posttoday

การสั่งสมบุญของท้าวสักกะ

06 กรกฎาคม 2557

ใกล้เข้าพรรษาแล้ว ชาวพุทธมักคิดถึงการทำบุญ ว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษดีในช่วงเข้าพรรษา

ใกล้เข้าพรรษาแล้ว ชาวพุทธมักคิดถึงการทำบุญ ว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษดีในช่วงเข้าพรรษา รัฐบาลก็จะสนับสนุนการเลิกเหล้าลดละอบายมุขต่างๆ บุคคลผู้ที่เป็นตัวอย่างในการทำความดี ก็คือ “ท้าวสักกะ” หรือ “พระอินทร์” นั่นเอง วันนี้ MQ จึงขอนำเรื่องการทำความดีของท่าน มาคุยกัน

หากจะสรุปความดีที่เป็นพิเศษของท้าวสักกะ ก็คงจะรวบรวมได้ในคาถาต่อไปนี้ คือ

“ทวยเทพชั้นดาวดึงส์ เรียกนรชนผู้เลี้ยงมารดาบิดา

มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล

กล่าวถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน ละวาจาส่อเสียด

ประกอบในอันกำจัดความตระหนี่

มีวาจาสัตย์ ข่มความโกรธได้ นั้นแลว่า ‘สัปปุรุษ’”

นั่นก็คือ วัตตบท 7 ประการ ซึ่งท้าวสักกะเมื่อครั้งบำเพ็ญบารมีในคราวเป็นมนุษย์ ชื่อ “มฆมาณพ” ได้บำเพ็ญ โดยการสมาทานรักษาดังนี้

1.พึงเป็นผู้เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต

2.พึงเป็นผู้มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต

3.พึงเป็นผู้พูดอ่อนหวานตลอดชีวิต

4.พึงเป็นผู้ไม่พูดส่อเสียดตลอดชีวิต

5.พึงเป็นผู้มีจิตปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่มีเครื่องบริจาคอันสละแล้ว มีฝ่ามืออันล้างแล้ว (เตรียมหยิบสิ่งของให้ทาน) ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน พึงอยู่ครอบครองเรือนตลอดชีวิต

6.พึงเป็นผู้กล่าวคำสัตย์ตลอดชีวิต

7.พึงเป็นผู้ไม่โกรธตลอดชีวิต ถ้าความโกรธพึงเกิดแก่เราไซร้ เราพึงหักห้ามมันเสียพลันทีเดียว

นอกจากการประพฤติธรรมทั้ง 7 ประการแล้ว มฆมาณพยังได้กระทำสาธารณประโยชน์ โดยการสร้างทาง สร้างศาลา เขาคิดว่า “จะทำหนทางไปสวรรค์” ด้วยว่าเมื่อ “ชนเหล่านั้นแม้ทั้งหมด เป็นผู้ได้รับสุขแล้ว กรรมนี้พึงเป็นกรรมให้ความสุขแก่เรา” โดยได้เพื่อนมาร่วมอุดมการณ์ ทำความดี รวมเป็น 33 คน

จนมีนายบ้านคิดร้าย เนื่องจากมฆมาณพและพวกทำความดี ต่างจากนายบ้านซึ่งนิยมชักชวนให้คนทำอกุศล มีการดื่มสุราสนุกสนานเป็นต้น นายบ้านได้ไปฟ้องพระราชาว่ามฆมาณพและพวกเป็นโจร พระราชาลงโทษให้ช้างเหยียบ แต่มฆมาณพได้ให้ทุกคนเจริญเมตตา ช้างก็ไม่อาจจะเหยียบได้ พระราชาเห็นแปลกพระทัยจึงได้สอบสวนจนเข้าใจ จึงได้พระราชทานนายบ้านพร้อมทั้งบุตรและภริยาให้เป็นทาส ช้างตัวนั้นก็ให้เป็นพาหนะ และให้บ้านนั้นแก่มฆมาณพและสหาย

เมื่อเป็นเช่นนั้น มฆมาณพและพวกจึงเห็นอานิสงส์แห่งบุญที่เกิดขึ้นแม้ในปัจจุบัน จึงได้คิดจะทำการบุญกุศลให้ยิ่งๆ ขึ้นไป โดยคิดจะสร้างศาลาเป็นที่พักของมหาชนให้ถาวร ในหนทางใหญ่ 4 แยก พวกภริยาของมฆมาณพจึงคิดร่วมบุญด้วยการทำช่อฟ้า ขุดสระโบกขรณี ทำสวนดอกไม้ มีแต่ภรรยาอีกคนหนึ่งคือนางสุชาดาที่คิดว่า กรรมที่สามีทำแล้วเราก็มีส่วนได้ จึงไม่ยอมทำอะไร มัวแต่แต่งตัว ซึ่งสุดท้ายไปเกิดเป็นนกยาง ท้าวสักกะต้องไปช่วยสอนให้รักษาศีล จึงได้มาเกิดในสุคติภูมิ

เมื่อศาลาเสร็จแล้ว ทั้ง 33 คน ได้ปูกระดาน 33 แผ่น แล้วให้สัญญาแก่ช้างว่า เมื่อมีแขกมานั่งบนแผ่นกระดานอันผู้ใดปูไว้ เจ้าช้างเจ้าจงนำแขกนั้นไปให้พักอยู่ที่เรือนของผู้นั้น ซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นกระดาน การดูแล ปรนนิบัติ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่นอน การนวดเท้า นวดหลัง จักเป็นหน้าที่ของผู้นั้น ซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นกระดาน

ช้างก็ได้รับผู้ที่มาแล้วๆ นำไปสู่เรือนของเจ้าของแผ่นกระดาน เพื่อการดูแลดังกล่าว

ส่วนมฆมาณพเองได้ปลูกต้นทองหลางต้นหนึ่งไว้ ไม่ห่างจากศาลา แล้วปูแผ่นศิลาไว้ที่โคนต้นทองหลางนั้น

บุญเหล่านี้ทำให้ชนเหล่านั้นได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นใหญ่ โดยมฆมาณพได้ตำแหน่งเป็นท้าวสักกเทวราช แม้ช้างเองก็ไปเกิดในสวรรค์ เป็นเทพบุตรชื่อเอราวัณ เมื่อเวลาที่ท้าวสักกะและสหายจะออกประพาสอุทยานเป็นต้น ก็เนรมิตตนเป็นช้างเอราวัณสูงถึงประมาณ 150 โยชน์ แม้ภรรยาทั้ง 3 ก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เช่นกัน พร้อมสระโบกขรณีและสวนดอกไม้ ส่วนศาลาก็ได้บังเกิดขึ้น ชื่อ ศาลาสุธรรมา เป็นเทวสภา สถานที่ฟังธรรมของเทวดาทั้งหลาย พร้อมทั้งต้นไม้ในสวรรค์และแท่นศิลา ก็ปรากฏเช่นเดียวกัน ของทุกอย่างมีความงามและยิ่งใหญ่มากไปกว่าสิ่งที่ทุกคนสร้างไว้ในโลกมนุษย์มากนัก อีกทั้งอายุของเทวดาก็ยืนยาว นับว่าการทำความดีของท่านไม่ไร้ผล คือได้ผลยิ่งกว่าคุ้มค่ามากทีเดียว

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด แมนยู พบ บอร์นมัธ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 15 ธ.ค.68