posttoday

อาณาจักรฟุตบอล ของ ‘ขจร เจียรวนนท์’

02 สิงหาคม 2557

พื้นที่ส่วนตัวที่มีขนาดสุดใหญ่แบบไม่มีใครเหมือนของ “ขจร เจียรวนนท์” ประธานสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน ภาพ / ภัทรชัย ปรีชาพานิช

พื้นที่ส่วนตัวที่มีขนาดสุดใหญ่แบบไม่มีใครเหมือนของ “ขจร เจียรวนนท์” ประธานสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร ด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น คือ พื้นที่สนามฟุตบอลสุดใหญ่ที่ “ขจร” ใช้เวลาอยู่ด้วยและคลุกคลีอย่างใกล้ชิด หลังจากเข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสรเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา

การเข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสร และต้องรับผิดชอบดูแลทีมงาน นักเตะ โค้ช สตาฟฟ์ และเจ้าหน้าที่ต่างๆ การบริหารทีมให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่แตกต่างจากการทำงานบริษัท โดยมีเป้าหมาย คือ ต้องทำให้ทีมก้าวสู่อันดับต้นๆ ของตาราง โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ให้ได้

“ขจร” กล่าวว่า การเข้ามาบริหารสโมสรฟุตบอลมีหลักการไม่แตกต่างจากการบริหารบริษัท ที่ต้องดูแลพนักงานให้ดีที่สุด ยึดแนวคิด ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ใช้ความเป็นมืออาชีพ มีความรับผิดชอบ ทำให้ทีมสามารถเติบโตได้ดี ถือว่ามีหลักการบริหารงานคล้ายกัน ดังนั้นจึงไม่มีความกังวลที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสร

อาณาจักรฟุตบอล ของ ‘ขจร เจียรวนนท์’

 

เมื่อเข้ามารับตำแหน่งในระยะแรก จะใช้เวลาไปดูทีมลงแข่งขันประมาณ 90% และให้เวลาการบริหารทีมฟุตบอลเป็นหลัก โดยจะชมฟุตบอลทั้งที่นั่งในโซนของนักเตะ ติดขอบสนาม หรือไปนั่งบนอัฒจันทร์เพื่อร่วมเชียร์พร้อมแฟนคลับ เรียกว่าใช้แทบทุกพื้นที่ในสนามฟุตบอล และทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด

“หลักการบริหารทีมฟุตบอลคือ One more time หรืออีกครั้งหนึ่ง เพื่อเพิ่มพลังให้มากที่สุด จะใช้ได้ดีในช่วงเวลารู้สึกท้อถอย หรือเหนื่อย หมดพลัง จะนึกถึงคำว่า One more time ทำให้มีพลังกลับมาสู้อีกครั้ง สามารถนำไปใช้ในทุกส่วนของชีวิต ทั้งงาน ปัญหาต่างๆ หรือการแข่งขันกีฬา นักเตะ โดยในบางครั้งระหว่างแข่งขัน แฟนบอลก็มีการตะโกนประโยคนี้ ส่งเสียงให้กำลังใจแก่นักเตะด้วย”

ขณะเดียวกัน ในบางครั้งช่วงเวลาวันหยุด ก็จะมีการแบ่งเวลามาดูนักเตะซ้อม โดยจะให้ความสำคัญกับนักเตะทุกคน และให้ความสำคัญกับนักเตะระดับฝึกหัด จึงสามารถจดจำชื่อนักเตะในทีมได้ทั้งหมด ยึดหลักที่ว่าให้ความสำคัญกับนักเตะทุกคนอย่างเสมอภาค อีกทั้งได้ส่งเสริมให้ใช้หลักการวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยส่งเสริมสมรรถนะให้แก่นักเตะเพื่อร่วมสร้างทีม

อาณาจักรฟุตบอล ของ ‘ขจร เจียรวนนท์’

 

นอกจากนี้ ยังได้เข้ามาดูแลเรื่องโค้ชของทีม ได้ปรับใหม่ให้เข้ากับนักเตะ โดยโค้ชคนใหม่ คือ “มาโน่ โพลกิ้ง” สามารถสร้างผลงานมีชัยชนะติดต่อกันต่อเนื่อง และมีอันดับทีมดีขึ้น มีผลงานน่าพอใจ และโค้ชก็สามารถเข้ากับนักเตะในทีมได้เป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับแนวทางการตลาดใหม่ ทั้งปรับโลโก้ของทีม เสื้อนักเตะให้สวมใส่สบาย และมีการระบายอากาศที่ดี ทำให้เสื้อของทีมได้รับความสนใจจากแฟนบอลเพิ่มมากขึ้น จนเสื้อผลิตไม่ทันกับความต้องการ รวมทั้งได้ให้พนักงานบริษัท ทรู สวมใส่เสื้อทีมฟุตบอลเพื่อสร้างแบรนด์

รวมทั้งได้มุ่งทำตลาดผ่านเว็บไซต์จนสามารถทำให้เฟซบุ๊กมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมี 3 หมื่นคนในช่วงก่อนหน้านี้ ในปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 1.1 แสนคน และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มได้ถึง 2 แสนคน ซึ่งกลุ่มแฟนบอลจะเพิ่มมากขึ้นตามผลงานของทีม

นอกจากนี้ ยังได้เจาะตลาดผ่านแฟนฟุตบอลที่เข้าชมฟุตบอลในสนามด้วย เพราะกลุ่มแฟนบอล แบงค็อก ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. และอยู่ในพื้นที่ใกล้กับสนามแข่งขัน คือ สนามไทยญี่ปุ่น ดินแดง จึงมีแผนขยายกลุ่มแฟนบอลให้มากขึ้น เน้น กทม.เป็นหลัก โดยเฉลี่ยจำนวนแฟนฟุตบอลที่เข้ามาชมประมาณ 1 หมื่นคน ตามความจุของสนาม

อาณาจักรฟุตบอล ของ ‘ขจร เจียรวนนท์’

 

ในอนาคต เมื่อผลงานของทีมดีขึ้นต่อเนื่อง สนามฟุตบอลอาจมีไม่เพียงพอรับความต้องการของแฟนบอล ในระยะยาวอาจจำเป็นต้องสร้างสนามฟุตบอลแห่งใหม่ เพื่อรองรับแฟนฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น และทำให้พื้นที่ส่วนตัวของ “ขจร” มีขนาดใหญ่มากขึ้น อีกทั้งมั่นใจว่าจะมีแฟนฟุตบอลต่างชาติเข้ามาเชียร์มากขึ้น เพราะในทีมมีนักเตะต่างชาติหลายคน และปัจจุบันเริ่มมีแฟนบอลต่างชาติติดตามผลงานทีมแล้ว

“ขจร” กล่าวถึงเป้าหมายของทีมต่อไปว่า ในปีนี้อยากให้ทีมติดอันดับ 1 ใน 5 และในปีต่อไปจะต้องติดอันดับ 1 ใน 3 และอนาคตอันใกล้จะต้องคว้าแชมป์ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ให้ได้ รวมทั้งในระยะยาวจะสร้างทีมให้เป็นทีมระดับเอเชีย ที่เป็นทีมแข็งแกร่งในทุกด้าน

ทีมฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด และสนามฟุตบอล เป็นอาณาจักรในพื้นที่ชีวิตแห่งใหม่ของ “ขจร” ที่พร้อมเปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้เสมออย่างไม่จำกัดจำนวน

ข่าวล่าสุด

CardX มอบเงินบริจาคห้าแสนบาทแก่สภากาชาดไทยเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาและช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย