29 มิ.ย. 2003 แคทารีน เฮปเบิร์น เสียชีวิตในวัย 96 ปี
ในวันนี้เมื่อปี 2003 แคทารีน เฮปเบิร์น เจ้าของ 4 รางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิง
โดย...พชร
ในวันนี้เมื่อปี 2003 แคทารีน เฮปเบิร์น เจ้าของ 4 รางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงและตำนานยุคทองของฮอลลีวู้ด เสียชีวิตโดยธรรมชาติในวัย 96 ปี ที่บ้านในคอนเนกติคัต
แคทารีน เฮปเบิร์น เกิดมาในครอบครัวร่ำรวยที่นิวอิงแลนด์ พ่อของเธอเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง แคทารีนจบการศึกษาจากวิทยาลัยไบรอันมาวร์ในรัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะกลายเป็นนักแสดงละครเวที แล้วจึงเข้าสู่แวดวงฮอลลีวู้ด เธอได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงจากงานเรื่องที่ 3 คือ Morning Glory (ปี 1933) งานของแคทารีนประสบความสำเร็จสร้างรายได้และชื่อเสียง เธอเป็นดาราหญิงซึ่งเป็นตัวของตัวเอง ใส่ใจกับบทบาทที่เลือกรับ แต่งตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ แคเทอรีนเป็นผู้หญิงคนแรกๆ ที่ใส่กางเกงปรากฏตัวต่อสาธารณะ ทั้งยังไม่แต่งหน้า ปฏิเสธที่จะให้ลายเซ็นและสัมภาษณ์ จึงถูกมองว่าหยิ่ง ต่อมาเธอตัดสินใจซื้อสัญญาให้ตัวเองออกจากค่าย RKO เพื่อจะได้ดูแลควบคุมงานของตัวเองได้
หลังจากเลิกกับสามี ลัดโลว์ ออกเดนสมิธ เธอแอบมีความรักลับๆ กับดาราหนุ่มที่แต่งงานแล้วอย่าง สเปนเซอร์ เทรซี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตหลังจากถ่ายหนัง Guess Who’s Coming to Dinner (ปี 1967) จบ งานเรื่องนี้ทำให้ แคทารีน เฮปเบิร์น ได้รับรางวัลออสการ์อีกครั้ง ตามมาด้วยรางวัลออสการ์ตัวที่ 3 จาก The Lion in Winter (ปี 1968) หลังจากนั้นก็มีงานหนังและโทรทัศน์มาตลอด 3 ทศวรรษ เธอได้รับออสการ์นักแสดงนำหญิงอีกครั้งจาก On Golden Pond (ปี 1981) ตลอดชีวิตการทำงานเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งหมด 12 ครั้ง (มีเพียง เมอริล สตรีป ที่ทำได้มากกว่าคือ 13 ครั้ง) ทุกครั้งที่ได้รับรางวัล แคทารีน เฮปเบิร์น ไม่เคยไปรับเองเลย ต่อมาเธอเปิดเผยเรื่องราวความสัมพันธ์กับ สเปนเซอร์ เทรซี หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต
หนังเรื่องสุดท้ายของ แคทารีน เฮปเบิร์น คือ Love Affair (ปี 1994) ต่อมาในปี 1999 สถาบันภาพยนตร์อเมริกันยกย่องให้เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อเมริกัน เมื่อเธอเสียชีวิตในวันที่ 29 มิ.ย. 2003 แสงไฟบนป้ายบรอดเวย์ได้หรี่ลงเพื่อไว้อาลัยแก่การจากไปของดวงดาวสุกสว่างแห่งวงการบันเทิงผู้นี้


