posttoday

ขนมเดือนสิบเงินล้าน ชุมชนบ้านกลาง

26 กันยายน 2557

งานบุญเดือนสิบ เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวปักษ์ใต้ หรือที่นิยมกันเรียกว่า วันชิงเปรต เพราะเป็นวันที่ยมบาลเปิดนรกปล่อยเปรตชนลงมาเยี่ยมลูกหลาน

โดย...เมธี เมืองแก้ว / ภาพ เมธี เมืองแก้ว 

งานบุญเดือนสิบ เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวปักษ์ใต้ หรือที่นิยมกันเรียกว่า วันชิงเปรต เพราะเป็นวันที่ยมบาลเปิดนรกปล่อยเปรตชนลงมาเยี่ยมลูกหลาน โดยเริ่มจากวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ ซึ่งชาวบ้านจะจัดสำรับอาหารคาวหวานไปทำบุญที่วัด หรือเรียกว่า บุญรับเปรต จากนั้นในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ชาวบ้านจะจัดเตรียมหมรับ หรือที่ชาวตรังเรียกว่า จาด เพื่อใส่ของแห้งและขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมเบซำ ขนมต้ม ขนมเทียน แล้วนำไปประกอบพิธีที่วัด เป็นการเลี้ยงส่งเปรตชนกลับยมโลก

เมื่อกล่าวถึงขนมที่ใช้ทำบุญเดือนสิบ ก็ต้องเป็นไปตามความเชื่อและภูมิปัญญาพื้นบ้าน อย่างขนมพอง หมายถึง แพสำหรับผู้ล่วงลับใช้เดินทาง ขนมลา หมายถึง เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ขนมรูหรือขนมเบซำ หมายถึง เงิน (เบี้ยรู) ขนมบ้า หมายถึง ลูกสะบ้า เพื่อให้ผู้ล่วงลับไปใช้เล่นกัน แต่ใครจะรู้มั้ยว่า ขนมเดือนสิบเหล่านี้ โดยเฉพาะขนมพองลา ในปีหนึ่งๆ สามารถสร้างเงินล้านได้เลยทีเดียว

ขนมเดือนสิบเงินล้าน ชุมชนบ้านกลาง

 

ยินดี ฤทธิฉิม หรือคุณยายดี วัย 68 ปี ชาวชุมชนบ้านกลาง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง บอกว่า ได้องค์ความรู้การทำขนมพองลา จากพ่อแม่ แล้วสอนต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ซึ่งเดิมจะทำขายกันเฉพาะในช่วงงานบุญเดือนสิบ หรือประมาณเดือน ต.ค. แต่เกรงว่าภูมิปัญญาพื้นบ้านเหล่านี้จะสูญหายไป จึงได้มาปรึกษากับ กศน.อำเภอนาโยง เพื่อหาทางสืบสาน จนเป็นที่มาของการจัดตั้งกลุ่มอาชีพการทำขนมไทยพื้นบ้าน โดยใช้พื้นที่บ้านพักเก่าซึ่งร้างแล้ว เป็นจุดเริ่มต้นของการทำขนมพองลา

ในระยะแรกมีชาวบ้านให้ความสนใจมารวมกลุ่มแค่ 15 คน ซึ่งจะทำขนมไทยพื้นบ้านชนิดต่างๆ ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็แบ่งให้สมาชิก และเก็บไว้ซื้อของในการทำขนมครั้งต่อไป กระทั่งผ่านมา 5 ปี การถ่ายทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านเหล่านี้ก็เติบโตเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ และมีชาวบ้านให้ความสนใจมาเป็นสมาชิกทำขนมไทยพื้นบ้านหลากชนิดมากขึ้น เช่น ข้าวต้มมัด ขนมหม้อแกง ข้าวเหนียวกวน นอกเหนือไปจากขนมพองลา เพียงอย่างเดียว ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าภาพงานแต่ง งานบวช งานศพ และงานประชุม

ขนมเดือนสิบเงินล้าน ชุมชนบ้านกลาง

 

อย่างไรก็ตาม การทำขนมเดือนสิบจะมีการเตรียมงานค่อนข้างนาน เพื่อให้ครบตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะขนมพองลา ที่ผลิตขึ้นมาปีละ 2-3 แสนชิ้นกันเลยทีเดียว อย่างขนมพองต้องเอาข้าวเหนียวมานึ่งให้สุกแล้วผสมกับสีผสมอาหาร จากนั้นนำไปอัดกับพิมพ์และตากแดดจนแห้งสนิท ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องทำแบบข้ามปี ส่วนขนมลาจะเริ่มทำตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. มี 2 แบบ คือ ขนมลาเกาะ กับขนมลาเช็ด ขณะที่ขนมเบซำและขนมบ้า ก็ต้องทยอยทำกันตามยอดที่ลูกค้าสั่ง แต่ปีละไม่ต่ำกว่าแสนลูก

คุณยายดี ย้ำว่า แม้ขนมพื้นบ้านเหล่านี้ทางกลุ่มจะทำไว้ล่วงหน้าหลายเดือน แต่ยืนยันว่าไม่เสีย ไม่เกิดเชื้อราแน่นอน เพราะมีเคล็ดลับที่ปู่ย่าตายายสอนๆ กันมา แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ขนมเดือนสิบสามารถสร้างเงินล้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากขนมพองลา 1 ชุด ราคา 35 บาท จะประกอบไปด้วยขนมพอง 2 ชิ้น ขนมลาเกาะ 2 ชิ้น และขนมลาเช็ด 1 ชิ้น ซึ่งขายได้ปีละไม่น้อยกว่า 1 หมื่นชุด โดยยังไม่นับรวมขนมบ้า ขนมเบซำ และอื่นๆ ซึ่งมีราคาถุงละ 20 บาท ซึ่งขายได้ปีละหลายหมื่นถุงอีกเช่นกัน

ขนมเดือนสิบเงินล้าน ชุมชนบ้านกลาง

 

อธิชา รจนะ รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง มองถึงความสำเร็จของกลุ่มอาชีพการทำขนมไทยพื้นบ้านชุมชนบ้านกลาง ว่า เริ่มต้นมาจากการจัดตั้งในรูปแบบวิชาชีพ มีพัฒนากันมาเรื่อยๆ และมีภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนการทำงาน โดยเฉพาะในปี 2556-2557 ได้ใช้งบประมาณตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนเพื่อการมีงานทำ เพื่อนำมาขยายการดำเนินงานของกลุ่มและซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม

จนขณะนี้มีชาวบ้านให้ความสนใจมาร่วมกันกว่า 30 คนแล้ว ซึ่งทุกคนพึงพอใจและมีความสุขในการมาทำงาน เพราะสามารถสร้างเงินให้กับตนเอง จนนำไปเลี้ยงครอบครัวในยามที่ราคายางพาราตกต่ำได้เป็นอย่างดี และจะมีการพัฒนากลุ่มขนมไทยพื้นบ้านแห่งนี้ ทั้งด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตลาด หรือการจัดทำบัญชี เพื่อช่วยต่อลมหายใจภูมิปัญญาพื้นบ้านการทำขนมเดือนสิบชุมชนบ้านกลางให้คงอยู่ต่อไป

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"