วิกฤตขาอ่อนฉาว! ได้เวลาปฏิรูปเวทีประกวดนางงาม
วงการประกวดนางงามในปี 2557 มีข่าวฉาวและความขัดแย้งมาอย่างต่อเนื่อง มาฟังกูรูนางงามวิพากษ์ถึงรากเหง้าของปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเพราะอะไร?
โดย...Magz ออนไลน์
วงการขาอ่อนหรืองนางงามเมืองไทย ฉาวตลอกครึ่งปีแรก ล่าสุด น้ำเพชร-สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 ได้ออกมาสละตำแหน่ง เนื่องจากมีภาพหวิวที่ไม่เหมาะสมเมื่อในอดีตหลุดออกมาก่อนหน้านั้น และได้แถลงข่าวว่า ถูกกองประกวดบีบให้ทำอย่างนี้ ซึ่งเธอได้คืนตำแหน่งแต่ไม่คืนมงกุฎรางวัล พร้อมกับอัดดะวงการนางงาม ซึ่งเป็นกรณีคล้ายๆ กับ แองจี้-อัจฉรา แมคคาย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2548 ซึ่งรับตำแหน่งได้เพียงอาทิตย์เดียว ก็ประกาศสละตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าติดเรียนและงานถ่ายแบบ แต่ภายหลังก็มีข่าวว่าเธอถูกขอร้องให้สละตำแหน่ง เพราะถูกกระแสวิจารณ์ว่า เคยเป็นนางแบบถ่ายภาพโป๊วาบหวิว
โดยก่อนหน้านั้นไม่นาน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร ก็ประกาศสละตำแหน่งไปก่อนแล้ว เนื่องจากถูกสังคมออนไลน์ในโซเชียลมีเดียแฉและวิพากษ์วิจาณืถึงความเหมาะสมกับตำแหน่ง รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหามะสมในอดีต
วิกฤติการณ์นางงามที่เกิดขึ้นกับเวทีประกวดที่ถือว่าเก่าแก่และโด่งดังมากที่สุดเวทีหนึ่ง ทำให้วงการนางงามเกิดคำถามขึ้นมากมายจากสาธารณะว่า ทำไมจึงมีข่าวฉาวอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฐ์ชัย หรือ ลักษณ์ ไทยมิส ประธานกรรมการ บริษัท อีอาร์เอ็ม มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย จำกัด ผู้คร่ำหวอดและคลุกคลีในวงการนางงามมายาวนานหลายสิบปี และถือลิขสิทธิ์การประกวดเวทีนางงามและนางแบบระดับนานาชาติหลายเวที มองว่า ตอนนี้ถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดในการประกวดนางงามหรือเวทีขาอ่อนบนเวทีระดับชาติทุกรางวัล
“ว่าไปแล้วเวทีประกวดนางงามตามต่างจังหวัด การประกวดนางงามระดับจังหวัด นางงามที่ชนะเลิศสวยกว่าเวทีดังๆ เหล่านี้อีกนะ คุณภาพในการตัดสินของกรรมการนางงามต่างจังหวัดสวยกว่าเวทีใหญ่ระดับประเทศเสียอีก”
ลักษณ์ ไทยมิส ฟันธงว่า ควรมีการเปลี่ยนแปลงในวงการประกวดนางงามบ้าง ถ้ามีจุดไม่ดีเกิดขึ้นก็แสดงว่ามันถึงจุดตกต่ำ และถึงเวลาควรทำให้ดีขึ้นได้แล้ว เขาบอกว่า ข่าวฉาวในวงการนางงามที่แรงและดัง เพราะมีการตรวจสอบเข้มข้นจากผู้คนในแวดวงโซเชียลมีเดีย ซึ่งสมัยก่อนไม่มี
“ด้วยเหตุที่ยุคนี้การสื่อสารหรือการเข้าถึงจากโซเชียลมีเดียต่างๆ มันง่ายขึ้น เลยทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นที่สนใจของผู้คน แม้กระทั่งการค้นหาประวัติต่างๆ มันก็ง่าย โดยส่วนตัวแล้วชอบนะ ที่สถานการณ์ในวงการประกวดนางงามเดินทางมาถึงจุดนี้ เพราะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ”
การที่เรามีทางเลือกให้กับผู้ชมในหลายๆ เวทีของการประกวดนางงาม ลักษณ์ ไทยมิส บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีเป็นการที่จะให้ผู้หญิงไทยได้แสดงความสามารถ เปิดโอกาสและช่องทางให้ทุกๆ คนได้แสดงศักยภาพของตัวเอง แต่สิ่งที่ต้องมามองคือ มาตรฐานของผู้จัดและคณะกรรมการการประกวด
“อย่ามองเฉพาะทางด้านของนางงาม ต้องมองด้านผู้จัดด้วย เพราะคุณภาพของนางงามจะมาพร้อมกับคุณภาพของผู้จัด ผู้จัดจะต้องตามยุคสมัยให้ทัน ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ ต้องดูว่าโลกเขาไปถึงไหนแล้ว ถ้าผู้จัดยังใช้วิธีการเก่าๆ รูปแบบเดิมๆ ก็ไม่มีการพัฒนา เดี๋ยวนี้การประกวดนางงามนั้นหลีกเลี่ยงธุรกิจไปไม่ได้ ทำให้รูปแบบตั้งแต่การรับสมัคร การตัดสิน การโชว์บนเวทีก็เลยอิงไปทางธุรกิจมากจนเกินไป ตรงนี้ก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง ในแง่ของธุรกิจนางงาม การมีช่องทีวีถ่ายทอดสดอยู่ที่การเข้าถึงของผู้ชมได้มากสำหรับช่องทีวีกระแสหลักซึ่งเป็นที่นิยมดูกันอยู่แล้ว ทำให้เวทีประกวดนางงามเหล่านี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้วก็กลายเป็นมีชื่อเสียง
“ตอนนี้ก็เบื่อๆ เหมือนกัน เพราะมีบางอย่างที่เราแก้ไขไม่ได้ เห็นๆ กันอยู่ แต่มันทำอะไรไม่ได้แต่ก็ไม่เชิงว่า วงการประกวดนางงามมีมาเฟียนะ เวทีของใครก็ของมัน ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมไปทุกเวที เพียงแต่เขาสามารถจัดการในเวทีของตัวเองได้ว่า จะเอาแบบไหนหรือให้ออกมาอย่างไร กรรมการตัดสินนางงามบ้านเรา 20 ปีผ่านไปไม่เคยเปลี่ยนยังเป็นคนเดิมๆ ซึ่งผู้จัดการประกวดหรือเจ้าของลิขสิทธิ์การประกวดคิดว่าเป็นเวทีของเขาจะทำอะไรก็ได้ มาตรฐานการประกวดเลยแย่ อย่างนี้ก็ไม่ถูกเพราะการประกวดนางงามนั้นเป็นการทำงานออกสู่สาธารณะก็ต้องเคารพผู้ชมที่เป็นสาธารณะด้วย”
หากย้อนหลังกลับไปในหลายปีที่ผ่านมา พลิกแฟ้มดูข่าวนางงามฉาวที่เป็นข่าวทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ก็มีอยู่หลายกรณีที่น่าสนใจ อย่าง ฟ้า-ชัญษร สาครจันทร์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2554 ออกมาแฉความเน่าเฟะของวงการนางงามออกสื่อ เผยว่ามีใบสั่งจากผู้ใหญ่ให้ไปทำหน้าอกก่อนเข้าประกวด หรือจอย-จตุพร แสงทอง รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2546 ถูกขุดคุ้ยประวัติส่วนตัวว่า เคยผ่านการสมรสมาแล้ว ซึ่งสุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน
ข่าวฉาวแบบแปลกๆ ก็มี อย่าง นก-ยลดา โคมกลอง ตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวด Miss Tourism International 2544 ถูกจับได้ว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง ทั้งที่ได้ผ่านการประกวดบนเวทีสาวงามมานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแท้ ลักษณ์ ไทยมิส มองว่า เป็นผลพวงมาจากมาตรฐานของผู้จัดและกรรมการด้วยเช่นกัน
“ลิขสิทธิ์รายการประกวดนางงามระดับโลกของต่างประเทศ ราคาก็ไม่ได้แพงหรอก แต่เป็นการเอาชนะในเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่า จริงๆ แล้ววงการนางงามนั้นไม่ได้ใหญ่มาก ขอแค่ให้ผู้จัดแต่ละคนเปลี่ยนความคิดของตัวเองนิดๆ หน่อยๆ เปิดรับรู้โลกว่ามันไปถึงไหนแล้ว แล้วก็ลดการทำธุรกิจนางงามอย่างให้เกินเส้นจนเกินไป วงการประกวดนางงามก็จะดีขึ้น เห็นได้ชัดเวลาเราส่งนางงามไปประกวดในต่างประเทศทั้งเวทีระดับโลกและระดับนานาชาติ ส่วนมากก็ไม่เข้ารอบลึกๆ เลย ไม่ต้องพูดถึงรางวัล”
ลักษณ์ ไทยมิส บอกว่า การที่นางงามของไทยไม่เคยไปถึงฝั่งฝันบนเวทีประกวดระดับโลก หลังจาก ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก คว้ามิสยูนิเวิร์สหรือนางงามจักรวาลมาตั้งแต่ปี 2531 ซึ่งเท่ากับ 26 ปีเต็มเข้าไปแล้ว การประกวดในเมืองไทยเองมีส่วนอย่างสูง เพราะไม่มีการพัฒนาเลย ไม่เหมือนอย่างเวเนซุเอล่า อินเดีย เป็นต้น
“ผู้จัดการประกวดนางงามในไทยต้องเงยหน้ามามองโลกว่า เขาก้าวไปถึงไหนกันแล้ว แล้วก็ลดผลประโยชน์เกี่ยวกับธุรกิจการประกวดนางงามไม่ให้เข้าแทรกแซงการประกวด เพราะเทรนด์นางงามบนเวทีประกวดของโลกเขาไปกันไกลแล้ว เราติดกันอยู่แค่ธุรกิจการประกวดในประเทศ พอไปสู้เวทีระดับโลก ใจของผู้จัดก็คิดว่าเมื่อไม่ได้ ก็กลับมาอิงผลประโยชน์ทางธุรกิจในประเทศให้เต็มที่ก่อน เพียงแต่คิดว่าหากตกรอบบนเวทีต่างประเทศ ก็เพียงไปทำหน้าที่ให้ครบ กลับมาก็ต่อยอดทางธุรกิจบันเทิงของตัวเอง กลับมาเป็นดารานางแบบ ความคิดในแนวนี้ใช้ไม่ได้ มันไม่ใช่จิตวิญญาณของการประกวดนางงาม เพราะการประกวดคือการแข่งขัน ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดของนางงามไทยออกไปแข่ง ไม่ใช่หวังเพียงแต่ผลทางธุรกิจสปอนเซอร์ของการประกวด ต้องปรับทัศนคติปรับมุมมองปรับทิศทางการประกวดให้เท่าทันกระแสการประกวดนางงามโลกด้วย”
ทั้งหมดเป็นมุมมองของกูรูนางงามที่ได้รับการยอมรับกันในวงการ สถานการณ์ในปัจจุบันวงการนางงามก็มีปัญหาฟ้องร้องกันเรื่องลิขสิทธิ์ที่พยายามแย่งกันซื้อจากต่างประเทศอยู่ด้วยเช่นกัน เมื่อหลายๆ อย่างกอปรรวมกันจนดูเหมือนว่าจะเป็นวิกฤติการณ์ที่ตกต่ำของวงการประกวดนางงามของไทยที่ถึงเวลาปฏิรูปได้เสียที...


