สามัคคีแซบแบบส้มตำถาด
ถามหาความแซบ แบบว่าแซบอีหลี แซบจริงๆ ตอนนี้น่ะเหรอ คงไม่มีอะไรเทียบชั้น “ส้มตำถาด” ได้แน่นอน
โดย...โจนาธาน / ภาพ พงศ์ พริบไหว
ถามหาความแซบ แบบว่าแซบอีหลี แซบจริงๆ ตอนนี้น่ะเหรอ คงไม่มีอะไรเทียบชั้น “ส้มตำถาด” ได้แน่นอน
ส้มตำถาด หรือตำถาด ตามแต่จะเรียกขาน กำลังฮิตระเบิดระเบ้อ ใครๆ ต่างแห่แหนไปหากินตำถาดกัน ต่อคิวยาวเหยียด ก็ยอม!!! ใครยังไม่เคยไปลิ้มลอง ต้องไปนะจ๊ะ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่งั้นเชย (!?)
ร้านตำถาดผุดขึ้นเพียบ ทั่วทุกหัวระแหง เหนือ ใต้ ออก ตก ขาดไม่ได้อีสาน แล้วก็กรุงเทพฯ ชอบร้านไหน ใกล้เจ้าใด ก็เรียนเชิญตามสะดวก
ตำถาดร้านดังแถวๆ ทาวน์อินทาวน์ โอ้โห!!! คิวยาวววว ในร้านไม่ต้องพูดถึง แน่นเอี้ยด ลูกค้าชอบความแซบนั่งหน้าสลอน พร้อมใจจกตำถาดอย่างเอร็ดอร่อย
ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปถึงที่แล้ว จะให้หนีกลับคงไม่ใช่ รอๆๆๆๆ รอจนกว่าจะถึงคิวตัวเองนั่นแหละ หนักกว่านั้น ถ้าไปช้า หรือไปเสาร์อาทิตย์ ก็อาจรอคิวนานนนนน กว่าจะได้กิน จงรอต่อไป (555)
เอกลักษณ์ตำถาด ก็น่าจะอยู่ที่ถาดใส่ส้มตำ ถาดสังกะสีลายมวลดอกไม้ใบหญ้า สวยสดสมใจ ไซส์บิ๊กเบิ้ม ซึ่งเจ้าถาดสีสดนี่ไง ได้กลายเป็นปัญหาไม่นานนี้
ปัญหาคือว่า ถาดที่ใส่ส้มตำนั้นปนเปื้อนด้วยสารพิษ ตะกั่ว แคดเมียม และอีกหลายสาร อันเกิดจากสีพ่นบนถาด เมื่อนำมาใส่ส้มตำ คนกินกินเข้าไป เสี่ยงจะต่อมะเร็งได้ ออกโรงเตือนโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ
ตายละหว่า!!! ข่าวออกมาเยี่ยงนี้ ทำเอาตำถาดแต่ละร้านต้องหาวิธีรับมือ เดี๋ยวลูกค้าหายเกลี้ยง บ้างก็หาใบตองมารองถาด บ้างก็ใช้ถาดแก้ว หรือถาดสเตนเลส รองถาดสีอีกชั้น กันไม่ให้ส้มตำปนเปื้อนถาดสี คนกินสบายใจไปเปลาะหนึ่ง
ว่ากันซื่อๆ ตำถาดนั้นไม่ใช่ของใหม่ ของตื่นตา ของแปลก อะไรเลย มีมานานนมกาเล คุ้นเคยกันดีกับตำถาดคือคนอีสาน กินกันเป็นล่ำเป็นสัน คนอีสานขนานแท้เล่าให้ฟัง (แบบติดตลก) กินตำถาดมาแต่อ้อนแต่ออก ไม่ยักรู้ว่ามันจะดังถึงขั้นนี้ (เอิ๊กๆๆๆ)
ด้านคนเมืองกรุงก็ตื่นเต้นนิดหนึ่ง (นะจ๊ะ) อะไรเหรอ ตำถาด ความไม่เคยก็ย่อมขอเห่อเป็นธรรมดา อารมณ์เหมือนขนมอบและโดนัทยี่ห้อดัง ที่เข้ามาเปิดตลาดในกรุงเทพฯ แรกๆ มีคนแห่กันไปต่อแถวยาววววว เหมือนกัน ตำถาดเป็นกระแสตอนนี้ คนก็แห่ไปต่อคิวยาวววว
คนอีสานกินตำถาดง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตอง เช่นที่ หนองคาย เคยไปเที่ยวบ้านเพื่อน มื้อเที่ยงที่สวนยางพารา ก็เสิร์ฟตำถาด ถาดขนาดใหญ่ใส่ของสารพัดมาเต็มถาด นอกจากส้มตำปลาร้า ยังเพียบด้วยเครื่องเครา หมกปลาซิว ปลาย่าง กากหมูติดมัน เนื้อแดดเดียว ข้าวปุ้น หรือขนมจีน ผักบุ้ง ผักกระเฉด ยอดกระถิน เมล็ดกระถิน ผักพาย บางคราก็อาจมีผักพื้นบ้าน รวมทั้งของแนมอื่นๆ เช่น ดองผักเสี้ยน ปลาส้ม ไข่ข้าว ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ
ตำถาดเมืองกรุงก็แทบไม่ต่างกัน ในถาดอุดมไปด้วยของกิน ส้มตำก็รสชาติเลือกตามใจชอบ เครื่องเคราปรับให้เข้ากับคนเมือง ของพื้นบ้านอย่างอีสานคงไม่ค่อยมี แต่ละร้านนำเสนอของน่ากิน จับคู่เครื่องเคราให้เข้ากับรสส้มตำ หมูยอ แคบหมู ขนมจีน เส้นหมี่ แหนมไข่ต้ม ไข่เค็ม ถั่วลิสง ปลากรอบ กุ้งฝอย ผักดอง ผักลวก ผักสด
ไม่มีกฎกติกาสำหรับการกินตำถาด ที่อีสานกินได้ไม่เลือกเวลา เช้า เที่ยง บ่าย ค่ำ ขอแค่ว่ามีพลพรรคคอส้มตำรวมตัวมากัน ตำถาดก็พร้อมเสิร์ฟ ยิ่งใครมีฝีมือตำ เนื้อหอมเชียวแหละ มักถูกเรียกตัวมาเป็นคนตำไม่ขาด
กินตำถาดจะให้อร่อย ต้องหลายคน คนเดียวจ้างให้ก็ไม่อร่อย ถาดใหญ่ๆ หลายมือ หลายคน แป๊บเดียวก็หมด อิ่มแปล้กันถ้วนหน้า ไปกินตำถาดร้านดัง ไปคนเดียว อย่าไปเลย ขนาดไปกับแฟนสองคน ก็ยังไม่แซบเท่าไหร่ ต้องชวนเพื่อนกันไปหลายๆ คน แซบชัวร์ แย่งกันกิน หมดถาด สั่งใหม่
ทั้งอร่อยทั้งสนุก ใครมีอะไร ความนัย ความลับ กระทั่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องคนอื่น ก็สามารถเปิดใจในวงตำถาด ได้คุย ได้เมาท์ ได้มิตร ได้ญาติ
นี่ละคือสามัคคีชุมนุมความแซบที่เรียกว่าตำถาด


