ฟิต แอนด์ เฟิร์ม
กระแสฟิต แอนด์ เฟิร์ม เริ่มแพร่หลายในเด็กรุ่นใหม่ที่นิยมมีร่างกายแข็งแรง ผู้ชายต้องมีกล้าม ซิกแพ็ก
โดย...เจียรนัย อุตะมะ ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
กระแสฟิต แอนด์ เฟิร์ม เริ่มแพร่หลายในเด็กรุ่นใหม่ที่นิยมมีร่างกายแข็งแรง ผู้ชายต้องมีกล้าม ซิกแพ็ก หญิงสาวต้องรูปร่างฟิตและเฟิร์ม
เทรนด์นิยมนี้ทำให้ธุรกิจสุขภาพเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือเพจให้ความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ จนยากที่จะแยกแยะว่าข้อมูลที่เผยแพร่นั้นถูกต้องหรือไม่ด
Fit-D นับว่าเป็นเพจที่กำลังมาแรงในตอนนี้ที่มียอดกดไลค์จากกลุ่มคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัยถึง 6.5 หมื่นคน
ภายในเพจไม่มีโฆษณาใดๆ ปรากฏหน้าเพจทั้งสิ้น เป็นนโยบายของเพจนี้ที่สงวนไว้เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่รักสุขภาพเท่านั้น ไม่ต้องการโปรโมทหรือขายสินค้าใดๆ
จุดเริ่มต้นเกิดจากเพื่อนสนิทที่รักสุขภาพคู่หนึ่งคือ โค้ชโอ๊ตภคพงศ์ วิเศษสินธุ์ กับ โค้ชเจเจเจตต์ กลิ่นประทุม วัย 29 ปี ที่จบปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาด้วยกัน
ช่วงเรียนนั้นทั้งคู่มีความฝันที่จะทำบริษัทที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพ ให้คนไทยออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
เมื่อเรียนจบ โค้ชโอ๊ต เรียนต่อปริญญาโทคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพประยุกต์ และทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การกีฬาประจำฟิตเนสที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขณะที่โค้ชเจเจ ได้บินไปต่างประเทศเพื่อเรียนคอร์สภาษาอังกฤษและไปอบรมเพื่อสอบใบรับรองเป็นเทรนเนอร์ส่วนบุคคลที่สหรัฐ
“ตอนนั้นผมอยากใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก อยากไปเป็นเทรนเนอร์ที่นั่น จึงเข้าอบรมจนได้ใบรับรองมา แต่ช่วงระหว่างเรียนคิดได้ว่าชีวิตต่างประเทศคงไม่เหมาะกับเรา จึงบินกลับมาเมืองไทยและร่วมทำเว็บไซต์กับโอ๊ต” โค้ชเจเจ กล่าว
โค้ชโอ๊ต เริ่มทำเว็บไซต์ www.fitd.com ปี 2552-2553 และแล้วเสร็จปี 2554 ก่อนที่เจเจจะบินกลับมาทำงานประจำที่เมืองไทย หลังจากนั้นเริ่มทำทวิตเตอร์สั้นๆ เพื่อให้คนติดตาม พร้อมกับมีเพจเฟซบุ๊ก Fit-D เพื่อลิงค์กับทวิตเตอร์ โดยไม่มีการโพสต์ข้อความใดลงบนเฟซบุ๊ก
“ตอนแรกตั้งใจจะทำธุรกิจออนไลน์ คิดกันว่าถ้ามีคนสนใจออกกำลังกายเราจะทำวิธีออกกำลังกายบนเว็บไซต์ให้คนบอกรับเป็นสมาชิก แต่เมืองไทยไม่เวิร์ก จึงเป็นเว็บไซต์และเฟซบุ๊กให้ความรู้แก่คนรักสุขภาพแทน” โค้ชเจเจ กล่าว
เมื่อจำนวนคนตามทวิตเตอร์เพิ่มขึ้น ก็เริ่มหันมาปรับปรุงเฟซบุ๊ก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่มีการโพสต์อย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา ทำให้ยอดกดไลค์ขึ้นเป็น 6 หมื่นคน
เมื่อมีคนนิยมมากขึ้น พร้อมกับงานอบรมกับหน่วยงานข้างนอกที่เข้ามา ทำให้ทั้งคู่จัดตั้งบริษัทขึ้นมาชื่อว่า Fit-D มีการดึงโค้ชนิว หรือ วีระเดช ผเด็จพล วัย 29 ปี รุ่นพี่ที่จบปริญญาตรีคณะเดียวกัน และโค้ชเป้ง สาธิก ธนะทักษ์ วัย 30 ปี รุ่นพี่สมัยเรียนปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาอีกคนเข้ามาร่วมงานด้วย
โค้ชนิว เคยเป็นเทรนเนอร์ที่บริษัท ทรู ฟิตเนส (ประเทศไทย) 2 ปี แล้วไปเรียนต่อปริญญาโทด้านโภชนาการการกีฬาและการออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัยลีดส์ เมโทรโพลีแทน ที่อังกฤษ และกลับมาเป็นผู้รับงานนอกในฟิตเนสระดับชั้นนำของประเทศหลายแห่ง
“จบกลับมาผมไม่ทำงานประจำที่ไหน รับเป็นฟรีแลนซ์น่าจะดีกว่า เป็นที่ปรึกษาด้านการรับประทานอาหารให้นักว่ายน้ำทีมชาติ ที่ปรึกษาบริษัท เนสท์เล่ ผมชอบมากกว่าทำงานในฟิตเนส เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สำคัญคือการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ มากกว่า” โค้ชนิว กล่าว
โค้ชเป้ง กำลังเรียนปริญญาเอกด้านการจัดการกีฬา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากจบปริญญาโทพลศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปัจจุบันจัดรายการโฮมรูมและรายการถึงมือหมอ ทางช่องไทยพีบีเอส มีหนังสือฟิตง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน หรือ EASY to FIT ออกมาขายและมีเว็บไซต์ส่วนตัวชื่อ EASY to FIT ที่ยอดไลค์ก็ประมาณ 6 หมื่นคนเช่นเดียวกัน
Fit-D รับฝึกอบรมด้านการออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดี ล่าสุดเป็นเครือข่ายของโครงการส่งเสริมการรณรงค์และขยายผล ศูนย์เรียนรู้องค์กรต้นแบบไร้พุงและโครงการรักเดิน โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้วยการนำกิจกรรมออกกำลังกายและให้ความรู้ด้านโภชนาการ
นอกจากนั้น ยังเคยเป็นวิทยากรอบรมด้านสุขภาพแบบครบวงจรให้พนักงานบริษัท ปตท. และบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)
“เรายังไม่ได้ทำการตลาดด้วยการออกไปหางาน แต่ส่วนใหญ่งานที่ได้มากนั้นเป็นการแนะนำและบอกต่อกันมา” โค้ชเจเจ กล่าว
Fit-D มีการจัดกิจกรรมกลางแจ้งมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556 ด้วยการเก็บค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ 2,500 บาท ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี และวันเสาร์อาทิตย์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย สำหรับคนรักสุขภาพที่เบื่อฟิตเนส มีการฝึกแบบค่ายทหาร วิดพื้น วิ่ง สนุกๆ มีเกมให้เล่น วิ่งไล่จับ
เมื่อมีงานเข้ามามากขึ้น โค้ชโอ๊ต จึงลาออกจากงานที่ฟิตเนส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาดูแลงานด้านเอกสารและข้อความที่โพสต์บนเพจและเว็บไซต์รวมถึงทวิตเตอร์ และมีการผลัดเปลี่ยนกันโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์และเพจเพื่อความหลากหลาย
โค้ชทั้ง 4 คน ล้วนมีใบอนุญาตเป็นเทรนเนอร์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะโค้ชนิวนั้นสามารถที่จะเป็นเทรนเนอร์ที่อบรมให้เทรนเนอร์ได้เลย
ทั้ง 4 คนช่วยกันบุกเบิกบริษัท Fit-D ไปด้วยกัน เพื่อเริ่มส่งเสริม สร้างสังคม ของคนที่รักสุขภาพ และต้องการให้คนออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
โค้ชโอ๊ตนั้นเก่งเรื่องการจัดการเอกสาร งานบริหาร และประสานงาน เนื่องจากมีมารดาเป็นนักบัญชีคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ทำงานนี้ได้ดี
โค้ชเป้ง เก่งเรื่องการถ่ายทอดเรื่องสุขภาพให้เป็นภาษาง่ายๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจได้
โค้ชเจเจ มีสายสัมพันธ์ที่ดี โดยโค้ชเจเจนั้นเป็นลูกคุณอาของ ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง และสามารถเป็นโค้ชนำกิจกรรมออกกำลังกายได้
โค้ชนิว เก่งด้านการนำกิจกรรมและยังเป็นเทรนเนอร์ที่อบรมเทรนเนอร์ได้ด้วย
ทั้ง 4 คนล้วนมีใบรับรองการเป็นเทรนเนอร์ส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองระดับสากล
โค้ชนิว กล่าวว่า อุปสรรคของการทำธุรกิจนี้คือ การกำหนดราคางานที่รับ เพราะไม่มีมาตรฐานราคากลางที่เป็นแนวทางของธุรกิจมาก่อน ทำให้ต้องกำหนดราคากันเอง ซึ่งก็ไม่ได้บวกกำไรมากนัก
จนมาถึงในวันนี้ เด็กหนุ่มทั้ง 4 คน จะไต่ความฝันไปอีกขั้นหนึ่ง คือ กำลังจะมีฟิตเนสในแบบที่ทีมงาน Fit-D ช่วยกันคิดขึ้นมาจากประสบการณ์
ฟิตเนสดังกล่าวมีกำหนดการเปิดเดือน ธ.ค. 2557 อยู่ในซอยรางน้ำ ข้างโรงเรียนศรีอยุธยา ใกล้ๆ คิงพาวเวอร์ ติดสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โค้ชเจเจ กล่าวว่า อยากให้เป็นฟิตเนสที่ครบวงจรทั้งการออกกำลังกายและอาหารสุขภาพ โดยสมาชิกจะได้รับการบริการอย่างครบถ้วน ทั้งการออกกำลังกายและอาหารทั้ง 3 มื้อ เมื่อเข้ามายังฟิตเนสแห่งนี้เพื่อประสิทธิผลของการออกกำลังอย่างแท้จริง
โพสต์เท่ๆ ในเพจ FitD
1. Fun Walk Good Health Save Energy
“การเดิน” ถือว่าเป็น “กิจกรรมทางกาย” ระดับเบาถึงปานกลาง ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ในการเดิน
“กิจกรรมทางกาย” หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกิจกรรมทางกายก็คือ กิจกรรมที่เราทำตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นเดิน นั่งทำงาน วิ่งจ๊อกกิ้ง เล่นเวต ยกของ ล้างจาน ล้างรถ ทำสวน เดินขึ้นบันได ฯลฯ
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิ้ลยูเอชโอ) ได้แนะนำให้ทุกคนมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ โดยแต่ละครั้งควรต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 นาที (ถ้าน้อยกว่า 10 นาที ไม่นับรวมนะครับ)
กิจกรรมทางกายประเภทนั่งเล่นคอม นอนดูทีวี นั่งคุยโทรศัพท์ เล่นคุกกี้รัน นั่งทำงาน จัดเป็นกิจกรรมระดับแน่นิ่ง ไม่นับรวมใน 150 นาที
กิจกรรมในระดับปานกลาง ยกตัวอย่างเช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ เดินขึ้นบันได ออกกำลังกาย เป็นต้น
ทุกวันนี้คุณมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางกี่นาทีต่อสัปดาห์กันครับ?
2. FiTD Tip!
น้ำหนักที่ลดลง อาจไม่ได้หมายถึงไขมันที่หายไป การลดน้ำหนักโดยอดอาหาร ไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักที่ลดส่วนใหญ่จะเป็นน้ำและมวลกล้ามเนื้อ
3. FiTD Tip!
เคล็บลับง่ายๆ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ลองเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ ยืนแกว่งแขนเวลาละครโฆษณา วางน้ำดื่มไว้ไกลตัวจะได้เดินไปหยิบ ลองดูนะครับ


