ลูกไม้พันธุ์ร็อก

โดย...โจนาธาน / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

แม้จะไม่ใช่เวทีขาอ่อน แต่งานนี้เราก็ไม่พลาดที่จะจับสองสาว ซึ่งมีดีกรีความสวยคนละแบบมาประชันกัน หนึ่งคนสวยเฉี่ยว อีกคนสวยเปรี้ยว

ทั้งคู่กำลังเติบใหญ่ในวงการบันเทิงและเป็นที่จับตาของแฟนๆ ยิ่งเฉพาะแฟนคลับของผู้เป็นบิดาที่มีบทบาทในฐานะ “นักดนตรีขาร็อก” ฝีมือฉกาจ “เสือ” ธนพล อินทฤทธิ์” กับ “แหลม เมอริสัน”

ไหนๆ ก็จับลูกไม้ขาร็อกมานั่งคุยจ้อ “เพลง” ธนิสสา อินทฤทธิ์ ลูกพ่อเสือ “แนท” ณัฐชา นวลแจ่ม ลูกพ่อแหลม ย่อมมีเรื่องสนุกๆ น่าประทับใจให้เล่าต่อ จะอะไร ยังไง ไปฟังจากปากพวกเธอกัน

ตามฝันพ่อด้วยการร้องเพลง

พ่อมีอิทธิพลต่อตัวน้องเพลงมากๆ เธอบอกอย่างนั้น ตอนเด็กเธอคลุกคลีกับพ่อ เห็นพ่อเล่นดนตรี แต่งเพลง ความชอบและความรักดนตรีจึงซึมซับอยู่ในสายเลือด เลือดพ่อเสือข้นยังไง ก็วัดได้จากน้องเพลงที่แสดงออกมาในมาดนักร้อง

วันนี้น้องเพลงก้าวมาเป็นหนึ่งสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป 5 สาวสุดเฟี้ยว “ไกอา” แห่งค่ายดู เอ ดอท (ในเครือเวิร์คพอยท์) ที่โชว์พลังการร้องและทักษะการเต้นอย่างเต็มความสามารถ เธอบอกด้วยสีหน้าปลื้มปริ่ม สมใจอยากกับความฝัน

“คุณพ่อสนับสนุนเต็มที่ค่ะ แต่ก็ไม่พยายามยัดเยียดว่าหนูต้องเป็นอะไร ทำงานอะไร หรือแม้แต่เรื่องเข้าวงการ คุณพ่อก็ให้หนูเลือกเอง ตามความเหมาะสมและวัย คุณพ่อเน้นย้ำเสมอว่าเรื่องเรียนต้องมาก่อน ต้องเข้ามหาวิทยาลัยก่อน ประโยคหนึ่งที่หนูจำได้ คุณพ่อจะพูดว่า เวลาจะมาถึงเอง ไม่ต้องรีบร้อนหรอก”

และแล้วเวลาของเธอก็มาถึง เมื่อค่ายเพลงน้องใหม่หยิบยื่นโอกาสให้เธอ ซึ่งเธอก็คว้าโอกาสดีๆ นั้นไว้ โดยมีพ่อเป็นคนชี้แนะและให้คำปรึกษา

“ส่วนตัวหนูจะรู้สึกไม่ดีเลยเวลามีคนบอกว่า แหม!!! ได้เป็นนักร้องเพราะพ่อเป็นนักร้องไง หนูว่าเป็นการดูถูกกลายๆ เหมือนกันนะคะ ทั้งๆ ที่คุณยังไม่ได้เห็นความสามารถเลย แต่ตัดสินเด็กคนๆ หนึ่งแล้ว อยากให้มองที่ความสามารถกันหน่อยมั้ยคะ อย่างพี่ๆ ค่ายดู เอ ดอท ก็ค่อนข้างเปิดใจและให้โอกาสหนู ที่พี่ๆ เขาเลือกหนู ไม่ใช่เพราะหนูเป็นลูกนักร้อง แต่เพราะความสามารถของหนูต่างหาก”

ลูกศิลปินไม่สิ้นลาย ลายพ่อเสือที่จัดจ้านในการเล่นดนตรี ลูกสาวอย่างน้องเพลงก็สืบทอดมาแบบ เต็มๆ ไม่ว่าจะการร้อง การเต้น สุดติ่งจริงๆ ไม่เชื่อลองเข้าไปชมมิวสิกวิดีโอเพลง “ออดิชั่น(เลือกได้)” ที่มีสองเวอร์ชั่น ทั้งไทยและอังกฤษ

“ชอบเต้นมากค่ะ ถึงไหนถึงกันค่ะ (หัวเราะร่วน) เสียงก็โอเคนะคะ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม) เล่นกีตาร์ได้ แต่ยังไม่เก่ง เรื่องดนตรีนี่หนูไม่เคยเรียนจริงจังเลยนะ กีตาร์ก็หัดเล่นเอง เพราะบ้านมีแต่กีตาร์ เด็กๆ เดินไปทางไหนก็เจอแต่กีตาร์เต็มบ้าน คุณพ่อก็บอกตลอดว่าเพลงลูกเล่นหน่อยมั้ย คุณพ่อไม่เคยบังคับ ฝึกเองจนเป็น โดยมีคนพ่อช่วยสอนอีกแรง”

ลูกพ่อเสือเหมือน หรือต่างกับพ่อเสือยังไงบ้าง น้องเพลงนิ่งคิด จากนั้นเธอก็บอกว่าพ่อน่าจะเป็นเหมือนกับเธอตรงที่รักดนตรี มีความสุขกับดนตรี ได้เล่นดนตรีแล้วโลกทั้งใบกลายเป็นความแฮปปี้สุดๆ

“นิสัยอีกอย่างที่หนูกับคุณพ่อเหมือนกัน คือเป็นคนคิดเยอะ คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย คุณพ่อไม่ใช่คนดุนะคะ (ทำตาวาว) แต่คุณพ่อจะชอบเป็นผู้เฝ้าสังเกตการณ์ในสิ่งที่หนูกำลังทำอยู่ สรุปคือคุณพ่อไม่ดุค่ะ แต่แค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ”

 

ความสนิทระหว่างพ่อลูก น้องเพลงยอมรับว่าสนิทมากกกกก ปรึกษาทุกเรื่อง ไปไหนไปกัน ตอนเด็กๆ พ่อไปรับส่งที่โรงเรียนทุกวัน พอขึ้นมหาวิทยาลัย (คณะนิเทศศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) พ่อขาร็อกก็ยังทำหน้าที่นั้นเป็นปกติ เรียกว่าเป็นคู่พ่อลูกผูกพันกันจริงแท้

“เพลงคุณพ่อฟังตลอดค่ะ ที่ชอบก็คือ ดาวดวงน้อย เพลงนี้คุณพ่อแต่งให้หนูกับน้องสาว เนื้อหาพูดถึงพวกหนูโดยตรง ฟังครั้งแรกร้องไห้เลยค่ะ น้ำตาไหลออกมาโดยอัตโนมัติ เพราะคุณพ่อแต่งออกมาจากอารมณ์และประสบการณ์ชีวิต เพลงนี้ฟังทีไรก็ร้องไห้ทุกทีค่ะ

ถ้าได้ร่วมงานกับคุณพ่อ หนูคงเขินๆ แหละ ไม่รู้สินะ ดูมันเหมือนเป็นกิจการในครอบครัวยังไงไม่รู้ (หัวเราะลั่น) แต่ก็ไม่แน่นะ เผื่อคุณพ่อมาทำเพลงให้ไกอา ก็ได้อยู่นะคะ”

@นางเอกในใจของคุณป๋า

ดาวรุ่งพุ่งแรงวิก 7 สี เปิดหน้าจอมาน้องแนท ตอนนี้ก็มีละครออนแอร์ “แหม่มจ๋า” กับ “ปีกมงกุฎ” ซึ่งเธอก้าวมารับบทนางร้ายที่ร้ายเฉพาะในจอ แต่นอนจอเธอคือนางเอกของพ่อแหลม

“ปรึกษาทุกเรื่องค่ะ แต่แนทจะเป็นคนมองโลกสวย ก็จะไม่เก็บอะไรมารกสมอง แนทกับคุณพ่อค่อนข้างสนิทกันมากค่ะ คุณพ่อลุคภายนอกอาจจะดูดุๆ โหดๆ แต่เชื่อมั้ยค่ะ ตัวจริงคุณพ่อใจดีมากกกกกก (ลากเสียง) เวลาแนทไปช็อปปิ้ง คุณพ่อก็จะไปด้วยทุกครั้งที่ว่าง เป็นเรื่องแปลกค่ะไปช็อปปิ้งกับคุณพ่อ แนทก็จะได้ผู้ช่วยในการเลือกเสื้อที่ถูกใจ แนทก็เลยต้องหนีบคุณพ่อไปช็อปปิ้งด้วย”

แนทเกิดที่ภูเก็ต ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่พัทยา คุณพ่อแหลมก็ประการเล่นดนตรีที่นั่น ส่วนแนทย้ายตัวเองมาอยู่ที่กรุงเทพฯ กับคุณแม่ แต่ความคิดถึงที่ลูกสาวมีต่อคุณพ่อขาร็อกก็ยังไม่เสื่อมคลาย คิดถึงเมื่อไหร่ก็ยกหูโทรศัพท์หากัน

“สิ่งที่แนทได้จากคุณพ่อคือเรื่องดนตรี แนทชอบฟังเพลง เล่นกีตาร์ไฟฟ้า ก็เพราะคุณพ่อ เด็กๆ จำได้ว่าคุณพ่อจะพาแนทไปที่ที่คุณพ่อเล่นดนตรีตลอด พอโตขึ้นแนทก็ไม่อยากไปละ คุณพ่อเริ่มสอนที่บ้าน เปียโนก็เคยเล่น แต่แนทไม่ชอบ ไวโอลินเรียนอยู่ 5 ปี ก็หยุดไป เพราะรู้วึกว่าตัวเองไม่ชอบดนตรีคลาสสิก เลยหันมากีตาร์ไฟฟ้า เริ่มเล่นตอน ม.ปลาย ฝีมือดร็อปลงค่ะ เพราะไม่ได้ซ้อม ตอนที่เล่นหนัง ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ ติวเข้มค่ะ โดยมีคุณพ่อนี่แหละช่วยติวให้”

แม้จะได้เอาดีทางการเล่นดนตรี หรือมีผลงานเพลง แต่แนทก็ยังไม่ทิ้งความสามารถเฉพาะตัวด้านนี้ ถ้ามีโอกาสเธอก็อยากทำงานเพลง เพื่อให้คุณพ่อภูมิใจ

“ดนตรีก็เหมือนชีวิตคนเรานั่นละค่ะ ตอนไหนมีความสุข เมโลดี้ก็จะออกมาเพราะ คนเล่นก็มีความสุข สุขที่จะได้เล่นเพลงที่มีโมโลดี้เพราะๆ อย่างตอนนี้แนทว่าแนทมีความสุขมากกับการเป็นนักแสดง ควบคู่กับการเป็นนักศึกษา (คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต) ตารางก็ชีวิต ตารางเรียน ก็ต้องจัดสรรให้ลงตัว เหนื่อยคะแต่มีความสุขดี”

คำสอนใดที่คุณพ่อส่งถึงกับลูกสาวคนนี้ แนทยิ้มหวานแล้วบอกว่า เมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อยให้กลับมาบ้าน เพราะบ้านคือสถานที่ที่มีความสุขรออยู่

“สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตแนทว่ากำลังใจ เงินก็สำคัญ แต่กำลังใจคนในครอบครัวสำคัญยิ่งยวด พ่อจะบอกแนทว่าถ้าไม่ไหว หรือเหนื่อย ให้กลับบ้าน คุณพ่อไม่เคยบังคับแนทเลย คุณพ่อใจดีมากกกกกกก แต่คุณพ่อหวงแนทมากกกกก อัธยาศัยดี เฟรนด์ลี คุณพ่อจะให้แนทระวังคน เตือนว่าระวังโดนหลอก แต่แนทก็จะบอกคุณพ่อไปว่า พ่อนั่นละต้องระวังคนที่จะมาหลอก เพราะคุณพ่อใจดีเกินไป”

ข่าวลือคุณพ่อแหลมห้ามลูกสาวคบกับนักร้องหนุ่มมาดเท่ จริง ไม่จริง แนทมีคำตอบ

“เป็นเรื่องปกติค่ะของพ่อที่มีลูกสาว ก็ต้องห่วงและหวงเป็นธรรมดา แล้วยิ่งแนทสนิทกับคุณพ่อ คุณพ่อก็เลยต้องออกมาเตือนเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งแนทก็เข้าใจท่านนะ แต่แนทก็พยายามใช้เหตุผลอธิบายว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง คุณพ่อก็รับฟัง ตอนนี้ก็เย็นลง ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังคุยกันเหมือนเดิมค่ะ คุณพ่อแค่เตือนมากกว่า ไม่ได้ปิดกั้นขนาดนั้น”