขั้นตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อที่จะใช้สุดไปอวดครู คำชมเหมือนเป็นยาที่ทำให้เขามีพลังและมีภูมิคุ้มกันต่อสู้กับโรคนี้ได้อย่างดีเยี่ยม” ตอนหนึ่งของหนังสือระบุ

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดย “แม่น้องเม่น” หรือจิตติมา กุลประเสริฐรัตน์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ WomanPublisher เครือประพันธ์สาส์น บอกเล่าถึงประสบการณ์ตรงของแม่ผู้ต้องเผชิญหน้ากับลูกที่เป็นเด็กพิเศษ มีอาการสมาธิสั้นและภาวะการเรียนรู้บกพร่อง โดยเนื้อหาสะท้อนถึงพลังของสถาบันครอบครัว ซึ่งผลักดันให้เด็กชายคนนี้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จนกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มภาคภูมิ

อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ “ยา” บทความของ พญ.เพียงทิพย์ หังสพฤกษ์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์ อธิบายไว้ว่า สาเหตุของสมาธิสั้นเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทในสมอง ดังนั้นยาที่ใช้จึง
เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นให้สมองเกิดการตื่นตัว

“ยารักษาสมาธิสั้นจะทำให้เด็กรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นจะไม่ได้ซึมลงเด็ดขาด ถ้าซึมลงต้องกลับไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ปรับขนาดของยาทันที” บทความระบุและอธิบายอีกว่า หากพบเด็กเบื่ออาหาร นอนหลับยากก็ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพราะเป็นสัญญาณของการรับยาในขนาดที่สูงเกินไป

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?