ศิลปะของคนสองวัย
ปัจจุบันคนในวัยทำงานมีภาวะการตึงเครียดจากภาระหน้าที่การงาน ชีวิตต้องรีบเร่งเผชิญกับการแข่งขันตลอดเวลา
โสด
วาดภาพคลายเครียด
ปัจจุบันคนในวัยทำงานมีภาวะการตึงเครียดจากภาระหน้าที่การงาน ชีวิตต้องรีบเร่งเผชิญกับการแข่งขันตลอดเวลา
การเบรกจังหวะของการรีบเร่งใช้ชีวิต หันมาอยู่กับศิลปะหรือธรรมชาติ เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี
การวาดภาพเป็นวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียดและการจดจ่อกับการวาดภาพเป็นการฝึกสมาธิ ให้หยุดอยู่กับตัวเอง ซึ่งพร้อมที่จะสร้างพลังและสร้างจินตนาการ รวมทั้งมีผลงานสวยๆ ที่สร้างความภาคภูมิใจในตนเองและพร้อมที่จะแบ่งปันความสุขให้กับคนรอบข้าง
นายธนาคารหนุ่ม "วชิร เอื้ออำนวย" (โอ๊ต) วัย 36 ปี ผู้จัดการอาวุโส สายบริหารความเสี่ยง ด้านสินทรัพย์และ หนี้สิน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ด้วยภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ในการงานและความจริงจังตั้งใจกับการทำงาน ทำให้เกิดภาวะความเครียด นอนไม่หลับ
"วชิร" เริ่มที่จะค้นหาสิ่งที่ทำให้ใจได้สงบและผ่อนคลาย ความเครียด ทำในสิ่งที่เขาชอบ คือ "การวาดภาพ"
เขาเริ่มเรียนวาดภาพสีน้ำเมื่อ8 เดือนที่แล้ว โดยตัดสินใจ ไปเรียนวาดภาพ เพราะช่วงนั้นเครียด นอนไม่หลับ จึงหาวิธีการที่จะผ่อนคลายความเครียด ช่วงแรกก็ออกกำลังกาย ด้วยการไปตีกอล์ฟออกก๊วนกับเพื่อนๆตอนหลังเพื่อนก็มีครอบครัว มีเวลาว่างไม่ตรงกัน ก็เริ่มที่จะหากิจกรรมที่สามารถทำได้คนเดียว ก็สนใจที่จะมาเรียนวาดภาพ
"ในช่วงแรกๆ ผมก็เรียนรู้การที่จะวาดภาพเอง ก็สอบถาม เพื่อนๆไปทั่วว่าจะซื้อสีที่ไหน ซื้อเฟรมได้ที่ไหน ในที่สุดเพื่อนก็แนะนำให้ไปเรียนวาดภาพอย่างจริงจังก็เลยตัดสินใจ เรียน ไปเรียนวาดภาพสีน้ำที่เพาะช่าง การเรียนวาดภาพสีน้ำ ทำให้ผมได้พบแต่สิ่งดีๆ ทั้งอาจารย์ที่ดี ให้คำแนะนำต่างๆ ได้สังคมและเพื่อนใหม่ๆหลากหลายอาชีพ มีทั้งแพทย์ นักธุรกิจ ข้าราชการ ฯลฯ ที่มีความรักความชอบสิ่งเดียวกัน มีเรื่องราวที่พูดคุยกัน"
วชิร เล่าว่า ชอบวาดการ์ตูนมาก่อน และชอบวาดภาพสีน้ำมัน สีอะครีลิก ชอบสีสันที่สดใส สีแรงๆ แต่มาวาดภาพสีน้ำทำให้ซอฟต์ลงและเย็นลง
"การเรียนวาดภาพสีน้ำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตผม จากเดิมที่เป็นคนใจร้อน การวาดภาพสีน้ำทำให้เป็นคนใจเย็นลง เพราะต้องรอให้สีน้ำแห้ง เวลาที่เราลงสีน้ำจะเห็นความเคลื่อนไหวของสีน้ำก็มีความสุขและในระหว่างการวาดภาพจะต้องมีการพินิจพิเคราะห์ ทุกครั้งที่ผมได้วาดภาพทำให้มีความสุข และได้ผ่อนคลายความเครียด และสามารถที่จะนำทักษะการวาดภาพมาปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้อย่างมีความสุข"
นอกจากวาดภาพเพื่อผ่อนคลายความเครียดแล้ว"วชิร" ยังได้มีโอกาสที่จะแบ่งปันความสุขด้วยการสอนเพื่อนๆให้วาดภาพ และมีโอกาสที่จะร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ในการร่วมโครงการซีเอสอาร์ต่างๆ ด้วยการสอนการวาดภาพ ให้กับเด็กๆ ด้วย
เกษียณ
ปลุกฝันแก้เหงา
ในช่วงวัยเกษียณ แต่ละคนมีเวลาว่างที่จะอยู่กับตัวเองมากขึ้น ถ้าไม่มี ลูกหลานที่ต้องเลี้ยงดูหรือไม่มีงานอดิเรกทำ อาจจะปล่อยให้ชีวิตเงียบเหงา ปล่อยเวลาให้เดินไป ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
แต่มีคนในวัยเกษียณอีกหลายคนที่จะเริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเองอีกครั้งหลังอยู่ในวัยเกษียณที่ว่างจากภารกิจการงาน กลับมา ปลุกฝันวันวานขึ้นมาใหม่ และเริ่มต้นลงมือที่จะเรียนรู้หรือเริ่มต้นก้าวเดินไปตามความฝันหรือสิ่งที่ตัวเองต้องเก็บซ่อนลึกไว้ โดยมีคำว่า "ไม่มีเวลา" เป็นอุปสรรคขวางกั้น
"อายุไม่ใช่อุปสรรคการเรียนรู้และศิลปะไม่ใช่เรื่องพรสรรค์แต่เราต้องพยายามฝึกฝน"
รัชนี ศรีเจริญ อดีตอาจารย์คณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี วัย 65 ปี เล่าว่า เริ่มเรียนศิลปะวาดภาพเมื่ออายุ60 ปี เพียงเพราะเดินผ่านห้องเรียนที่มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการวาดภาพสีน้ำ ก็เข้าไปร่วมเรียนระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นก็หยุดพักไปสักระยะหนึ่ง เพราะมีภาระจะต้องเลี้ยงหลานตัวน้อย เมื่อหลานอายุ 4 ขวบ เข้าโรงเรียน ก็เริ่มมีเวลาว่างหันมาเรียนศิลปะอีกครั้ง และเปลี่ยนจากสีน้ำมาเป็นสีชอล์ก เพราะว่าพกพาสะดวกและไม่ต้องระวังมากเวลาหลานมาเล่นน้ำจะได้ไม่หกเลอะเทอะ
"ในช่วงวัยเด็กไม่ได้เรียนวาดภาพจริงจัง พอในช่วงทำงานเป็นอาจารย์ ก็ยุ่งไม่มีเวลาว่าง พอเกษียณก็มีเวลาว่าง ก็เริ่มมาเรียน วาดภาพ ทำให้เราไม่เหงา ระหว่างที่วาดภาพทำให้จิตใจสงบ มีความสุข และเพลิดเพลิน"
เริ่มแรกก็วาดภาพดอกไม้ ทิวทัศน์ ต่อมาก็เริ่มฝึกวาดภาพเหมือนก็ใช้ ภาพตัวเองเป็นต้นแบบการวาดภาพเหมือน ไม่กล้าใช้ภาพคนอื่นกลัวออกมาไม่เหมือนตัวจริง แต่เมื่อผลงานออกมาแล้วก็รู้สึกภูมิใจและชอบเอารูปวาดมาตั้งไว้ที่คนเดินผ่านที่จะมองและชื่นชมผลงานตัวเองแต่ละวันจะใช้เวลาว่างๆ 3-4 ชั่วโมง ระหว่างหลานไปโรงเรียน ซึ่งการวาดภาพแต่ละภาพนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันก็เสร็จ พอวาดภาพเสร็จก็จะเก็บไว้โชว์ที่บ้าน บางภาพวาดเสร็จก็จะมอบให้กับคนรู้จักบ้าง ทำให้มีความสุขและความภูมิใจ
ศิลปะไม่จากัดอายุ
"การเรียนวาดภาพไม่มีคำว่าสายเกินไปหรือแก่เกินเรียน อายุไม่ใช่ปัญหาของการเรียนรู้ได้"
กำพล พงษ์พิพัฒน์ อาจารย์สอนวาดภาพและเจ้าของแกลเลอรี่ KUMPON PORTRAIT ที่ "เจเจ มอลล์" เล่าว่า การวาดภาพเรียนรู้ได้ทุกวัย นักเรียนที่มาเรียนวาดภาพมีอายุตั้งแต่ 10 ขวบ มีนักเรียนที่อายุมากที่สุด 65 ปี มาเริ่มเรียนวาดภาพ บางคนก็มีพื้นฐานการวาดภาพ มาบ้าง บางคนก็ไม่มีพื้นฐานการวาดภาพ แต่ก็มาเริ่มเรียนวาดภาพเริ่มตั้งแต่การจับดินสอ พู่กัน รู้จักสี
"ส่วนใหญ่คนสูงวัยมาเรียนศิลปะวาดภาพเนื่องจากในช่วงวัยเด็กนั้นทางบ้านไม่สนับสนุนให้เรียนศิลปะหรือวาดภาพ ครอบครัวทางบ้านอยากให้เรียนแพทย์ เรียนวิศวะ เรียนบัญชี เพราะเห็นว่าการเรียนศิลปะไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ เมื่อเขาเข้าสู่วัยเกษียณว่างงานก็มาเรียนวาดภาพ มาทำตามความฝันของตัวเองในวัยเด็ก"
ประโยชน์ของการวาดภาพศิลปะถือว่าเป็นการฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจจดจ่อกับภาพวาด ไม่ฟุ้งซ่าน มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ ยิ่งเมื่อภาพวาดที่ตนเองวาดมากับมือเสร็จและสวยสมใจก็เกิดความภูมิใจยิ่งอยากจะวาดขึ้นเรื่อยๆยิ่งวาดภาพมากขึ้นเรื่อยๆฝีมือก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆและส่วนใหญ่ก็จะวาดภาพให้เป็นของขวัญคนที่รักที่ชอบก็ถือว่าเป็นความสุขในบั้นปลายชีวิตได้ และมีการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เมื่อสุขภาพใจดีสุขภาพกายก็ดีขึ้น
ในขณะที่คนในวัยทำงานก็มาเรียนศิลปะวาดภาพเพื่อเป็นงานอดิเรก และเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดในการทำงาน
งานศิลปะเป็นการทำให้จิตใจอ่อนโยน มีความละเอียด และใจเย็น เป็นการฝึกสมาธิ เมื่อมีสมาธิปัญญาก็เกิด
ทุกวันนี้ในชีวิตต้องมีการรีบเร่ง ตื่นแต่เช้าไปทำงานมีการแข่งขัน การวาดภาพจะเป็นการหยุดเวลาให้เราอยู่กับตัวเอง จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน เกิดความสงบในการทำงาน


