‘สาวไทยแท้ ฝันอยากเป็นนักแสดงและทำงานเบื้องหลัง’ ชลกาญจน์ พวงน้อย
แม้ใบหน้าของสาวน้อยวัย 20 ปี โฟนชลกาญจน์ พวงน้อย จะออกไปทางลูกครึ่งเป็นสาวอินเตอร์
โดย...วราภรณ์ ภาพ : กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
แม้ใบหน้าของสาวน้อยวัย 20 ปี โฟนชลกาญจน์ พวงน้อย จะออกไปทางลูกครึ่งเป็นสาวอินเตอร์ แต่เธอคอนเฟิร์มว่าเป็นสาวไทย 100% ปัจจุบันสาวราศีมีนคนนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล สาขาการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ มศว ประสานมิตร สาขาที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการในอนาคต ซึ่งสายตายาวไกลนี้โฟนเลือกเรียนด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบด้านไหนกันแน่ แต่พอได้ออดิชั่นด้านการแสดงก่อนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ทำให้เธอไม่ลังเลเลย เพราะยิ่งได้เรียนด้านการแสดงทำให้เธอค้นพบว่าการแสดงเป็นเรื่องน่าสนใจ
“แรกๆ ไม่รู้ว่าสาขานี้เรียนอะไร จะเหมือนกับเรียนคณะนิเทศศาสตร์หรือเปล่า แต่รุ่นพี่แนะนำว่า ในเมื่อเราถนัดการแสดง และมีสอบการแสดง ความถนัดด้านภาพยนตร์เบื้องต้น เพราะพื้นฐานโฟนชอบดูละครอยู่แล้ว โดยเฉพาะของช่อง 3 เรื่องดอกส้มสีทอง สุดท้ายโฟนก็เลือกเรียนทำภาพยนตร์ ซึ่งจริงๆ ก็เรียนเหมือนนิเทศศาสตร์ แต่โฟนหนักไปทำภาพยนตร์ เรียนทำโปรดักชั่น ซึ่งปรับเปลี่ยนไปทำละครก็ได้ เพราะได้เรียนมุมกล้อง ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เรียนการแสดง ตอนสอบเข้าอาจารย์ให้โฟนแสดงเหมือนไปแคสต์งานเลย คือให้เราจินตนาการให้เชื่อว่าเรากำลังเล่นบทนี้ ตอนนั้นเลือกบทเรยาซีนแย่งกระเป๋ากับเด่นจันทร์ บทนี้ทำให้โฟนสอบผ่านได้เรียนคณะนี้ค่ะ”
สาขาที่สาวโฟนเรียนล้วนเต็มไปด้วยวิชาด้านการแสดงที่น่าสนใจ เพื่อฝึกให้บัณฑิตกลายเป็นนักถ่ายทอดเรื่องราวด้านการละครที่ดี
“วิชาที่โฟนชอบมากๆ คือ คอนเซปต์แอนด์สไตล์ เป็นวิชาที่สอนตั้งแต่ก่อนทำหนังต้องทำการวิจัย เช่น ทำหนังแม่นาค ก่อนทำก็ต้องไปหาข้อมูล เพื่อนำมาสนับสนุนผู้กำกับและเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งเป็นวิชาที่สนุกมากๆ ชอบรองๆ วิชาแอ็กติ้ง ซึ่งต้องเรียนทั้งการออกเสียง ออกเสียงอย่างไรให้ดูข้างในมีพลัง ซึ่งเรียนกับอาจารย์คนไทย พอเรียนวิชาแอ็กติ้ง สองอาจารย์มาจากลอนดอน สำเนียงฟังยากแต่สนุกมากๆ เขาสอนหลักการว่า การเรียนแอ็กติ้งเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติออกมาอย่างไร ซึ่งแสดงให้ดี เช่น คนอกหักเราต้องรู้และมีประสบการณ์บอกเลิกแฟน แต่หากคนไม่เคยมีประสบการณ์ต้องทำอย่างไร ทำให้เราเรียนรู้คนได้หลากหลาย เราได้เรียนรู้แอ็กติ้งจากเพื่อนด้วย โฟนได้เห็นพัฒนาการของเพื่อนและตัวเราเอง”
แต่ละวิชาในสาขาการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์มีแต่วิชาที่เรียนแล้วสนุกถูกกับจริตของสาวโฟน ทำให้เธอเรียนได้ดี สามารถคว้าเกรดเฉลี่ย 3.33 มาครองได้ ซึ่งเกรดตกลงมานิดหน่อยจากที่เคยทำไว้ถึง 3.7 เนื่องจากเธอรักที่จะทำกิจกรรมด้วย อาทิ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยไปเดินแบบในงานประกวดชุดแต่งกายมุสลิม เชียร์ลีดเดอร์ เข้าค่ายรับน้อง แข่งกีฬาสีก็เป็นลีดนำเชียร์ เป็นต้น ทำให้เธอมาเรียนแล้วมีความสุขกับทั้งวิชาที่เรียน กิจกรรมและงานด้านวงการบันเทิงที่ทำ ซึ่งโอกาสในเข้าสู่วงการบันเทิงก็เพราะได้มาเรียนสาขานี้
“พี่ๆ ที่โมโน กรุ๊ปได้มาออดิชั่นพวกเราถึงในห้องเรียนเลย มาถ่ายรูป ให้หันซ้ายขวา แสดงบทโกรธ งอน ทีแรกก็คิดว่าคงไม่ได้ แต่ช่วงบ่ายๆ วันนั้นพี่ก็โทรมาว่า โฟนว่างไหม ผู้ใหญ่ที่โมโนสนใจ ให้เข้ามาดูตัว มีงานละครให้เล่นเรื่องรักเอย ช่องโมโน 29 ซึ่งกำลังออนแอร์เร็วๆ นี้ ถือเป็นละครเรื่องแรกของโฟน”
ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยทำให้น้องโฟนต้องรู้จักการแบ่งเวลา และดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและหุ่นดี
“เป็นนักแสดงต้องอย่าป่วย อย่าโทรม ต้องทำร่างกายให้แข็งแรง ดูแลน้ำหนักและรูปร่าง อย่าให้หน้าเป็นสิว อย่าพักผ่อนน้อย แต่ก็ยาก เพราะโฟนต้องเรียนทำหนังด้วย จึงต้องแบ่งเวลาดีๆ แต่พอได้เล่นเรื่องรักเอย โฟนได้มาเวิร์กช็อปละคร ซึ่งตัวเองได้รับบทร้ายเป็นพี่สาวของพระเอกที่ร้ายลึก แต่โฟนเด็กสุดในกอง แต่เราต้องเล่นเป็นผู้ใหญ่สุดๆ ซึ่งก็ยาก ผู้กำกับก็เป็นห่วง โฟนจึงต้องทำการบ้านเยอะ เอาวิชาที่เราเรียนมาวิเคราะห์พื้นหลังตัวละคร ครูแอ็กติ้งก็ช่วยด้วยค่ะ”
ขณะนี้ก็เหมือนสาวโฟนได้ก้าวมาสู่อาชีพในฝันที่เธออยากเป็นตั้งแต่ยังเด็ก ก็คือนักแสดง พร้อมๆ กับการทำงานเบื้องหลังไปด้วย ซึ่งเป็นงานที่สนุกทั้งสองแบบ อีกทั้งเป็นงานที่ท้าทาย ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ เพราะขึ้นอยู่กับโอกาสของแต่ละบุคคลด้วย


