posttoday

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อยากเห็นคนไทยสุขภาพตาดี

07 ตุลาคม 2557

ทุกวันพฤหัสบดีจะเป็นวันที่ “อาจารย์เต็งหนึ่ง” รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อาจารย์แพทย์หนุ่มไฟแรงผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดดวงตาแห่งโรงพยาบาลศิริราช

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ จุลดิศ อ่อนละมุน

ทุกวันพฤหัสบดีจะเป็นวันที่ “อาจารย์เต็งหนึ่ง” รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อาจารย์แพทย์หนุ่มไฟแรงผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดดวงตาแห่งโรงพยาบาลศิริราช ต้องทำหน้าที่ผ่าตัดดวงตาให้กับคนไข้ที่เป็นโรคต้อกระจกและต้อหินมากกว่าวันอื่นๆ รวมอยู่ที่ประมาณ 8-9 คน บางวันมากสุดขยับถึง 11-12 คนก็มี เรียกว่าเวลา 8 โมงครึ่งไปจนถึงบ่าย 4 โมงครึ่งวันนั้นอยู่แต่ในห้องผ่าตัด ทว่าใน 5 วันทำงานจะเข้าห้องผ่าตัด 3 วัน

นอกจากตรวจรักษาโรคตาให้กับคนไข้ในฐานะจักษุแพทย์ และเป็นอาจารย์แพทย์สอนลูกศิษย์ลูกหาแล้ว นายแพทย์ผู้นี้ยังทำหน้าที่ในบทบาทผู้บริหารของโรงพยาบาลด้วย โดยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยคณบดีฝ่ายนโยบายและแผน และล่าสุดผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ด้วยวัย 45 ปี แต่ก้าวมาอยู่จุดนี้ถือเป็นที่น่าจับตา

ด้วยบุคลิกเป็นคนพูดเก่ง ลีลาการพูดมีจังหวะจะโคน น้ำเสียงฟังสบาย ไม่ว่าจะไปบรรยายหรือเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคตาในที่ไหน ผู้ฟังมักจะชื่นชมฟังแล้วเข้าใจ หรือแม้แต่การเป็นพิธีกรในงานต่างๆ ในศิริราชก็จะได้รับการชื่นชมว่าทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม จึงไม่แปลกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร

เส้นทางสู่การเป็นหมอและจักษุแพทย์

การได้รับความชื่นชมจากครูและญาติๆ ว่าเป็นคนเรียนเก่ง ปัญญาดี ถือเป็นการจุดประกายให้นายแพทย์เต็งหนึ่งเลือกที่จะเรียนแพทย์ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ตามที่ทุกคนสนับสนุน แม้ว่าความรู้สึกลึกๆ ข้างในอยากเป็นนักธุรกิจก็ตาม

“สมัยเป็นนักเรียน ทั้งญาติๆ คนในครอบครัว หรือคุณครูผู้สอนจะชมบ่อยๆ ว่า เรียนหนังสือเก่ง หัวดี บอกว่าเก่งอย่างนี้ต้องเป็นหมออย่างเดียว ก็เลยตัดสินใจเรียนแพทย์ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แต่ถ้าถามว่าในใจลึกๆ ตอนนั้นอยากเป็นอะไร ตอบตรงๆ นะอยากเป็นนักธุรกิจมากกว่า”

ทว่า หลังจากเรียนจบแพทย์ คุณหมอได้ไปทำงานเป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลลาดบัวหลวง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะกลับมาเรียนแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพราะชอบด้านการผ่าตัดเป็นพิเศษ และได้รับการบรรจุตำแหน่งอาจารย์ที่ศิริราชพยาบาล

“ตอนอยู่โรงพยาบาลลาดบัวหลวงที่พระนครศรีอยุธยา ผมได้ผ่าตัดคนป่วยบ่อยและก็ชอบการผ่าตัด ดังนั้นพอกลับมาก็มาเรียนทางจักษุ ซึ่งก็ถือเป็นสูตรผสมที่ลงตัวของการรักษาทางด้านการผ่าตัดและการใช้เลเซอร์ เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่าน่าจะลงตัวกับชีวิตที่ไม่หนักเกินไป อีกอย่างก็เป็นสาขาที่ทำให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น”

คุณหมอเล่าต่อว่า งานทางด้านจักษุเป็นงานที่ไม่หนักเกินไป ต่างจากของหมอศัลย์ หมออายุรเวช หรือแม้แต่หมอสูติที่ต้องทุ่มเทให้กับวิชาชีพตลอด กล่าวคือเวลามีเรื่องฉุกเฉิน คนไข้เกิดเป็นอะไรขึ้นมา หมอเหล่านี้ต้องไปดูทันที ขณะที่ทางด้านจักษุจะเป็นอีกระดับหนึ่งของการดูแลสุขภาพร่างกายให้คนไข้มีสุขภาพชีวิตดีขึ้น แต่จะไม่ฉุกเฉินขนาดนั้น

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อยากเห็นคนไทยสุขภาพตาดี

 

เรียนต่อต้อหิน

ด้วยความที่เห็นคนไข้ต้อหินมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในอดีตแพทย์เฉพาะทางด้านต้อหินมีน้อยมาก คุณหมอจึงตัดสินใจไปเรียนต่อทางด้านต้อหิน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 2 ปี และที่เยอรมนีอีก 6 เดือน และพอกลับมาก็ได้ตั้งโปรแกรมเป็นหลักสูตรต้อหินที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

“ต้อหินเป็นโรคที่ก่อให้เกิดภาวะตาบอดมากที่สุด แต่เชื่อไหมว่าแพทย์ต้อหินของไทยเราในอดีตมีน้อยมาก ผมจึงตัดสินใจไปเรียนเพื่อต้องการที่จะช่วยเหลือกลุ่มคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นแน่นอน และตอนที่จบมาใหม่ๆ เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วน่าจะมีแพทย์ด้านนี้ประมาณ 30 คน ปัจจุบันมีอยู่ราวๆ 100 คน ถือว่าน้อยนิดต่อจำนวนประชากร 65 ล้านคน ทั้งนี้หลังจากกลับมาก็เปิดหลักสูตรเฉพาะทางต้อหินที่ศิริราชเป็นครั้งแรกด้วย”

นพ.นริศ เล่าว่า การดูแลรักษาต้อหินในประเทศไทยในปัจจุบันก้าวหน้าไปพอสมควร แต่ต้อหินยังเป็นโรคที่ทำให้เกิดภาวะตาบอดชนิดถาวรที่เจอบ่อยที่สุด คนที่มีโอกาสเป็นจะเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ การใช้ยา อุบัติเหตุ เบาหวาน เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่จะไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ตามโรคต้อหินสามารถรักษาได้

“มีบางคนบอกว่าเป็นต้อหินต้องตาบอดอย่างเดียวรักษาไม่ได้ ถือเป็นความเข้าใจผิด จริงๆ แล้วถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โอกาสตาบอดมีไม่ถึง 10% แต่ถ้าไม่รักษามีโอกาสตาบอด 6070% โรคต้อหินจะไม่มีอาการเลย ส่วนใหญ่คนทั่วไปมักจะเป็นต้อหินเรื้อรัง ซึ่งระยะแรกไม่มีอาการ เพราะต้อหินกำลังทำลายลานสายตารอบนอก แต่ตรงกลางดวงตายังมองเห็นชัดอยู่ เพราะฉะนั้นจึงต้องคอยสังเกตตัวเอง ใครที่ขับรถชอบชนด้านข้าง หรือมองด้านข้างไม่ค่อยชัด ควรจะมาตรวจก่อน แต่ว่าโดยทั่วไป 80-90% ของคนเป็นโรคนี้เป็นการตรวจพบโดยบังเอิญ”

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อยากเห็นคนไทยสุขภาพตาดี

 

ในชีวิตทุกคนต้องตรวจตาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

คุณหมอเต็งหนึ่ง กล่าวว่า คนที่มีประวัติเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นต้อหิน หรือสายตาสั้นหรือยาวมากๆ รวมถึงคนที่อายุ 45 ปีขึ้นไป อย่างน้อยก็ควรที่จะพบจักษุแพทย์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ปัจจุบันศิริราชก็มีโครงการตรวจคัดกรองโรคตาในคนที่อายุ 45 ปีขึ้นไป หรือแม้แต่ชมรมต้อหินแห่งประเทศไทยก็จัดงานต้อหินทุกปีในเดือน มี.ค. มีการประชาสัมพันธ์ให้คนมาตรวจคัดกรองต้อหินทุกครั้ง หรือจะมาที่ศูนย์สุขภาพตาอารีญ่า อยู่ที่ด้านโลตัส ปิ่นเกล้า ก็ได้

“ศูนย์สุขภาพตาอารีญ่านั้นผมตั้งขึ้นมา เน้นคนที่ไม่เคยตรวจสุขภาพตามาเลย คือบางคนอาจไม่มีเวลาไปโรงพยาบาล หรือกลัวว่าไปแล้วจะใช้เวลาเป็นวันๆ ก็สามารถมาที่ศูนย์สุขภาพตาอารีญ่าได้ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็รู้หมดทุกอย่างเกี่ยวกับดวงตาของเราแล้ว ผมอยากจะบอกว่าทันทีที่คนไข้เดินเข้ามาหาจักษุแพทย์หมอต้อหินปุ๊บ วันนั้นจะเป็นวันที่เขามีโอกาสที่ตาจะไม่บอด ยิ่งมาพบหมอเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น โดยเฉพาะคนอายุ 45 ปีขึ้นไปควรจะมาพบหมอต้อหิน”

คุณหมอเล่าว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีคนเป็นต้อหินคาดว่าอย่างน้อยประมาณ 2 แสนคนขึ้นไป ถ้าในคนอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นต้อหินประมาณ 6% สถานการณ์ตอนนี้ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ในอนาคตจะยิ่งมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ตรวจตา ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้ใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพตาของตัวเองให้มาก

ตำแหน่งอื่น : เป็นอนุกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการวิชาการของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยด้วย

วิธีดูแลสุขภาพ : ตลอด 5 วันจะทำงานหนักตลอด ดังนั้นเสาร์อาทิตย์จะให้เวลากับตัวเองมากๆ เช่น เข้าฟิตเนส ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง ต้องดูแลตัวเอง แต่หมอส่วนใหญ่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเพราะงานหนักมาก หรือพอมีก็เอาไปทำอย่างอื่น

ความชอบส่วนตัว : ชอบท่องเที่ยว ส่องนกชมไพร ถ่ายรูป ร้องเพลง เล่นกีตาร์ ส่วนกีฬา ชอบว่ายน้ำ เล่นแบดมินตัน

ความสามารถที่ทำได้ดี : เป็นพิธีกร

สิ่งดีๆ ที่อยู่ในความทรงจำ : บวชพระ 1 พรรษา ที่วัดชลประทานฯ จ.นนทบุรี และได้เขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่งในช่วงนั้น ชื่อ “บวชวัดชล” เล่าถึงชีวิตที่อยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย