เปิดตัว 'มนุษย์กลายพันธุ์' เมื่อทุกอณูของผิวหนังคือ 'งานศิลป์'
8...ทีมข่าวต่างประเทศ
นี่ไม่ใช่การแคสติง หรือการเปิดตัวนักแสดงคนใหม่ของหนังแอ็กชันฮีโร่ไตรภาคอย่าง XMEN มนุษย์กลายพันธุ์
แม้ว่าดูเผินๆ แล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเธออาจจะเหมาะเจาะกับบท
“มิสทีค” (Mystique) อยู่ไม่น้อยแต่นี่คือเรื่องจริง ชีวิตและริ้วรอยถาวรบนเรือนร่างของ
“จูเลีย นูส” หญิงวัย 55 ปี เจ้าของตำแหน่ง “หญิงที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก” จากเวิลด์ กินเนส เรกคอร์ดทุกอณูของผิวหนังบนเรือนร่างด้วยความสูง 5 ฟุต 2 นิ้ว ทำหน้าที่ไม่ต่างจากผ้าใบที่ศิลปินขึงเพื่อแต่งแต้มน้ำหมึกและวาดลวดลายลงไป
ย้อนกลับไปราวกว่า 20 ปี การบรรเลงรอยสักบนร่างของเธอเกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อเธอเข้าสู่วัย 35 ปี ที่บริเวณน่องด้านขวา ซึ่งเป็นรูปของปลาหมึกขนาดประมาณ 5 นิ้วเท่านั้น
เธอนึกย้อนไปถึงนาทีนั้นได้ดี และเล่าว่า เธอกลัวมาก มือไม้สั่นไปหมด และก็ปวดมากในตอนนั้น แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกคุ้นชินกับความรู้สึกนั้น จากในช่วงแรกที่มีเพียง 23 ลายเท่านั้น
แต่วันนี้ น้ำหมึกและเข็มที่ทิ่มแทงไปบนผิวหนังได้ลุกลามและสร้างลวดลายรอยสักให้ระบาดไปทั่วร่างกายของเธอ
รู้ตัวอีกทีเธอก็
“ติด” การสักที่แปดเปื้อนไปบนเรือนร่างแล้ว ซึ่งในที่สุดก็เป็นอย่างที่เห็น คือ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าแทบไม่มีที่ว่างให้กับสีผิวปกติธรรมดาๆ ได้โผล่ออกมาให้เห็น แม้แต่ที่ใบหน้าของเธอ จะมีก็เพียง หู ตา และเท้า ที่รอดพ้นจากน้ำหมึกมาได้ และยังรักษาสีผิวธรรมชาติลวดลายที่ปรากฏก็จะเป็นตั้งแต่รูปของธรรมชาติป่าเขา ดอกไม้ การ์ตูนดังจากวอลท์ ดิสนีย์ ไปจนถึงรูปนักแสดง นักร้องที่เธอชื่นชอบอย่าง เซ็กซ์ พิสทอลส์ (Sex Pistols) วงพังก์ร็อกชื่อดังของอังกฤษ ภาพของดาวตลกหญิงระดับตำนาน ลูซิลล์ บอล อยู่ที่แผ่นหลัง และภาพใบหน้าของ อลิซาเบธ เพอร์กินส์ นักแสดงซีรีส์ในยุค 60 อยู่ที่แก้มก้น
ซึ่งรวมๆ แล้วทั่วตัวเธอก็เพียงแค่ราว 400 ลายเท่านั้น!!!
และใช้เงินไปกว่า 4 หมื่นปอนด์ (ราว 1.9 ล้านบาท)
คิดเป็นอัตราส่วนแล้วก็คือ ราว 95% ของพื้นที่ผิวหนังในร่างกายนั้นถูกปกคลุมไปด้วยน้ำหมึก
แต่สิ่งที่เหมือนเดิมตั้งแต่หมึกหยดแรกบนผิวหนัง จนวันที่เธอได้รับรางวัลนี้ก็คือ เธอปักใจในฝีมือของศิลปินที่คนเดียวมาโดยตลอด
เธอเองก็ยอมรับว่าเธอติดกับการสักไปแล้ว!!
และนั่นก็ไม่น่าเชื่อว่า จะบานปลายกลายเป็นความรู้สึก
“ติดงอมแงม” และต้องพาตัวเองออกไปร้านสักในย่านนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เธออาศัยอยู่เกือบทุกสัปดาห์ และก็ใช้เวลาราว 23 ชั่วโมงอยู่ที่นั่น“
ฉันรู้สึกรักความรู้สึกของเข็มที่ทิ่มมาบนตัวฉัน” เธอยอมรับ“
ฉันอยู่ที่ร้านนั่นราวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อที่จะเลือกดูลาย และก็คิดว่าแบบไหนที่ฉันอยากจะให้มาอยู่บนตัวฉัน ฉันรักการที่จะจ้องมองที่รอยสักมากกว่าที่จะเห็นรอยแผล”จุดพิเศษอย่างบนหน้าอกของเธอ เป็นที่สำหรับ บาร์ต ซิมป์สัน ลูกชายคนโตของครอบครัวซิมป์สัน การ์ตูนสุดแสบยอดฮิตของสหรัฐ และนักแสดงดาวตลกผู้โด่งดังอย่าง ร็อดนีย์ แดนเจอร์ฟิลด์
“
แดนเจอร์ฟิลด์อาจจะหยาบและทะลึ่งๆ หน่อย ดังนั้นการที่มาอยู่บนหน้าอกฉันก็เป็นเรื่องที่เหมาะดี” เธอเล่าพร้อมเสียงหัวเราะแม้ในตอนนี้เธอจะไม่มีผิวหนังและที่ว่างแล้ว แต่เมื่อใดที่ต้องการลายใหม่ๆ บนตัว เธอก็จะเขียนทับไปบนลายเดิมที่มีอยู่
การเริ่มต้นของริ้วรอยนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสนุก หรือคึกคะนองของเธอเท่านั้น แต่หมึกหยดแรกที่แทรกซึมไปบนผิวหนังของเธอ ก็เพื่อที่จะลบเลือนรอยแผลพุพอง และผิวที่แดงคล้ายผิวที่ลอกเมื่อถูกไฟไหม้และแสบคัน จนทำให้ผิวบอบบางและแพ้ง่ายมาก เธอไม่สามารถสวมแม้กระทั่งเสื้อชั้นใน เนื่องจากอาการระคายเคืองจากเส้นใยผ้า หรือสารเคมีจากน้ำยาซักผ้า นั่นคือ อาการของโรคโพรพีเรีย หรือโรคผีดูดเลือด ที่เผชิญอยู่
“
รอยแผลพุพองทำให้ฉันรู้สึกไม่สะอาดและน่ารังเกียจ และการที่ใช้ชีวิตอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เมืองที่ผู้หญิงคนอื่นๆ สวยเลิศนั้น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่มากเข้าไปอีก ฉันรู้สึกหดหู่ใจและไม่ได้มีอะไรที่น่าดึงดูดเลย นั่นทำให้ฉันเก็บตัวอยู่ในบ้านตลอดเวลา ฉันอาจจะย้ายหรือออกไปหาที่ที่แสงแดดไม่แรงนัก แต่ฉันก็เกลียดอากาศเย็นและบรรยากาศที่ขมุกขมัว”ขณะที่รอยสักที่อยู่บนเรือนร่างได้ลดความสนใจของเธอจากริ้วรอยบาดแผลที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ยอมรับว่า เธอยังคงมีร่องรอยเหล่านั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นก็คุ้มค่า เพราะเธอเองก็ยอมรับว่าทุกลวดลายที่เกิดขึ้นมันมีคุณค่า
ผิวหนังของเธอยังคงพุพอง แต่เธอกลับรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น และรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น
“
ลวดลายเหล่านั้นที่ช่วยปกคลุมรอยแผลและทำให้ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น” นูส กล่าว“
ทุกวันนี้ผู้คนจ้องมาที่ฉัน เพราะว่าฉันเป็นภาพเขียนผ้าใบที่เดินได้ ไม่ใช่เพราะว่าฉันมีผิวหนังที่พุพองน่าเกลียด ฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยอยากรู้จักฉัน เพราะพวกเขาคงตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับรอยสักบนตัวฉัน” นูส กล่าวเธอกำลังมีความรักและคบหาแฟนหนุ่มที่ชื่อว่า เดวิด มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีร่องรอยสักอยู่บนตัวเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็รักในสิ่งที่เธอเป็น
“
ฉันชอบผู้ชายที่สนใจในตัวฉัน ไม่ใช่ว่ารูปลักษณ์ที่ฉันเป็น บางคนจะไม่ออกไปไหนต่อไหนกับฉันเลย และฉันอาจจะต้องหาผู้ชายที่เข้มแข็งที่อยู่ข้างๆ ฉัน เพราะฉันจะดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆแน่นอนว่า สายตาของคนทั่วไปก็ต้องจ้องมาที่ฉันและเข้ามาถามไถ่เกี่ยวกับรอยสัก และนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยและไม่เคยคิดว่าตัวเองแปลกประหลาด แต่ก็เป็นแค่เพียงศิลปะบนเรือนร่างเท่านั้น
”

