ขนมฝรั่ง หัวใจไทย
แม้การแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์จะจบไป แต่ความภาคภูมิใจในความเป็นไทยยังไม่มีทีท่าจะหยุด
โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม/ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
แม้การแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์จะจบไป แต่ความภาคภูมิใจในความเป็นไทยยังไม่มีทีท่าจะหยุด พร้อมเปล่งพลังใจเชียร์อยู่เป็นเนืองๆ ว่า ไทยแลนด์สู้สู้ ไทยแลนด์สู้ตาย จะว่าไปแล้วไม่ว่าคนไทยจะลงมือทำอะไรผมเชื่อว่าเข้าขั้นชนะเลิศ ไม่เว้นแม้แต่อาหารการกินที่นับวันชาวโลกยิ่งยอมรับ
แม้กระทั่งเรื่องของขนมหวานใจไทยแลนด์ ที่แม้ทุกวันนี้เมนูขนมหวานจากต่างประเทศจะทยอยเข้ามาเอาใจเรื่อยๆ ทว่ารสชาติของหวานแบบไทยๆ นี่แหละที่ถูกปากคนบ้านเราที่สุด คอมฟอร์ตฟู้ดแบบไทยๆ ความสนุกและความอบอุ่นด้วยรสชาติแบบไทยๆ กลายเป็นเสน่ห์ไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เชฟเปเปอร์-อริสรา จงพานิชกุล เชฟสาวที่ทำให้ผมยิ่งภูมิใจในไอเดียในความเป็นไทย ด้วยการลงมือเสกสรรขนมหวานแบบฝรั่ง แต่ใช้รสชาติ หรือวัตถุดิบของไทยเป็นตัวชูรส เธอเรียกขนมหวานที่เธอคิดว่า ขนมฝรั่งใจไทย พร้อมทั้งเล่าถึงแรงบันดาลใจให้เธอคิดสรรค์เมนูขนมหวานนี้ขึ้นมา
“มันเริ่มต้นจากที่มีโอกาสไปเรียนทำขนมที่ประเทศฝรั่งเศส เราก็ไปเห็นขนมของที่นั่นส่วนใหญ่มันจะสวย และมีองค์ประกอบไม่ต่ำกว่า 5 ชนิด มีทั้งไส้ ฐาน มีครีม เราก็คิดว่าแล้วทำไมขนมไทยเราจะทำอย่างนี้บ้างไม่ได้ ก็เลยมีความคิดว่าสักวันฉันจะทำขนมไทยในแนวนี้บ้าง
อีกอย่างคือฝรั่งเขาจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับวัตถุดิบของไทยเรามาก ทั้งตะไคร้ มะกรูด ขิง ข่า อีกสารพัด ในเมื่อเรามีวัตถุดิบชั้นเลิศอยู่ในมือแท้ๆ ทำไมเราไม่นำมาใช้ ให้รู้สึกแปลกใหม่ พอเขาได้มากินของเราบ้างจะได้รู้สึกเซอร์ไพรส์ และจังหวะที่เชฟเอียน (พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย) ก็ให้โอกาสมาเป็นเชฟที่ร้านขายขนมที่ครีเอทขึ้นมาใหม่ ดูโมเดิร์น คอนเซ็ปต์เป็นขนมฝรั่งเศสที่ใช้รสชาติไทยๆ ลงไป มีกลิ่นอายแบบไทยๆ เราจะรู้สึกคุ้นเคย แต่ว่ามีรูปแบบที่แปลกใหม่ขึ้นมา”
เชฟเปเปอร์บอกเล่าด้วยสีตาที่ฉายถึงความสุขและสนุกสนานในที ก่อนที่จะเข้าครัวโชว์การทำขนมหวานแบบฝรั่งที่เธอว่ามีหัวใจความเป็นไทยแบบเต็มๆ
เริ่มต้นกับเมนูที่เราแสนจะคุ้นเคย ขนมครก เริ่มต้นจากใช้แป้งทาร์ตจากฝรั่งเศสเป็นฐาน แล้วเพิ่มไส้ด้านในเป็นกะทิ ผสมกับแป้งข้าวเจ้า จะให้รสชาติจะเหมือนกับครีมกะทิของขนมครกจริงๆ เพิ่มความกรอบกรุบจากแป้งทาร์ต เสิร์ฟมาพร้อมกับท็อปปิ้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ งาขาวคั่ว น้ำตาล มะพร้าวขูด แล้วก็กะทิ ลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งแล้วนำมาตำในครกก่อนนำไปโรยหน้าบนขนมครกอีกที กลายเป็นความอร่อยที่แสนคุ้นชิน บนรูปลักษณ์ของขนมครกที่แสนทันสมัย
ตามมาด้วย ปิ่นโต ที เซท หรือ ปิ่นโต อาฟเตอร์นูนที แบบไทยๆ เสิร์ฟมาในเถาปิ่นโต ภายในแบ่งเป็น สโคน ที่มีให้เลือกทั้งรสชาไทยและรสมะตูม มาพร้อมกับแยมลูกม่อนกับข่า และเนยของฝรั่งเศส ต่อด้วยแซนด์วิชของฝรั่งเศสไส้แฮม และมาการงที่มีรสชาติให้เลือก ทั้งมะขาม ตะไคร้ มะกรูด ข้าวเม่า ใกล้กันเป็นคัพเค้กกลิ่นมะกรูดและทรัฟเฟิล รวมไปถึงแฟชั่นฟรุต เป็นช่วงเบรกของน้ำชาแบบไทยๆ ที่น่าจดจำ
ตามมาติดๆ กับ Monsieur Kimhun เมนูที่ชวนให้รู้สึกสดชื่นรับลมร้อน ชูครีมไส้สาคูหนึบๆ หยุ่นๆ ราดด้วยครีมใบเตยตามมาด้วยมะม่วงสดของคู่ฤดูร้อน ราดด้วยวิปครีมเนย ให้ความรู้สึกที่สดชื่น เสิร์ฟพร้อมกับชาไทย
ต่อกันด้วยเซท เลดี้บัค หรือ เต่าทอง นางเอกข้างในเป็นซอฟต์ชีสเค้ก ราดหน้าด้วยเยลลี่ลูกม่อนจากเชียงใหม่ อีกที่เป็นช็อกโกแลตชิป วิธีการคือการนำช็อกโกแลตไปชุปกับแป้งทองม้วน ให้ความกรุบๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ใกล้กันเป็นมาการงทรัฟเฟิล เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมลูกม่อน ที่ให้ความเปรี้ยวหวานสดชื่น
อีกเมนูที่เรียกความสดชื่นไม่แพ้ หวานเย็นเซต หรือไอศกรีมโฮมเมด ที่มีรสมะม่วง สับปะรด กล้วย ลูกม่อน มะขาม มะตูม กาแฟ วานิลลา เพิ่มความหอมของไอศกรีมด้วยการนำไปอบควันเทียน และเพิ่มความสนุกด้วยการนำข้าวกล้องมาเป็นท็อปปิ้งหน้าไอศกรีมอีกที
นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่น่าลิ้มลองอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กล้วยแขกเซต ตัวกล้วยแขกทำหน้าตาเป็นเอแคลร์แบบฝรั่งเศส แต่ไส้จะเป็นกล้วยน้ำว้า ราดด้วยคาราเมลกล้วยน้ำว้าอีกที ในเซตนี้ยังมีไอศกรีมกะทิแบบไทย กินกับน้ำตะไคร้ หวานลื่นคอแต่เป็นรสชาติที่คุ้นเคย
อีกเมนูที่น่าสนใจคือ มาการง ที่เปลี่ยนรสชาติจากบลูเบอร์รี่ อัลมอนด์ ที่คุ้นเคยมาเป็นรสชาติเฟลเวอร์ไทยๆ ที่แสนคุ้นลิ้นไม่ว่าจะเป็นเรดบูลหรือกระทิงแดง รสมะขาม ตะไคร้ มะกรูด ข้าวเม่า รสช็อกโกแลตพริกเผา ฯลฯ
สนใจขนมหวานใจไทยแลนด์ในหน้าตาแบบฝรั่ง ที่ผสานกันจนกลายเป้นความอร่อยที่ลงตัวได้แล้ววันนี้ที่ ร้านอิษยา ลา ปาทิสเซอรี่ ชั้น 5 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 094-724-5447


