posttoday

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

27 กันยายน 2557

ไฟดับไม่ถึง 5 วินาที ก็นานพอให้เกิดความกลัวและพลันให้คิด ใครกันหนอค้นพบ “ถ้ำฟ็องญา” ในความมืดนี้

โดย...ภาพ กาญจน์ อายุ

ไฟดับไม่ถึง 5 วินาที ก็นานพอให้เกิดความกลัวและพลันให้คิด ใครกันหนอค้นพบ “ถ้ำฟ็องญา” ในความมืดนี้

เดินทางสู่ความมืด

5 ชั่วโมงกว่าๆ บนถนนจากเว้ไปกว๋านบิ่ญ จังหวัดทางตอนกลางของเวียดนาม เป็นถนนเลนเดียวทำให้ทำความเร็วไม่ได้มาก แต่ก็คิดอยู่ว่าหากถนนกว้างกว่านี้จะเร็วขึ้นเสียเท่าไหร่ เพราะตามกฎจราจรจำกัดความเร็วอยู่ที่ 40 กม./ชม. ในเขตชุมชน และ 60-80 กม./ชม. บนถนนทางหลวง

จังหวัดกว๋านบิ่ญไม่มีสนามบิน แต่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวโดยมีอุทยานแห่งชาติฟ็องญาแก๋บ่าง เป็นจุดขาย ซึ่งถูกขึ้นเป็นมรดกโลกลำดับที่ 5 ของเวียดนามหลังจากฮาลองเบย์ พระราชวังเว้ เมืองเก่าฮอยอัน และอุทยานประวัติศาสตร์หมีเซินเป็นมรดกโลกมาก่อนแล้ว

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

“ถ้ำฟ็องญา” เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาตฟ็องญาแก๋บ่าง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Paradise cave หรือถ้ำสวรรค์ การไปสวรรค์ชั้นนี้ต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำซองเข้าไป แม่น้ำซองสายเดียวกับที่ฝรั่งนั่งห่วงยางจิบเบียร์ที่วังเวียง ประเทศลาว นั่นแล แต่สีของน้ำช่างต่างกันยิ่งในฤดูน้ำหลากเช่นนี้ แม่น้ำซองที่วังเวียงจะเป็นสีส้มขุ่นคลักและเชี่ยวกราก แต่ที่กว๋านบิ่ญกลับไหลเอื่อยและใสแจ๋ว

จากท่าเรือไปหน้าปากถ้ำ ใช้เวลา 30 นาที ระหว่างทางก็มองชาวบ้านดึงทึ้งสาหร่ายขึ้นจากน้ำไปพลางๆ เขาจะใช้พายคว้านลงไปในน้ำแล้วสาหร่ายกองโตก็จะติดขึ้นมาเหมือนส้อมม้วนเส้นสปาเกตตี้ “สาหร่ายพวกนี้นำไปทำปุ๋ย” ไกด์ท้องถิ่นว่าเช่นนั้นตัดคอลูกทัวร์ที่กำลังพูดถึงยำสาหร่ายว่าของใครอร่อยสุด

ล่องไปๆ แม่น้ำซองที่กว้างก็เริ่มแคบลง จากที่ยาวสุดสายตาก็กลับมีภูเขามากั้นอยู่ด้านหน้าเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานก็ใกล้ถึงสวรรค์แล้ว อย่างที่บอกสวรรค์นี้ไม่ต้องขึ้น เพราะเรือลำเดิมจะล่องแม่น้ำสายเดิมเข้าไปถึงในถ้ำ

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

แสงสว่างในความมืด

ถ้ำฟ็องญาถือว่าเป็นถ้ำที่มีน้ำตัดผ่านยาวที่สุด แต่เรือสามารถนำพาไปได้แค่กิโลครึ่งจากระยะทางทั้งหมด 7 กม. สวรรค์กิโลครึ่งนั้นถูกจัดไฟพอประมาณ คือฉายไฟเป็นจุดๆ ตามหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะสวยงาม เช่น หินฤๅษีที่มองด้านหนึ่งเป็นฤๅษีเครายาว แต่มองอีกด้านเป็นเจ้าแม่กวนอิม หินช้าง หินสิงโต ลืมบอกไปว่าเมื่อเรือเข้ามาในถ้ำจะเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เป็นฝีพายและเปิดผ้าใบกันแดดออกเป็นเรือเปิดประทุน คนในเรือสามารถมองเห็นถ้ำและอาจสัมผัสกับหยดน้ำที่เชื่อว่าหากโดนจะโชคดี

เมื่อเรือไปถึงจุดกลับก็จะวกเข้าทางเดิมและไปจอดส่งผู้โดยสารบริเวณโถงถ้ำใกล้กับทางออก จุดเดินสำรวจถ้ำฟ็องญาที่มีอายุราว 400 ล้านปี ภายในโถงนั้นแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนนางฟ้า มีตำนานแม่ลูกที่รอสามีกลับมาจากสงครามจนตายแล้วกลายเป็นหิน กองหินสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ 4 ชนิด ได้แก่ มังกร นกฟินิกซ์ เต่า ยูนิคอร์น และหินงอกหินย้อยขนาดมหึมาที่ส่องแสงระยิบยามต้องแสง และโซนพระราชา มีทั้งท้องพระโรง ห้องบัลลังก์ และห้องบรรทม ความชดช้อยเหล่านี้เพิ่งส่องสว่างเมื่อปี 2543 หลังจากติดตั้งไฟและเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ แต่น่ายินดีที่ถ้ำยังมีชีวิต เห็นได้จากน้ำหินปูนยังคงหยดทุกวัน ค่อยๆ สร้างหินงอกและเพิ่มหินย้อยปีละเซนฯ

วันที่ไปเกิดเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อไฟในถ้ำดับสนิท กะพริบตาแรกตกใจ ครั้งที่สองเริ่มสงสัย ครั้งที่สามไฟกลับมา แต่ยังคิดหาคำตอบอยู่ว่า “ใครกันหนอเป็นคนเห็นความงามในความมืดนี้” และอีก 6 กม. ที่เหลือจะมีความงามอะไรซ่อนอยู่อีก แต่ก็น่าจะปล่อยให้เป็นความลับของธรรมชาติต่อไป

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

ออกจากความมืด

แม่น้ำซองสายเดิมพากลับออกจากถ้ำ นั่งเรือผ่านชาวบ้านที่ยังเก็บสาหร่าย และขึ้นท่ากลับเข้าเมืองกว๋านบิ่ญ เมืองนี้มีจุดที่น่าสนใจด้านประวัติศาสตร์หลังจากค้นพบอักษรโบราณของชนกลุ่มน้อย “ชาวจาม” (Cham) ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ชาวจามเคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้ ซึ่งสามารถโยงเส้นเรื่องมาถึงกรุงเทพฯ ได้ เพราะชุมชนบ้านครัวย่านสยามสแควร์ก็เป็นชาวจามที่มีความชำนาญด้านการทอผ้าไหม เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมยี่ห้อจิม ทอมป์สัน นั่นเอง

นอกจากนี้ กว๋านบิ่ญยังเป็นเมืองทำสงครามต่อต้านฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิห่าม งี (King Ham Nghi) กษัตริย์องค์ที่ 8 ในราชวงศ์เหงียน และเป็นเส้นทางการรุกคืบของทหารอเมริกันเพื่อผ่านไปยังเว้ หมายความว่า ถนนจากกว๋านบิ่ญไปเว้ที่ใช้อยู่ปัจจุบันเคยมีภาพทหารอเมริกันเคลื่อนพลอยู่จริง

ชาวเวียดนามผ่านสงครามและการกดขี่จากต่างชาติมานานกว่าเวลาแห่งเอกราชที่มีมา บ่มเพาะนิสัยดิ้นรนเอาตัวรอดจนดูเหมือนไม่อ่อนน้อมเอื้ออารีถึงขนาดนักท่องเที่ยวขยาดที่จะเข้ามา โดยเฉพาะกับคนไทยที่แรงดึงดูดจากแหล่งท่องเที่ยวไม่ค่อยมีผล เพราะเรากับเขาก็มีอะไรคล้ายกัน เขามีแม่น้ำซองเรามีเจ้าพระยา เขามีถ้ำฟ็องญาเราก็มีถ้ำภูผาเพชร ทำให้เหตุผลที่จะไปเที่ยวเวียดนามก็ยิ่งน้อยลง แต่ถ้าหากมองว่าการเดินทางเป็นการออกไปศึกษาชีวิตผู้อื่นแล้ว เชื่อว่าประเทศเวียดนามจะให้บทเรียนที่ดี

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

สายการบินเวียดเจ็ทแอร์ สายการบินทุนต่ำแห่งแรกของเวียดนาม เปิดให้บริการพิเศษ SkyBoss เพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วชั้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักกระเป๋าฟรี 30 กก. ช่องเช็กอินแยกพิเศษ ช่องทางเข้าสู่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแบบฟาส พาส เลานจ์ ที่สนามบิน อาหารร้อนและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน สิทธิได้ที่นั่งแถวหน้าบนเครื่องบิน และได้รับสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องก่อนใคร

สายการบินเวียดเจ็ทแอร์เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และเปิดเส้นทางมายังกรุงเทพฯ เมื่อปี 2556 ในเส้นทางกรุงเทพฯฮานอย และกรุงเทพฯเว้ นอกจากนี้ในเดือน พ.ย. 2557 สายการบินเวียดเจ็ทแอร์จะร่วมทุนกับสายการบินกานต์ แอร์ เปิด “ไทย เวียดเจ็ทแอร์” เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการในประเทศไทย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.vietjetair.com

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

มองถ้ำ ‘ฟ็องญา’

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา