ขัดแย้งแบบไหนควรหลีกเลี่ยง
โดย...วรธาร ทัดแก้ว
โดย...วรธาร ทัดแก้ว
ความขัดแย้งในองค์กรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเป็นที่รวมของคนหมู่มาก ซึ่งแต่ละคนก็มีความคิดแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องหาวิธีในการแก้ไข เพื่อให้ความขัดแย้งนั้นสงบลงให้ได้ ถ้าปล่อยไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร เพราะความขัดแย้งบางอย่างอาจรุนแรงจนกระทั่งไม่อยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขได้ แต่บางครั้งความขัดแย้งบางอย่าง การใช้วิธีการหลีกเลี่ยงหรือใช้เวลาเป็นเครื่องแก้ไข ก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า
เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีบ อธิบายเกี่ยวกับความขัดแย้งใน “สามก๊ก ฉบับบริหารความขัดแย้งด้วยทฤษฎีเกม” ของสำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ว่า เป็นการแสดงพฤติกรรมมุ่งเอาชนะในระดับต่ำ และแสดงพฤติกรรมร่วมมือในระดับต่ำเป็นการไม่สู้ปัญหาและไม่ร่วมมือในการแก้ปัญหา รวมทั้งไม่สนใจทั้งความต้องการของตัวเอง และความต้องการของผู้อื่น แสดงอาการหลีกเลี่ยงปัญหา เฉื่อยชา และไม่สนใจในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พยายามทำตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง โดยเชื่อว่าความขัดแย้งจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปโดยมีปัจจัยต่างๆ เข้ามาแก้ไขตามธรรมชาติ แต่ข้อเสียของพฤติกรรมหลีกเลี่ยงก็คือความขัดแย้งบางอย่างอาจรุนแรงขึ้นจนกระทั่งไม่อยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขได้
เปี่ยมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถ้าสถานการณ์ขัดแย้งไม่รุนแรงและไม่อยู่ในเวลาวิกฤต การแสดงพฤติกรรมหลีกเลี่ยงความขัดแย้งก็อาจมีประโยชน์บ้าง โดยพฤติกรรมหลีกเลี่ยงจะมีลักษณะคล้ายๆ กับการเฉยไว้แล้วจะดีเอง ควรจะใช้วิธีการเมื่อ 1.ประเด็นความขัดแย้งเป็นเรื่องไร้สาระและมีปัญหาอย่างอื่นที่สำคัญกว่ารอการแก้ไขอยู่ 2.เมื่อรู้ว่าตนเองไม่มีโอกาสที่จะชนะ เช่น เมื่อไม่มีอำนาจพอ หรือมีความเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อยาก หรือสิ่งที่นอกเหนือจากอำนาจของตน เช่น บุคลิกภาพที่ไม่น่าคบของเพื่อนร่วมงาน ความเห็นแก่ตัวของเพื่อน กฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรมและยากแก่การปฏิบัติ เป็นต้น
“3.การเผชิญหน้าในปัญหาขัดแย้งนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี 4.เมื่อต้องการให้คนอื่นลดความโกรธลงจนกระทั่งอยู่ในระดับพอที่จะทำงานร่วมกันต่อไปได้ และประการสุดท้ายเมื่อเห็นว่ามิอาจมีวิธีการอื่นๆ ดีกว่าวิธีการในปัจจุบันและเมื่อความขัดแย้งนี้เป็นอาการของความขัดแย้งอื่นๆ”


